เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
2
พิซซ่าหน้าเดิมๆ เบื่อแล้วอยากลองกินพิซซ่าหน้าใหม่ๆดูบ้าง นี้เลยพิซซ่าหน้าทูน่ารสจัดจ้าน เครื่องแน่นเต็มคำ
INGREDIENTS
แผ่นแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว
2 แผ่น
ซอสพิซซ่า
2 ถ้วย
ทูน่าในน้ำมันพืช
1 กระป๋อง
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแว่น
4 เม็ด
พริกหวานสีเขียวหั่นเส้น
1 ลูก
มอซซาเรลลาชีสขูดเส้น
2 ถ้วย
ใบกะเพราทอดกรอสำหรับตกแต่ง
ซอสมะเขือเทศ ผงปาปริก้า และออริกาโน สำหรับจัดเสิร์ฟ
มะเขือเทศ
8 ลูก
หอมใหญ่หั่นลูกเต๋าเล็ก
¼ ถ้วย
แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก
¼ ถ้วย
พริกหวานสีแดงหั่นลูกเต๋าเล็ก
¼ ถ้วย
โคนต้นหอมญี่ปุ่นซอย
¼ ถ้วย
ก้านขึ้นฉ่ายซอยบาง
2 ช้อนโต๊ะ
ใบกระวานแห้ง
4 ใบ
กานพลู
5 ก้าน
น้ำ
1 ถ้วย
เนยสดชนิดจืด
¼ ถ้วย
แป้งสาลีอเนกประสงค์
2 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศเข้มข้น
½ ถ้วย
ออริกาโนแห้ง
1½ ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำป่นใหม่ๆ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู
1½ ช้อนโต๊ะ
ใบกะเพรา
1 ถ้วย
METHOD
1. พักแป้งพิซซ่าแช่แข็งในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือจนแป้งนิ่ม อุ่นเตาอบไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. ทำซอสพิซซ่าโดยใช้มีดกรีดกากบาทที่ก้นมะเขือเทศ ลวกในน้ำเดือดนาน 30วินาที ตักขึ้นพักในน้ำเย็น ลอกผิวมะเขือเทศออก ผ่าสี่ เฉือนไส้กลางออก หั่นเป็ฯชิ้นลูกเต๋าเล็ก ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. ตั้งกระทะบนไฟกลางพอร้อน ลดไฟลง ใส่เนื้อมะเขือเทศ หอมใหญ่ แครอท พริกหวาน ต้นหอมญี่ปุ่น ขึ้นฉ่าย ใบกระวาน กานพลู และน้ำ คนให้เข้ากัน เคี่ยวบนไฟอ่อนนาน 15 นาที ตักใบกระวานและกานพลูออก นำไปปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ถ้วย พักไว้
4. ตั้งกระทะบนไฟกลางพอร้อน ลดไฟลง ใส่เนยลงผัดพอหอม ใส่แป้งสาลี คนให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมที่ปั่นไว้ ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ออริกาโน เกลือ และพริกไทย น้ำตาล และน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน เคี่ยวบนไฟอ่อนนาน 5 นาที หรือจนข้นเหนียว เร่งไฟขึ้น ใส่ใบกะเพรา ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลง พักให้เย็น
5. เปิดกระป๋องทูน่า เทใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ใช้ส้อมยีเนื้อปลาทูน่าให้เป็นชิ้นเล็กๆ ตักใส่ถ้วย พักไว้
6. วางแผ่นแป้งพิซซ่าบนถาดอบ ใช้ช้อนตักซอสพิซซ่าทาให้ทั่วแผ่นแป้ง โรยเนื้อปลาทูน่า พริกชี้ฟ้า พริกหวาน และมอสซาเรลลาชีสให้ทั่ว นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ประมาณ 6-8 นาที หรือจนชีสละลายหน้าพิซซ่าสีเหลืองเข้ม นำออกจากเตา โรยกะเพราทอดกรอบ จัดใส่ถาด เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศ ผงปาปริก้า และออริกาโน
Recommended Articles
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
Recommended Videos