เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ซุปครีมเห็ดพอร์ชินี

Recipe by ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ

Serves

7 คน

Level

3

เห็ดพอร์ชินี (porcini) เป็นเห็ดป่า พบมากทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี มีสีน้ำตาลเข้มเหลือบเหลืองเนื้อเหนียว กลิ่นหอมเหมือนเห็ดป่าจำพวกเห็ดชองทิเรล (chanterelle) มีรสหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ นิยมใส่ในพาสต้า ซุป สตู มีขายตามซูเปอร์มาร์เกตฝรั่งทั้งแบบแห้งหรือแบบในน้ำมันมะกอก แบบแห้งต้องนำมาแช่น้ำอุ่นให้พองตัว และนำน้ำแช่เห็ดมาใช้ปรุงอาหาร ซุปเห็ดพอร์ชินีสูตรนี้มีพื้นฐานมาจากเนื้อซุปเห็ดฟางธรรมดา เพียงแต่ใส่เห็ดพอร์ชินีให้มีรสและกลิ่นหอมยิ่งขึ้น รับประทานคู่กับพาร์มีซานสติ๊กหรือขนมปังอบชิ้นหนา นำขนมปังจุ่มซุปร้อนๆอร่อยอิ่มท้องดีนัก

INGREDIENTS

เห็ดพอร์ชินีแห้ง

½ ถ้วย

น้ำสต๊อกไก่อุ่น

4 ถ้วย

เนยสดชนิดจืด

4 ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่สับละเอียด

½ ถ้วย

กระเทียมสับละเอียด

1 ช้อนชา

เห็ดฟางซอยบาง

500 กรัม

เกลือป่น

5 ช้อนชา

แป้งสาลีอเนกประสงค์

3 ช้อนโต๊ะ

วิปปิ้งครีม

½ ถ้วย

พริกไทยดำป่น

1 ช้อนชา

น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (truffle oil)และฟองนมสำหรับตกแต่ง

พาร์มีซานสติ๊กสำหรับจัดเสิร์ฟ

METHOD

1. ทำน้ำสต๊อกไก่โดยควักเครื่องในซี่โครงไก่ออก และล้างน้ำเย็นให้สะอาดตั้งหม้อน้ำบนไฟแรง เมื่อน้ำเดือดนำซี่โครงไก่ลงลวกประมาณ 1 นาที ตักซี่โครงไก่ขึ้น ตั้งหม้อน้ำใบใหม่บนไฟแรง ใส่ซี่โครงไก่ที่ลวกแล้ว หอมใหญ่ แครอท เซเลอรี กระเทียม พริกไทยดำ และช่อสมุนไพร พอเดือดแล้วลดเป็นไฟกลาง เคี่ยวนาน 2 ชั่วโมง กรองน้ำสต๊อกด้วยกระชอน พักจนเย็นสนิท นำใส่หม้อหรือกล่อง เก็บเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาทันที

 

2. นำเห็ดพอร์ชินีแห้งล้างน้ำเย็นเร็วๆ ใส่อ่างผสมไว้ เทน้ำสต๊อกไก่ 1 ถ้วย แช่เห็ดจนนุ่ม พักไว้

 

3. ตั้งหม้อเนยบนไฟกลาง พอเนยละลายใส่หอมใหญ่ลงผัดจนสุก ใส่กระเทียมสับ ผัดพอหอมจึงใส่เห็ดฟางและเกลือ 2 ช้อนชา ปิดฝาหม้อไว้รอจนเห็ดฟางนุ่มและยุบลงครึ่งหนึ่ง เปิดฝาใส่เห็ดพอร์ชินีที่แช่ไว้และน้ำสต๊อกที่เหลือ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 20 นาที ใส่แป้งสาลีละลายน้ำ พอซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟ ยกลง

 

4. ตักซุปใส่เครื่องปั่น ปั่นจนเนียนละเอียด เทซุปกลับลงหม้อใบเดิม เคี่ยวต่อจนเดือดแล้วใส่วิปปิ้งครีม ปรุงรสด้วยเกลือที่เหลือ และพริกไทย

 

5. ทำพาร์มีซานสติ๊กโดยอุ่นเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส คลึงแป้งพัฟฟ์ออกเป็นแผ่นหนา 2 มม. ใช้ลูกกลิ้งตัดแป้งพัฟฟ์เป็นเส้นขนาด 1×15 ซม.ใช้แปรงทาไข่ไก่บางๆให้ทั่วทั้งสองด้าน ม้วนแผ่นแป้งพัฟฟ์ที่ทาไข่แล้วให้เป็นเกลียว วางบนถาดอบที่รองด้วยแผ่นอบซิลิโคนหรือกระดาษไข โรยด้วยพาร์มีซานชีสขูดและงาดำ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15 นาทีจนแป้งพัฟฟ์สุกกรอบ

 

6. ตักซุปใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลและฟองนม เสิร์ฟกับพาร์มีซานสติ๊ก

Gallery

Share this content

Tags:

จานซุป, ซุปข้น, น้ำสต็อก, วิปปิ้งครีม, อาหารฝรั่ง, เมนูซุป, เห็ดพอร์ชินี, เห็ดฟาง

Recommended Articles

Recipeวาฟเฟิลพาร์มีซานกับไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์
วาฟเฟิลพาร์มีซานกับไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์

เมนูอาหารเช้าที่ทั้งอร่อยและถูกใจเด็กๆเป็นนัก ทั้งตัวแป้งวาฟเฟิลที่กรอบนอกนุ่มใน นำมาทำเป็นคล้ายกับแซนด์วิช ไส้ด้านในเป็นไก่ทอดผักสลัด มะเขือเทศสดๆ ราดด้วยเมเปิลไซรัปเข้ากันดีเป็นที่สุดกับไก่ทอดและวาฟเฟิล

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recommended Videos