เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4-5 คน
Level
2
ปิงเฟิ่น (冰粉 - BīngFěn) ของหวานคลายร้อนสไตล์จีน ลักษณะเป็นวุ้นสีสันสดใส เนื้อนุ่มเด้งเหมือนเยลลี่แต่มีความหยุ่นมากกว่า กินเเล้วรู้สึกเย็นสดชื่น รสชาตินี้เป็นรสลิ้นจี่โรส รสหวานซ่อนเปรี้ยวจากลิ้นจี่กระป๋อง หอมกลิ่นชากุหลาบอ่อน ตกเเต่งด้วยเนื้อลิ้นจี่เเละกลีบกุหลาบ
INGREDIENTS
น้ำ
2 ถ้วย (500 มล.)
น้ำลิ้นจี่กระป๋อง
1 1/4 ถ้วย (300 มล.)
ผงชากุหลาบ
1½ ช้อนชา
ผงวุ้นปิงเฟิ่น
2 ช้อนโต๊ะ (12 กรัม)
น้ำตาลทราย
1-2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อลิ้นจี่กระป๋องและกลีบดอกกุหลาบ สำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ ถุงกรองชา ถาดแก้ว กล่องหรือภาชนะปากกว้าง
METHOD
- ใส่น้ำและน้ำลิ้นจี่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ ใส่ผงชากุหลาบลงในถุงกรองชา แช่ชาในหม้อนาน 2-3 นาที จึงยกออก จากนั้นเปิดไฟกลาง ใส่ผงวุ้นปิงเฟิ่นลงไป คนจนละลายหมด (สังเกตว่าไม่มีเม็ดผงวุ้นติดทัพพีขึ้นมา) ใส่น้ำตาลทราย คนจนละลายเข้ากัน ปิดไฟ เทส่วนผสมใส่ถาดแก้ว กล่องหรือภาชนะปากกว้าง พักไว้ให้คลายร้อนก่อนนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา 4-6 ชั่วโมงหรือจนเซ็ตตัวดี
- เมื่อวุ้นปิงเฟิ่นเซ็ตตัวดี ตกแต่งด้านบนด้วยเนื้อลิ้นจี่กระป๋องและกลีบดอกกุหลาบ ตัดเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟ
Gallery







Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย
Recommended Videos