เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
3
พระรามลงสรง จัดเป็นอาหารโบราณอย่างหนึ่งที่หากินยาก ปกติจะขายเป็นข้าวพระรามลงสรง คือน้ำแกงสีเหลืองคล้ายกับน้ำราดสะเต๊ะราดไปบนข้าวที่มีหมูและผักบุ้งลวกวางอยู่ คำว่าพระรามหมายถึงผักบุ้งจีนสีเขียว ส่วนลงสรงเปรียบถึงการเอาผักบุ้งลงลวกในน้ำ คาดเดากันว่าพระรามลงสรงน่าจะมาจากกับข้าวจานหนึ่งของชาวจีนแต๋จิ๋วชื่อว่า 'ซาแต๊ปิ้ง' ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันคือมีผักบุ้งลวก หมู ตับ ราดบนข้าวหรือหมี่ขาว กินราดน้ำแกงคล้ายสะเต๊ะ มีน้ำพริกเผาและน้ำส้มพริกดองเสิร์ฟเคียงเพื่อตัดเลี่ยน
INGREDIENTS
เนื้อหมูสันนอกหรือสันใน
300 กรัม
ผักบุ้งจีนอ่อนๆหั่นท่อน 1.5 นิ้ว
4 ถ้วย (200 กรัม)
พริกแห้งเม้ดใหญ่แช่น้ำจนนุ่ม
3 เม็ด
เกลือป่น
1/2 ช้อนชา
ข่าหั่นหยาบ
1 ช้อนชา
ตะไคร้หั่นหยาบ
1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นหยาบ
1/4 ช้อนชา
รากผักชีหั่นหยาบ
2 ช้อนชา
หอมแดงปอกเปลือกหั่นหยาบ
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยปอกเปลือก
4 กลีบ
กะปิ
1/2 ช้อนชา
กะทิ
2 1/4 ถ้วย (คั้นจากมะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม)
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ
1/4 ถ้วย
น้ำตาลมะพร้าว
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพริก
3 ช้อนโต๊ะ (ผัดพริกขี้หนูป่น 1/2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะด้วยไฟอ่อนๆ พอสีน้ำมันแดงสวย ยกลง กรองด้วยกระชอนเล็ก เอาแต่น้ำมัน)
ข้าวสวยอัญชันสำหรับจัดเสิร์ฟ
METHOD
- โขลกพริกแห้ง เกลือ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี หอมแดง กระเทียม และกะปิให้ละเอียดเข้ากัน ตักขึ้นใส่ถ้วย พักไว้
- ตั้งกะทิ 1¼ ถ้วยบนไฟกลาง เคี่ยวให้แตกมัน ผัดกับเครื่องแกงที่โขลกจนน้ำพริกลอยหน้าเป็นสีแดง แล้วจึงใส่กะทิที่เหลือลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก ถ้าสีไม่แดงแต่ด้วยน้ำมันพริกลงไป ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ พักไว้
- ตั้งหม้อน้ำให้เดือด ใส่เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำมันพืชเล็กน้อย นำผักบุ้งลงลวกพอสีเขียวจัด ตักขึ้น สะเด็ดน้ำให้แห้งแล้วจัดใส่จาน รอไว้
- หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เนื้อหมูลงลวกพอสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ วางเรียงเนื้อหมูลวกบนผักบุ้ง ตักน้ำพริกที่เพิ่งทำเสร็จราดลงไปร้อนๆ ตกแต่งด้วยพริกแห้งทอด รับประทานกับข้าวสวยอัญชัน
Gallery
Tags:
กะทิ, กะปิ, กับข้าว, ข่า, ตะไคร้, ตำรับเก่า, ตำรับโบราณ, ผักบุ้ง, พริกแกง, พริกแห้งเม็ดใหญ่, หมู, อาหารโบราณ, อาหารไทย, เครื่องแกง, ใบมะกรูด
Recommended Articles
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
Recommended Videos