เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/03/RK0108_ImageBanner_1140x507-01-scaled.jpg)
Serves
4-5 คน
Level
3
ลอดช่องทุเรียนน้ำกะทิ แค่ได้ยินชื่อก็อยากกินแล้ว ตัวเนื้อลอดช่องนุ่มนิ่มนวลเนียนกินคู่กับเนื้อทุเรียนสุกนุ่มกำลังดีที่เคี่ยวไปกับน้ำกะทิ รสชาติหวานๆ เค็มๆ มันๆ เสิร์ฟมากับน้ำแข็งป่นละเอียดที่ถูกต้อง แค่นี้ก็เป็นเมนูดับร้อนที่แสนวิเศษแล้ว
INGREDIENTS
แป้งข้าวเจ้า
1½ ถ้วย
แป้งเท้ายายม่อม
2 ช้อนโต๊ะ
แป้งมันสำปะหลัง
1½ ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส
2 ถ้วย
น้ำใบเตยคั้นข้นๆ
1 ถ้วย
(ใบเตยหั่นชิ้นเล็ก 3 ถ้วย ปั่นกับน้ำ 1 ถ้วย กรองด้วยผ้าขาวบาง)
หัวกะทิ
2 ถ้วย
น้ำตาลมะพร้าว
½ ถ้วย
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
เนื้อทุเรียนสุกฉีกชิ้นใหญ่
200 กรัม
METHOD
1. เตรียมอ่างใส่น้ำเย็นจัดและพิมพ์ สำหรับกดลอดช่องไว้
2. ทำลอดช่องไทยโดยผสมแป้งทั้ง 3 ชนิด เข้าด้วยกันในกระทะทอง ค่อยๆใส่น้ำปูนใสประมาณ ½ ถ้วย คนให้แป้ง เข้ากัน แล้วใส่น้ำปูนใสที่เหลือและน้ำใบเตย คนให้เข้ากัน ยกกระทะทองขึ้นตั้งบนไฟกลาง กวนจนแป้งเริ่มข้น ลดไฟลง กวนต่อจนแป้งข้นเหนียว นานประมาณ 25 นาที (สังเกตว่าแป้งได้ที่แล้วเมื่อยกไม้พายขึ้นส่วนผสมจะไหลลงมาช้าๆ หรือทดสอบโดยตักแป้ง ลอดช่องใส่ในน้ำเย็นแล้วรอประมาณ 1 นาที ให้แป้งอยู่ตัวลองใช้มือบีบดู ถ้าแป้งเป็นตัวไม่ละลายไปกับน้ำแสดงว่าใช้ได้) ปิดไฟ ยกลงเทแป้งลอดช่องที่กวนใส่พิมพ์กดลอดช่อง กดลงในน้ำเย็นจัด ขณะที่กดให้กดแล้วหยุดสลับกันไปจนแป้งหมด เสร็จแล้วให้แช่ลอดช่องไว้ในน้ำเย็นนานประมาณ 5 นาที จึงใช้ทัพพีโปร่งตักหรือเทลอดช่องใส่ กระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. ทำน้ำกะทิทุเรียนโดยผสมหัวกะทิกับน้ำตาลมะพร้าวเข้าด้วยกันในอ่างผสมจน น้ำตาลละลายเข้ากันดี ใส่เกลือ คนให้เกลือละลาย กรองด้วยผ้าขาวบางใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน พอเดือด ใส่เนื้อทุเรียน คนพอทั่ว ปิดไฟ ยกลง
4. ตักลอดช่องใส่ถ้วยประมาณ ¼ ถ้วย แล้วตักน้ำกะทิพร้อมเนื้อทุเรียนใส่พอประมาณ ตามด้วยน้ำแข็งเกล็ดปริมาณตามชอบ โรยน้ำตาลเคี่ยว ตกแต่งด้วยเนื้อทุเรียนหั่นชิ้น เสิร์ฟ
Recommended Articles
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
![ข้าวเหนียวมูน](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
![ข้าวเหนียวมูน](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
![ข้าวเหนียวมูน](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
Recommended Videos