เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
6 คน
Level
4
INGREDIENTS
น้ำ
2½ ถ้วย
น้ำพริกแกงป่าภาคกลางสูตรผสม
¼ ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือพวง
¼ ถ้วย
มะเขือเหลืองผ่าแปดเอาเมล็ดออก
2 ลูก
ลูกชิ้นปลากราย
300 กรัม
ใบมะกรูดฉีก
2 ใบ
น้ำปลา
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย
¼ ช้อนชา
กระชายซอย
½ ถ้วย
กะเพราเด็ดใบ
½ ถ้วย
พริกไทยอ่อนเด็ดช่อสั้น
2 ช่อ
พริกชี้ฟ้าสีเขียวและแดงหั่นเฉียง
2 เม็ด
ยอดกะเพราสำหรับตกแต่ง
เนื้อปลากรายขูด
200 กรัม
เนื้อปลายี่สกขูด
200 กรัม
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้ง (พริกยอดสน)
20 กรัม
พริกกะเหรี่ยงแห้ง
20 กรัม
พริกขี้หนูสีแดง
45 กรัม
พริกขี้หนูสวน
35 กรัม
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด
2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย
5 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย
100 กรัม
หอมแดงหั่น
5 หัว
ลูกผักชีคั่วป่น
½ ช้อนโต๊ะ
ดอกผักชีไร่
1 ช้อนโต๊ะ
เร่วหอมหั่น
1 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นสดหั่น
1 ช้อนโต๊ะ
เม็ดพริกไทยดำ
2 ช้อนชา
รากผักชีหั่น
1 ช้อนโต๊ะ
ดอกกะเพรา กะปิ อย่างละ
2 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกหรือบดเครื่องปรุงทั้งหมด ให้เข้ากันทีละอย่างตามลำดับจนละเอียด ตักใส่ ถ้วยไว้
2. ทำลูกชิ้นปลากรายโดยโขลกเนื้อปลากรายกับเนื้อปลายี่สกเข้าด้วยกันจนเหนียวนาน 20 นาที ละลายเกลือกับน้ำเล็กน้อยในถ้วย ค่อยๆใส่ลงในครก โขลกต่ออีก 20 นาทีจนเหนียวล่อน ตักใส่อ่างผสม นวดต่อจนเหนียวประมาณ 15 นาที ปั้นลูกชิ้นปลากรายเป็นก้อนกลมขนาดพอคำ ใส่ลงต้มในหม้อ น้ำเดือดด้วยไฟกลางจนสุกลอย ตักขึ้นแช่ในอ่างน้ำเย็น
3. ต้มน้ำในกระทะด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงป่า คนพอทั่ว เคี่ยวสักครู่จนมีกลิ่นหอม ใส่ มะเขือพวง มะเขือเหลือง พอเดือดและมะเขือสุก ใส่ลูกชิ้นปลากราย ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ และน้ำตาล ใส่กระชาย ใบกะเพรา พริกไทยอ่อน และพริกชี้ฟ้า ชิมรสให้เผ็ดเค็มนำ ปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยยอดกะเพรา เสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับ
- ลูกชิ้นปลากรายสูตรนี้จะผสมเนื้อปลากรายขูดกับเนื้อปลายี่สกขูดในอัตราส่วน 1 : 1 เพื่อให้ลูกชิ้นเหนียวนุ่ม และหยุ่น เนื่องจากเนื้อปลามีคุณสมบัติที่ต่างกัน คือเนื้อปลากรายเหนียว แต่เนื้อปลายี่สกจะนุ่ม เมื่อนำมาผสมกันแล้วจะใช้ วิธีโขลกในครกหินจนเนื้อปลาเหนียว จากนั้นนำไปนวดจนส่วนผสมเหนียวนุ่ม
หมายเหตุ
- ใช้กับแกงป่าปลา หมู เป็ด ไก่ กบ ปลาไหล เนื้อกวาง เนื้อนกกระจอกเทศ และเนื้อสัตว์อื่นๆที่มี กลิ่นคาวแรง
Recommended Articles
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
Recommended Videos