เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง

Recipe by ทีมบรรณาธิการ

Serves

8-10 คน

Level

4

INGREDIENTS

METHOD

1. ล้างซาวข้าวเหนียว 2 ครั้ง แล้วนำไปแช่น้ำให้น้ำท่วมสูงจากข้าวประมาณ 3 ซม. ใส่สารส้ม คนให้ละลาย แช่ข้าวเหนียวอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป สารส้มจะช่วยให้ข้าวเหนียวสุกใสเป็นเงา เมื่อแช่ข้าวเหนียวจนครบตามเวลาให้เทน้ำที่แช่ข้าวแล้วล้างข้าวผ่านน้ำหลายๆครั้งอย่างเบามือ จนกว่าน้ำจะใส ใส่ข้าวเหนียวลงในกระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ

 

2. ทำข้าวเหนียวมูนโดยใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ 3/4 ของลังถึง ยกขึ้นตั้งบนไฟแรงจนน้ำเดือด จึงปูผ้าขาวบางที่ชุบน้ำหมาดลงในชั้นลังถึง แล้วใส่ข้าวเหนียวที่แช่ลงบนผ้าขาวบาง ใช้มือเกลี่ยข้าวให้กระจายทั่วชั้นลังถึง (แต่ควรเว้นรูสำหรับให้ไอน้ำขึ้นได้สะดวกจะช่วยให้ข้าวเหนียวสุกทั่ว) ตลบชายผ้าขาวบางปิดให้มิด นำไปนึ่งบนหม้อน้ำเดือดประมาณ 30 นาทีหรือจนกว่าจะสุก (เวลาที่ใช้นึ่งขึ้นอยู่กับความแรงของไฟและระยะเวลาในการแช่ข้าวเหนียว) ระหว่างรอข้าวเหนียวสุกให้เตรียมกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวโดยใส่กะทิ น้ำตาล และเกลือ ลงในกระทะทอง เมื่อข้าวเหนียวใกล้จะสุกจึงค่อยยกกระทะทองขึ้นตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนกะทิอย่าให้เป็นลูก รอจนเดือด ปิดไฟ ใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิด เมื่อข้าวเหนียวสุก ให้ตักข้าวเหนียวนึ่งใส่ในภาชนะที่ใส่น้ำกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวไว้ คนเร็วๆให้ข้าวเหนียวกระจายตัว ปิดฝาให้สนิท พักให้ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทินานประมาณ 10 นาที แล้วใช้พายไม้กลับข้าวเหนียวด้านบนลงด้านล่าง คนพอเข้ากัน ปิดฝาเช่นเดิม พักไว้จนข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิหมด

 

3. ทำหน้าปลาแห้งโดยล้างปลาช่อนทะแลแห้งให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำนานประมาณ 5 นาที พอเนื้อปลานุ่มจึงเลาะเอาหนังและก้างออก จากนั้นนำไปย่างหรืออบในเตาอบจนหอม นำมาแกะเอาแต่เนื้อปลาใส่ลงในครก โขลกให้เนื้อปลาฟู ใส่ถ้วยไว้ แล้วใส่น้ำมันลงในกระทะแล้วยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน พอน้ำมันร้อน ใส่เนื้อปลาที่โขลก ผัดจนเนื้อปลากรอบ ใส่น้ำตาล ผัดพอทั่ว ชิมรสให้เค็มหวาน ถ้าไม่เค็มเติมเกลือเล็กน้อย ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย โรยหอมเจียว

 

4. ทำกะทิหยอดหน้าโดยใส่กะทิกับแป้งข้าวเจ้าลงในกระทะทอง คนให้เข้ากันดี ใส่เกลือและน้ำตาล คนพอเข้ากัน ใส่ใบเตยยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอเดือดและข้นเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลง

 

5. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักข้าวเหนียวใส่กระทงใบตอง หยอดหน้าด้วยกะทิ ตักปลาแห้งใส่ด้านบน

 

 

 

ลักษณะที่ดี

 

     

  • ข้าวเหนียวมูนมีสีขาว เมล็ดข้าวสวยไม่หัก และเป็นมันเงา เนื้อนุ่มเหนียว
  •  

  • มีรสหวานมัน เค็มพอดี และมีกลิ่นหอมกะทิ
  •  

 

 

 

ข้อน่ารู้

 

     

  • ควรเริ่มเคี่ยวน้ำกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวก่อนข้าวเหนียวสุกประมาณ 10 นาที หรือเคี่ยวตอนที่ข้าวเหนียวใกล้จะสุก เพราะถ้าน้ำกะทิและข้าวเหนียวยังร้อนอยู่ เมื่อนำมามูนรวมกันข้าวเหนียวจะดูดน้ำกะทิได้ดี ทำให้ข้าวเหนียวไม่แฉะ
  •  

  • เมื่อนำข้าวเหนียวนึ่งมาผสมกับน้ำกะทิสำหรับมูนต้องรีบคนเร็วๆให้เมล็ดข้าวกระจายตัว เมล็ดข้าวจะได้ดูดน้ำกะทิได้เต็มที่
  •  

 

 

 

สูตรอาหารโดย อบเฉย อิ่มสบาย

Share this content

Tags:

กะทิ, ขนมข้าวเหนียว, ขนมหวาน, ขนมไทย, ข้าวเหนียวมูน, ข้าวเหนียวหน้า, น้ำตาลทราย, ปลาช่อนทะเล, ปลาแห้ง

Recommended Articles

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recommended Videos