เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2 คน
Level
2
อาหารฮอตฮิตตลอดกาล รสเผ็ดซ่าชาลิ้นที่ถูกปากคนไทยซะเหลือเกิน แค่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นเต้าหู้ดอย ตัวเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาเอามาย่างขนาดชิ้นจะพอดี ย่างเเละทาซอสไปเรื่อยๆประมาณ 3-4 รอบ จนซอสเข้าเนื้อและเคลือบเต้าหู้ดี ใครอยากจัดจ้านชาลิ้นกว่านี้ก็โรยผงหม่าล่าเพิ่มได้เลย เมนูนี้กินง่าย กินเพลินมาก
INGREDIENTS
เต้าขาวแข็ง (เต้าหู้ดอย)
200 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับย่าง
ผงหม่าล่าและต้นหอมหั่นแฉลบสำหรับโรย
ซีอิ๊วญี่ปุ่น
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช
1 ช้อนโต๊ะ
โคชูจัง
1 ช้อนชา
ผงหม่าล่า
¼ ถ้วย
แป้งข้าวโพด
1 ½ ช้อนชา
น้ำ
½ ถ้วย
น้ำมันงา
2 ช้อนชา
METHOD
1. ทำซอสหม่าล่าโดยผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำตาลทราย น้ำมันพืช โคชูจัง ผงหม่าล่า แป้งข้าวโพดและน้ำรวมกันในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง เคี่ยวพอซอสข้น ปิดไฟ ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน เทใส่ถ้วย พักไว้
2. ตั้งกระทะย่างบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชให้เคลือบทั่วกระทะ พอร้อน วางเต้าหู้ลงย่างให้สุกสีสวยทั้งสองด้าน ทาด้วยซอสหม่าล่า พลิกกลับด้าน ทาซอสหม่าล่าและย่างซ้ำเช่นนี้ ด้านละ 2-3 รอบจนซอสเข้าเนื้อ
3. จัดเต้าหู้ย่างใส่จาน โรยด้วยผงหม่าล่าและต้นหอมหั่นแฉลบ เสิร์ฟ
Gallery
Recommended Articles
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
Recommended Videos