เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2-3 คน
Level
2
เมนูยำจานนี้ใช้ดอกขี้เหล็ก เป็นส่วนประกอบหลักในการยำแล้วใส่หอมแดง กระเทียม ปลากรอบเจ ถั่วทอด และพริกชี้ฟ้าเพิ่มความกรุบกรอบและสีสัน เคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน
INGREDIENTS
ดอกขี้เหล็กดอกตูมต้ม บีบน้ำออก
150 กรัม
หอมแดงซอย
¼ ถ้วย
กระเทียมซอย
1 ช้อนโต๊ะ
ปลากรอบเจหักชิ้นเล็ก
½ ถ้วย
ถั่วเขียวเราะเปลือกคั่ว (ถั่วทอง)
1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอย
1 เม็ด
ใบมะกรูดซอย
1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียงมี ขาเห็ดหอมปรุงรสย่าง ฟองเต้ำหู้ทอด ดอกอัญชัน แตงร้านหั่นเส้น
ซีอิ๊วขาว
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
2 ช้อนชา
ขาเห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่มบีบน้ำออก ทุบ
200 กรัม
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอยเจ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
½ ช้อนชา
น้ำมันมะกอก
1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบดใหม่ๆ
¼ ช้อนชา
METHOD
1. ทำน้ำยำโดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันในถ้วย ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวานเล็กน้อย
2. นำดอกขี้เหล็กต้มไปต้มในหม้อน้าเดือดด้วยไฟกลางอีกครั้ง ต้มสักครู่พอร้อนดี ตักขึ้น ล้างน้ำเย็น ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
3. ทำขาเห็ดหอมปรุงรสย่างโดยใส่ขาเห็ดหอมลงในอ่างผสม ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยเจ น้ำตาลปี๊บ น้ำมันมะกอก และพริกไทยดำ เคล้าให้เข้ากันทั่ว หมักไว้ในอุณหภูมิห้องนาน 15 นาทีขึ้นไป แล้วนำไปย่างในกระทะก้นตื้นด้วยไฟอ่อนจนสุกหอม ทำจนหมด ใส่ถ้วย พักไว้
4. วิธีจัดเสิร์ฟ ใส่ดอกขี้เหล็กต้ม หอมแดงซอย กระเทียมซอย และน้ำยำปริมาณตามชอบ ลงในอ่างผสม เคล้าพอทั่ว ใส่ปลากรอบเจ ถั่วเขียวเราะเปลือกคั่ว พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอย และใบมะกรูดซอย เคล้าพอเข้ากัน
5. ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง
อ่านบทความเพิ่มเติม
Recommended Articles

เมนูยำที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ชวนให้ลิ้มลอง หัวใจสำคัญอยู่ที่เส้นใหญ่ ที่นำไปทอดจนฟูกรอบ คลุกเคล้าน้ำยำ รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดและหวานที่เพิ่มความอร่อยและมิติให้กับเมนูนี้ ความกรุบกรอบของเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดที่ตัดกับความนุ่มของเนื้อสัตว์และความสดกรอบของผัก ราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน เกิดเป็นรสสัมผัสและรสชาติที่ซับซ้อน จัดจ้านถึงใจ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักยำและชื่นชอบความหลากหลายของเนื้อสัมผัสในจานเดียว

น้ำพริกมังสวิรัติโดยใช้เนื้อของเห็ดมาทำให้เหมือนเนื้อปลาแทน โดยนำเอาเครื่องทำน้ำพริกอย่างพริก หอมแดง กระเทียม นำไปย่างให้หอมบนเตาถ่าน (แต่หากใครไม่มีเตาถ่านสามารถนำไปย่างในกระทะให้หอมๆ) จากนั้นปอกเอาเปลือกที่ไหม้ออก โขลกให้เข้ากันในครกกับเห็ดฟางย่าง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว และน้ำปลาร้าเจ เพียงแค่นี้ก็ได้น้ำพริกรสแซ่บๆกินคู่กับหน่อข่าอ่อนและผักต่างๆ

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

เมนูยำที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ชวนให้ลิ้มลอง หัวใจสำคัญอยู่ที่เส้นใหญ่ ที่นำไปทอดจนฟูกรอบ คลุกเคล้าน้ำยำ รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดและหวานที่เพิ่มความอร่อยและมิติให้กับเมนูนี้ ความกรุบกรอบของเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดที่ตัดกับความนุ่มของเนื้อสัตว์และความสดกรอบของผัก ราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน เกิดเป็นรสสัมผัสและรสชาติที่ซับซ้อน จัดจ้านถึงใจ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักยำและชื่นชอบความหลากหลายของเนื้อสัมผัสในจานเดียว

น้ำพริกมังสวิรัติโดยใช้เนื้อของเห็ดมาทำให้เหมือนเนื้อปลาแทน โดยนำเอาเครื่องทำน้ำพริกอย่างพริก หอมแดง กระเทียม นำไปย่างให้หอมบนเตาถ่าน (แต่หากใครไม่มีเตาถ่านสามารถนำไปย่างในกระทะให้หอมๆ) จากนั้นปอกเอาเปลือกที่ไหม้ออก โขลกให้เข้ากันในครกกับเห็ดฟางย่าง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว และน้ำปลาร้าเจ เพียงแค่นี้ก็ได้น้ำพริกรสแซ่บๆกินคู่กับหน่อข่าอ่อนและผักต่างๆ

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

เมนูยำที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ชวนให้ลิ้มลอง หัวใจสำคัญอยู่ที่เส้นใหญ่ ที่นำไปทอดจนฟูกรอบ คลุกเคล้าน้ำยำ รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดและหวานที่เพิ่มความอร่อยและมิติให้กับเมนูนี้ ความกรุบกรอบของเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดที่ตัดกับความนุ่มของเนื้อสัตว์และความสดกรอบของผัก ราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน เกิดเป็นรสสัมผัสและรสชาติที่ซับซ้อน จัดจ้านถึงใจ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักยำและชื่นชอบความหลากหลายของเนื้อสัมผัสในจานเดียว

น้ำพริกมังสวิรัติโดยใช้เนื้อของเห็ดมาทำให้เหมือนเนื้อปลาแทน โดยนำเอาเครื่องทำน้ำพริกอย่างพริก หอมแดง กระเทียม นำไปย่างให้หอมบนเตาถ่าน (แต่หากใครไม่มีเตาถ่านสามารถนำไปย่างในกระทะให้หอมๆ) จากนั้นปอกเอาเปลือกที่ไหม้ออก โขลกให้เข้ากันในครกกับเห็ดฟางย่าง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว และน้ำปลาร้าเจ เพียงแค่นี้ก็ได้น้ำพริกรสแซ่บๆกินคู่กับหน่อข่าอ่อนและผักต่างๆ

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
Recommended Videos