เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ซัมเมอร์ชอต

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

14 แก้ว

Level

4

เมนูขนมหวานที่มีทั้งความหวานมันที่ได้จากครีมมะพร้าวที่ผ่านการผสมกันระหว่างเพสทรีครีมกับกะทิ ผสมให้เข้ากันแล้วทำให้เซ็ตตัวด้วยเจลลาติน ราดด้านบนด้วยเยลลีมะม่วงหวาน หอม อม เปรี้ยวนิดๆ ตัดกันได้ดีอย่างลงตัว

INGREDIENTS

METHOD

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสปูถาดอบด้วยแผ่นอบซิลิโคนหรือกระดาษไขเตรียมไว้

 

 

 

 

2. ทำอัลมอนด์มะพร้าวดาควอสโดยร่อนอัลมอนด์และน้ำตาลไอซิ่งลงในอ่างผสม ใส่มะพร้าวอบแห้ง ผสมให้เข้ากัน พักไว้ ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนเป็นฟองหยาบ ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีต่อจนไข่ขาวฟูและเนื้อแน่น ใส่ส่วนผสมที่ร่อนไว้ทีละ 1/3 ตะล่อมเบาๆด้วยพายยางให้เข้ากันตักใส่ถุงบีบ บีบเป็นวงกลม 1 นิ้ว บนถาดอบที่เตรียมไว้ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน8 นาที นำออกพักไว้บนตะแกรง

 

 

 

 

3. ทำเพสทรีครีมโดยตั้งหม้อนมสดบนไฟกลาง ตีไข่แดงและน้ำตาลในอ่างผสมด้วยตะกร้อจนสีอ่อนลง ใส่แป้งข้าวโพด คนให้เข้ากัน เทนมอุ่นครึ่งหนึ่งในส่วนผสมไข่แดงคนให้เข้ากัน เทกลับลงในหม้อนมสด เคี่ยวจนส่วนผสมสุกข้น ปิดไฟ ใส่เนย คนให้เข้ากันเทใส่อ่าง ปิดด้วยพลาสติกแร็ปให้แนบกับส่วนผสม พักไว้จนเย็นสนิท

 

 

 

 

4. ทำครีมมะพร้าวโดยแช่เจลาตินในน้ำเย็นจัดจนนุ่ม ตั้งหม้อกะทิบนไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ ใส่เจลาติน ที่นุ่มแล้ว คนจนละลายเข้ากัน พักไว้จนเย็นสนิท แล้วผสมกับเพสทรีครีม ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมด้วยตะกร้อจนข้นสังเกตจากยกตะกร้อแล้วสามารถวาดครีมเป็นลายได้ แบ่งวิปปิ้งครีมทีละครึ่งผสมกับส่วนผสมเจลาตินที่ทำไว้ ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วหยอดหรือตักใส่แก้วชอต(ตั้งถ้วยแก้วไว้บนถาดไข่ไก่ให้มีลักษณะเอียง45 องศา ระหว่างหยอด) นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาจนเซตตัว

 

 

 

 

5. ทำเยลลีมะม่วงโดยแช่เจลาตินในน้ำเย็นจัดจนนุ่ม นำน้ำเสาวรสและน้ำตาลตั้งบนไฟกลางพอให้น้ำตาลละลาย ปิดไฟใส่เจลาตินที่นุ่มแล้ว คนให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะม่วงปั่น พักไว้จนเย็นสนิท

 

 

 

 

6. กดอัลมอนด์มะพร้าวดาควอสด้วยที่กดคุกกี้ให้มีขนาดเล็กกว่าปากแก้วเล็กน้อยวางดาควอสบนครีมมะพร้าวที่เซตตัวแล้วเทเยลลีมะม่วงให้เหลือขอบปากแก้วประมาณ1 ซม. ตกแต่งด้วยมะม่วงหั่นลูกเต๋าและใบสะระแหน่

Share this content

Tags:

ขนมหวาน, ของหวาน, ครีมมะพร้าว, อัลมอนด์มะพร้าว, เยลลี่มะม่วง

Recommended Articles

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recommended Videos