เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8-10 คน
Level
4
INGREDIENTS
ข้าวสารเหนียวเขี้ยวงู
1½ ถ้วย
น้ำใบเตย (ใบเตยหั่นชิ้นเล็ก 4 ถ้วย ปั่นกับน้ำ 4 ถ้วย)
4 ถ้วย
สารส้มป่นละเอียด
½ ช้อนชา
กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 250 กรัม คั้นกับน้ำอุ่น ½ ถ้วย)
¾ ถ้วย
น้ำตาลทราย
½ ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยมัดเป็นปม
2 ใบ
ไข่ไก่ (ฟองละ 65 กรัม)
2 ฟอง
ไข่เป็ด (ฟองละ 60 กรัม)
1 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ
¼ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยมัดเป็นปม
4-5 ใบ
หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 250 กรัม คั้นกับน้ำอุ่น ¼ ถ้วย)
½ ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
กะทิหยอดหน้าข้าวเหนียวมูน
กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม คั้นกับน้ำอุ่น ½ ถ้วย)
1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า
2 ช้อนชา
เกลือสมุทร
¾ ช้อนชา
น้ำตาลทราย
2 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยมัดเป็นปม
2 ใบ
พิมพ์สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 4 นิ้ว สูง 2 นิ้ว จำนวน1 พิมพ์, กระทงใบตอง, ผ้าขาวบาง, ลังถึง,กระทะทองเบอร์ 11, พายไม้
METHOD
1. ล้างซาวข้าวเหนียว 2 ครั้ง แล้วนำไปแช่น้ำใบเตยให้น้ำท่วมสูงจากข้าวประมาณ 3 ซม. ใส่สารส้ม คนให้สารส้มละลายแช่ข้าวเหนียวอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไปหรือข้ามคืน สารส้มจะช่วยให้ข้าวเหนียวสุกใสเป็นเงา เมื่อแช่ข้าวเหนียวจนครบตามเวลาให้เทน้ำที่แช่ข้าวแล้วล้างข้าวผ่านน้ำหลายๆครั้งอย่างเบามือ จนกว่าน้ำจะใส ใส่ข้าวเหนียวลงในกระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ
2. ทำข้าวเหนียวมูนใบเตยโดยใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ 3/4 ของลังถึง ยกขึ้นตั้งบนไฟแรงจนน้ำเดือด จึงปูผ้าขาวบางที่ชุบน้ำหมาดลงในชั้นลังถึง แล้วใส่ข้าวเหนียวที่แช่ลงบนผ้าขาวบาง ใช้มือเกลี่ยข้าวให้กระจายทั่วชั้นลังถึง (แต่ควรเว้นรูสำหรับให้ไอน้ำขึ้นได้สะดวกจะช่วยให้ข้าวเหนียวสุกทั่ว) ตลบชายผ้าขาวบางปิดให้มิด นำไปนึ่งบนหม้อน้ำเดือดนานประมาณ 30 นาทีหรือจนกว่าจะสุก (เวลาที่ใช้นึ่งขึ้นอยู่กับความแรงของไฟและระยะเวลาในการแช่ข้าวเหนียว)ระหว่างรอข้าวเหนียวสุกให้เตรียมกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวโดยใส่กะทิ น้ำตาล เกลือ และใบเตย ลงในกระทะทองเมื่อข้าวเหนียวใกล้จะสุกจึงค่อยยกกระทะทองขึ้นตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนกะทิอย่าให้เป็นลูก รอจนเดือด ปิดไฟ ใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิด เมื่อข้าวเหนียวสุก ให้ตักข้าวเหนียวนึ่งใส่ในภาชนะที่ใส่น้ำกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวไว้คนเร็วๆให้ข้าวเหนียวกระจายตัว ปิดฝาให้สนิท พักให้ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทินานประมาณ 10 นาที แล้วใช้พายไม้กลับข้าวเหนียวด้านบนลงด้านล่าง คนพอเข้ากัน ปิดฝาเช่นเดิม พักไว้จนข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิหมดและระอุดี
3. ทำหน้าสังขยาโดยใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ 3/4 ของลังถึง ตั้งบนไฟแรง ปิดฝาเตรียมไว้ จากนั้นผสมไข่ทั้ง 2 ชนิดน้ำตาล และใบเตย ลงในชามผสม ขยำเข้าด้วยกันจนน้ำตาลละลาย จึงใส่หัวกะทิ แล้วขยำให้เข้ากันอีกจนไข่ขึ้นฟูเป็นฟองเล็กน้อยก็ใช้ได้ กรองสังขยาด้วยกระชอนเพื่อกรองเอาเศษผงและใบเตยออก ใส่ลงในพิมพ์แล้ววางในชั้นลังถึงเมื่อน้ำเดือดให้ลดเป็นไฟกลาง นำสังขยาไปนึ่งนานประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก พักให้เย็น
4. ทำกะทิหยอดหน้าโดยใส่กะทิกับแป้งข้าวเจ้าลงในกระทะทอง คนให้เข้ากันดี ใส่เกลือและน้ำตาล คนพอเข้ากัน ใส่ใบเตย ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอเดือดและข้นเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลง
5. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักข้าวเหนียวมูนใบเตยใส่กระทงใบตอง ตักหน้าสังขยาใส่บนข้าวเหนียว หยอดหน้าด้วยกะทิ เสิร์ฟ
ลักษณะที่ดี
- ข้าวเหนียวมีสีเขียว เมล็ดข้าวสวย ไม่หัก เป็นมันเงาเนื้อนุ่มเหนียว มีรสหวานมัน เค็มพอดี และหอมกะทิ
- หน้าสังขยาต้องย่นขรุขระที่เรียกว่าหน้าหยัก เนื้อมีรสหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นน้ำตาล และหวานมันกะท
ข้อน่ารู้
- ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเพราะเมล็ดข้าวจะเรียวสวย
- สารส้มมีคุณสมบัติช่วยในการตกตะกอน การแกว่งหรือใส่สารส้มในน้ำที่แช่ข้าวเหนียวจะช่วยละลายเมือกและเศษผงที่เกาะกับเมล็ดข้าวออก ทำให้ข้าวเหนียวสุกใสเป็นเงายิ่งขึ้นเมื่อนำมามูน แล้วต้องล้างออกให้หมด หากไม่หมดจะทำให้ข้าวเหนียวนึ่งแข็งได้
สูตรอาหารโดย อบเฉย อิ่มสบาย
Recommended Articles

