เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2-3 คน
Level
3
โดยกรรมวิธีในการทำก็เริ่มจากล้างทำความสะอาดดินที่ติดอยู่ที่เปลือกออกให้หมด ให้สะอาดเสร็จแล้วก็ ปอกเปลือกมันออกให้หมด หั่นเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 2.5 นิ้ว ไม่ยาวจนเกินไปนัก จากนั้นก็หั่นครึ่งอีกรอบ ก็จะได้ทรงแบบที่เค้าขายตามท้องตลาดทั่วไป จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ก็เริ่มเคี่ยวได้เลยจ้ะ โดยตั้งน้ำในกระทะบนไฟกลาง ใส่มันลงไปต้มให้มันนุ่มสักเล็กน้อย แต่อย่าพึ่งนุ่มมากนัก ก็สักประมาณ 30 นาที จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายลงในหม้อที่มีมันอยู่แล้ว ลดไฟเป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปเลยจ้ะ ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เราก็จะได้มันเชื่อมที่ไม่นิ่มจนเกินไป หวานกำลังพอดี ตัดหวานด้วยหัวกะทิเคี่ยวใส่เกลือเล็กน้อย
INGREDIENTS
มันสำปะหลัง (พันธุ์ห้านาที)
1 กิโลกรัม
น้ำ
6 ถ้วย
น้ำตาลทราย
1 กิโลกรัม
เกลือป่น
½ ช้อนชา
อุปกรณ์ กระทะทองเหลือง
หัวกะทิ
½ ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า
1 ½ ช้อนชา
METHOD
1. ล้างมันให้สะอาดโดยใช้แปรงขนอ่อนขัดเอาดินที่ติดอยู่ที่หัวมันออกให้หมด ปอกเปลือกมันออก หั่นมันเป็นท่อนขนาดความยาว 2 นิ้ว ผ่าครึ่งอีกครั้ง ล้างเนื้อมันให้สะอาดอีกครั้ง พักไว้
2. ตั้งกระทะทองเหลืองใส่น้ำบนไฟกลาง พอน้ำเริ่มเดือด ใส่มันสำปะหลังที่เตรียมไว้ลงต้มประมาณ 30 นาที จนเนื้อมันนุ่มเล็กน้อย จากนั้นเทน้ำตาลและเกลือลงในกระทะ ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆนานประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างเคี่ยว หมั่นคนเนื้อมันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้มันไหม้ติดก้นกระทะ พอครบเวลา สังเกตถ้าเนื้อมันเชื่อมได้แล้ว เนื้อมันจะใส มันวาว ปิดไฟ พักไว้
3. ทำหัวกะทิสำหรับหยอดหน้าโดยผสมหัวกะทิ ¼ ถ้วยกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากันในถ้วย ใส่กะทิทั้งสองส่วนลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอร้อน คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนส่วนผสมหัวกะทิข้นขึ้น ปิดไฟ พักไว้
4. จัดเสิร์ฟโดยตักมันเชื่อมใส่จาน ราดด้วยหัวกะทิเคี่ยว
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Recommended Articles
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
แป้งพัฟฟ์เป็นหนึ่งในเบเกอรีที่ยุ่งยาก ปัจจุบันมีขายแบบสำเร็จตามซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเอามาทำขนมอย่างอื่นได้ง่ายอย่างเช่นนูเทลลาแพร์พัฟฟ์สูตรนี้ใช้แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปตัดให้เป็นกรอบสี่เหลี่ยม ทำคัสตาร์ดทูเทลลาใส่ด้านใน สไลซ์ลูกแพร์เชื่อมลงไป อบจนแป้งพัฟฟ์เหลืองกรอบ เป็นพัฟฟ์ของหวานกินกับชาร้อนได้เข้ากัน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
แป้งพัฟฟ์เป็นหนึ่งในเบเกอรีที่ยุ่งยาก ปัจจุบันมีขายแบบสำเร็จตามซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเอามาทำขนมอย่างอื่นได้ง่ายอย่างเช่นนูเทลลาแพร์พัฟฟ์สูตรนี้ใช้แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปตัดให้เป็นกรอบสี่เหลี่ยม ทำคัสตาร์ดทูเทลลาใส่ด้านใน สไลซ์ลูกแพร์เชื่อมลงไป อบจนแป้งพัฟฟ์เหลืองกรอบ เป็นพัฟฟ์ของหวานกินกับชาร้อนได้เข้ากัน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
แป้งพัฟฟ์เป็นหนึ่งในเบเกอรีที่ยุ่งยาก ปัจจุบันมีขายแบบสำเร็จตามซุปเปอร์มาร์เก็ต เราเอามาทำขนมอย่างอื่นได้ง่ายอย่างเช่นนูเทลลาแพร์พัฟฟ์สูตรนี้ใช้แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปตัดให้เป็นกรอบสี่เหลี่ยม ทำคัสตาร์ดทูเทลลาใส่ด้านใน สไลซ์ลูกแพร์เชื่อมลงไป อบจนแป้งพัฟฟ์เหลืองกรอบ เป็นพัฟฟ์ของหวานกินกับชาร้อนได้เข้ากัน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
Recommended Videos