เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
3
สาคูแคนตาลูป เมนูหวานเย็นแบบไทยๆ สาคูเม็ดนุ่มหนึบกวนมาสุกพอดีๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำกะทิเข้มข้นหอมมัน เพิ่มความชื่นใจด้วยการโปะน้ำแข็งไสเกล็ดละเอียดๆ เหมาะมากที่จะทานในหน้าร้อนนี้
INGREDIENTS
สาคูสีขาวเม็ดเล็ก
3/4 ถ้วย (100 กรัม)
น้ำ
1½ ถ้วย
น้ำมะพร้าว
3/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย
½ ถ้วย
แคนตาลูปคว้านลูกกลม
½ ลูก
น้ำแข็งป่นละเอียดสำหรับจัดเสิร์ฟ
กะทิแท้ 100% ตราเรียลไทย
1 ถ้วย
น้ำตาลทราย
2 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
ใบเตย
1 ใบ
แป้งข้าวโพด
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะพร้าว
2/3 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเส้น
1 ถ้วย
METHOD
- ทำซอสกะทิราดหน้า โดยเทกะทิแท้ 100% ตราเรียลไทย ใส่กระทะทองเหลือง ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน ใส่น้ำตาล เกลือ และใบเตยลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำมะพร้าว คนให้แป้งละลายน้ำดี เทลงในหม้อน้ำกะทิที่กำลังร้อน คนให้เข้ากัน กวนจนกะทิจนมีความข้นและหมดกลิ่นแป้ง ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป กวนต่ออีก 2 นาที ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
- เตรียมกวนสาคูโดยนำเม็ดสาคูใส่กระชอน เปิดน้ำล้างผ่านเบาๆเพื่อล้างเศษแป้งออกรอบหนึ่ง สะเด็ดน้ำ พักไว้ ใส่น้ำและน้ำมะพร้าวลงในกระทะทอง ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอน้ำเดือดใส่เม็ดสาคูที่ล้างแล้วลงต้ม ใช้พายไม้ค่อยๆกวนเม็ดสาคูจนสาคูเริ่มใส จึงกวนเร็วขึ้น กวนไปเรื่อยๆจนแป้งสุก 80% (มีไตสีขาวเป็นจุดเล็กๆ) เทน้ำตาลทรายลงไป กวนจนน้ำตาลละลายและสาคูไม่แฉะ ปิดไฟ ยกลง
- จัดเสิร์ฟโดยตักสาคูที่เย็นแล้วใส่ลงในถ้วย โปะหน้าด้วยน้ำแข็งป่นละเอียดให้พูน ตกแต่งด้วยแคนตาลูปคว้านลูกกลม ราดซอสกะทิบนน้ำแข็งให้ทั่ว
Recommended Articles
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
เฉาก๊วยเนื้อหนึบหนับ รสชาติหวานกำลังดี กินเย็นๆแล้วชื่นใจสุดๆ เนื้อเฉาก๊วยดำๆนั้นเกิดจากการนำเอาหญ้าเฉาก๊วย มาล้างน้ำให้สะอาดก่อนจะนำไปต้มในน้ำเดือดกับใบเตย ต้มให้เปื่อยดีแล้วคันเอาแต่น้ำก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยจากนั้นค่อยนำไปกวนกับน้ำตาลทรายแดงพอให้ละลายดีเข้ากันจากนั้นก็เติมแป้งมันที่ละลายน้ำแล้วก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยหนึบหนับไว้กิน
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
เฉาก๊วยเนื้อหนึบหนับ รสชาติหวานกำลังดี กินเย็นๆแล้วชื่นใจสุดๆ เนื้อเฉาก๊วยดำๆนั้นเกิดจากการนำเอาหญ้าเฉาก๊วย มาล้างน้ำให้สะอาดก่อนจะนำไปต้มในน้ำเดือดกับใบเตย ต้มให้เปื่อยดีแล้วคันเอาแต่น้ำก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยจากนั้นค่อยนำไปกวนกับน้ำตาลทรายแดงพอให้ละลายดีเข้ากันจากนั้นก็เติมแป้งมันที่ละลายน้ำแล้วก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยหนึบหนับไว้กิน
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
เฉาก๊วยเนื้อหนึบหนับ รสชาติหวานกำลังดี กินเย็นๆแล้วชื่นใจสุดๆ เนื้อเฉาก๊วยดำๆนั้นเกิดจากการนำเอาหญ้าเฉาก๊วย มาล้างน้ำให้สะอาดก่อนจะนำไปต้มในน้ำเดือดกับใบเตย ต้มให้เปื่อยดีแล้วคันเอาแต่น้ำก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยจากนั้นค่อยนำไปกวนกับน้ำตาลทรายแดงพอให้ละลายดีเข้ากันจากนั้นก็เติมแป้งมันที่ละลายน้ำแล้วก็จะได้เนื้อเฉาก๊วยหนึบหนับไว้กิน
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
Recommended Videos