มาลองทำ "โทสต์น้ำผึ้งไส้ถั่วแดง" กัน เมนูนี้เป็นการผสมผสานความอร่อยระหว่างขนมปังโทสต์สไตล์ตะวันตกกับไส้ถั่วแดงกวนแบบญี่ปุ่น เรามีสูตรและวิธีทำขนมปังโทสต์ที่นำไปชุบกับส่วนผสมของเนยสดและน้ำผึ้งแท้ๆ จนหอมกรุ่นและมีสีเหลืองทองสวยงาม นำไปอบจนกรอบนอกนุ่มใน แล้วสอดไส้ด้านในแบบแน่นๆ ด้วยถั่วแดงกวนรสหวานละมุน ตัดกับความหอมมันของเนยสดแท้ๆ ที่ใส่คู่กัน

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

มาลองทำ "โทสต์น้ำผึ้งไส้ถั่วแดง" กัน เมนูนี้เป็นการผสมผสานความอร่อยระหว่างขนมปังโทสต์สไตล์ตะวันตกกับไส้ถั่วแดงกวนแบบญี่ปุ่น เรามีสูตรและวิธีทำขนมปังโทสต์ที่นำไปชุบกับส่วนผสมของเนยสดและน้ำผึ้งแท้ๆ จนหอมกรุ่นและมีสีเหลืองทองสวยงาม นำไปอบจนกรอบนอกนุ่มใน แล้วสอดไส้ด้านในแบบแน่นๆ ด้วยถั่วแดงกวนรสหวานละมุน ตัดกับความหอมมันของเนยสดแท้ๆ ที่ใส่คู่กัน

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

มาลองทำ "โทสต์น้ำผึ้งไส้ถั่วแดง" กัน เมนูนี้เป็นการผสมผสานความอร่อยระหว่างขนมปังโทสต์สไตล์ตะวันตกกับไส้ถั่วแดงกวนแบบญี่ปุ่น เรามีสูตรและวิธีทำขนมปังโทสต์ที่นำไปชุบกับส่วนผสมของเนยสดและน้ำผึ้งแท้ๆ จนหอมกรุ่นและมีสีเหลืองทองสวยงาม นำไปอบจนกรอบนอกนุ่มใน แล้วสอดไส้ด้านในแบบแน่นๆ ด้วยถั่วแดงกวนรสหวานละมุน ตัดกับความหอมมันของเนยสดแท้ๆ ที่ใส่คู่กัน

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน
Recommended Videos