เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
8 คน
Level
3
เมนูขนมไทย หอมหวานกลิ่นกะทิเเละมะพร้าวอ่อน ใช้มันม่วงมาทำเป็นมันม่วงแก้วกินกับสาคูเเละน้ำกะทิ เป็นเมนูที่น่าลิ้มลองมากๆ
INGREDIENTS
น้ำมะพร้าวอ่อน
4 ถ้วย
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
¼ ช้อนชา
สาคูเม็ดเล็ก
200 กรัม
น้ำตาลทรายกรวดบด
100 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นชิ้น
1 ลูก
ข้าวโพดหวานต้มสุกฝานเมล็ด
½ ฝัก
แป้งเท้ายายม่อม
100 กรัม
น้ำ
½ ถ้วย
หัวกะทิสำหรับหยอดหน้า
ดอกอัญชันสำหรับตกแต่ง
มันม่วงญี่ปุ่นหั่นลูกเต๋า 1 ซม
150 กรัม
แป้งมันสำปะหลัง
1½ ถ้วย
หัวกะทิ
1¼ ถ้วย
น้ำมะพร้าวอ่อน
¼ ถ้วย
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
½ ช้อนชา
แป้งเท้ายายม่อม
1 ช้อนโต๊ะ
ใบเตยหอมมัดเป็นปม
2 ใบ
METHOD
1. ทำมันม่วงแก้วโดยต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือดจัดใส่มันม่วงญี่ปุ่น ลงต้มนาน 4-5 นาที สังเกตมันจะสุกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ รีบตักขึ้นใส่อ่างแป้งมันทันทีใช้พายยางคลุก ให้แป้งมัน เกาะมันม่วงญี่ปุ่น จนทั่ว พักไว้ให้เย็น จากนั้นตั้งหม้อน้ำบนไฟกลางจนเดือดจัด ใส่มันม่วงญี่ปุ่นที่คลุกแป้งลงต้มจนแป้งสุกใสบางส่วน ตักขึ้นล้างน้ำจนเย็น ใส่ลงในอ่างน้ำเชื่อมใส แป้งจะค่อยๆสุกใสทั่ว
2. ต้มน้ำมะพร้าวอ่อนและเกลือในกระทะทองด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่สาคูกับน้ำตาลพร้อมกัน จะทำให้เม็ดสาคูเป็นเงาสวยหมั่นคนจนเดือดพอเดือดสักพักสังเกตเม็ดสาคูเริ่มสุกเป็นไต ชิมรสพอให้มีรสหวานอ่อนๆ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ข้าวโพดต้ม คนให้ทั่ว เคี่ยวสักครู่พอไตในเม็ดสาคูเริ่มเหลือน้อยที่สุด ละลายแป้เท้ายายม่อมกับน้ำในถ้วย ค่อยๆ เทใส่ลงไป คนให้ข้นเหนียวและใส ใส่มันม่วงแก้ว ปิดไฟ คนให้ทั่ว
3. ทำหัวกะทิโดยใส่หัวกะทิ ½ ถ้วยลงในกระทะทอง ใส่น้ำมะพร้าวอ่อน เกลือและแป้งเท้ายายม่อมที่ละลายน้ำเล็กน้อยคนให้ทั่ว ใส่ใบเตย เปิดไฟอ่อน คนด้วยพายไม้ตลอดเวลาจนข้นและเดือด จึงใส่หัวกะทิที่เหลือ ปิดไฟ คนจนเข้ากันดี
4. ตักใส่ถ้วย หยอดหน้าด้วยหัวกะทิตกแต่งด้วยดอกอัญชัน เสิร์ฟ
Recommended Articles
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
Recommended Videos