
เจอสูตรนี้แล้ว จะไม่อยากไปทำพะโล้สูตรอื่นอีกเลย
เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมพะโล้ถึงอร่อยเมื่อทิ้งไว้ข้ามคืน? คำตอบนั้นอยู่ที่ ‘เวลาและความพิถีพิถันในการปรุง’ พะโล้เป็นอาหารที่ต้องใช้ระยะเวลาในการตุ๋นนานๆ เพื่อให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว การตุ๋นหลายรอบจะทำให้น้ำพะโล้งวดลง มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น รสชาติซึมเข้าหมูและไข่มากขึ้นได้ไข่เนื้อที่หนึบเด้งตามต้องการ ส่วนเจลาตินในหมูสามชั้นที่ละลายออกมาช่วยให้พะโล้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม นอกจากนี้การตุ๋นนานๆ ยังทำให้เครื่องเทศต่างๆ ที่ใส่ลงไป มีเวลาปล่อยกลิ่นหอมและรสชาติออกมาอย่างเต็มที่ ช่วยให้พะโล้มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

พะโล้ เป็นเมนูสุดคลาสสิกที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมเข้าเนื้อ ความหอมของเครื่องเทศและหมูสามชั้นเนื้อนุ่มละลายในปาก ทำให้พะโล้เป็นเมนูที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบ ทั้งยังเป็น comfort food ที่อยู่บนโต๊ะอาหารของหลายๆ บ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อเย็นวันธรรมดาหรือมื้อพิเศษในวันหยุด พะโล้ก็เป็นเมนูที่สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวได้เสมอ

แล้วจะดีแค่ไหนถ้าเราไม่ต้องเสียเวลาตุ๋นพะโล้นานข้ามวันข้ามคืน… วันนี้เราเลยจะมาเปิดครัวเผยเคล็ดลับทำพะโล้ไข่หนึบที่มาพร้อมกับหมูสามชั้นชิ้นโตละลายในปาก ใช้เวลาเพียงวันเดียว แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น! ก็ได้ไข่พะโล้เนื้อหนึบเด้ง น้ำซุปเข้มข้นคลั่กนัวเหมือนตุ๋นมาแล้วหลายวัน

วัตถุดิบ
– ไข่เป็ด 10 ฟอง
– ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
– รากผักชี 10 ราก
– กระเทียมกลีบเล็กแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยดำเม็ด 2 ช้อนชา
– น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลมะพร้าว ½ ถ้วย
– อบเชยแท่ง ยาว 3 นิ้ว 2 แท่ง
– โป๊ยกั๊ก 3 ดอก
– หมูสามชั้นหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2*2 นิ้ว 700 กรัม
– น้ำ 1.5 ลิตร
– เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
– ผงพะโล้ 1 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว ⅓ ถ้วย
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
เริ่มจากการโขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทยดำเม็ดให้พอแหลก จากนั้นต้มไข่เป็ดในน้ำ ด้วยไฟกลาง จับเวลาประมาณ 5 นาที เมื่อครบเวลา ตักไข่ขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัด ปอกเปลือกออกจนหมด เคล้าไข่เป็ดต้มกับซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนชา เพื่อให้เวลานำไปต้มแล้วไข่มีสีสวยสม่ำเสมอ


ใครจะใช้ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ก็ได้ตามชอบ แต่ส่วนตัวชอบไข่เป็ดมากกว่าเพราะไข่แดงมีความมันเวลานำไปทำพะโล้ คืออร่อยนัว เนื้อไข่หนึบดีมาก

ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช พอเริ่มร้อน ใส่สามเกลอที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม จากนั้นใส่น้ำตาลมะพร้าว ผัดจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือที่เรียกว่า ‘ปฏิกิริยาการเกิดคาราเมล’ (Caramelization) การใช้น้ำตาลมะพร้าวในพะโล้ นอกจากให้รสหวานหอมเฉพาะตัวแล้ว ยังให้สีน้ำตาลคาราเมลแก่พะโล้ ช่วยเคลือบผิวไข่ให้ออกมาสีสวยน่ากินอีกด้วย

การทำพะโล้จะขาดเครื่องเทศอย่างอบเชยและโป๊ยกั๊กไปไม่ได้ เมื่อผัดจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีคาราเมลที่เข้มขึ้นแล้ว ให้ใส่อบเชยและโป๊ยกั๊กลงไปผัดเพื่อให้พะโล้มีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น

ใส่หมูสามชั้นชิ้นเบิ้มลงไป สูตรนี้เราจะใช้สัดส่วนหมูสามชั้นเยอะเป็นพิเศษ เพราะต้องการเจลาตินและความอูมามิจากหนังและเนื้อหมู ยิ่งมีเจลาตินมาก น้ำพะโล้ก็จะยิ่งมีบอดี้และความเข้มข้นกลมกล่อมเหมือนตุ๋นมาหลายวันมากเท่านั้น

ผัดหมูสามชั้นจนสุกและน้ำตาลรัดชิ้นหมู เพื่อให้หมูสามชั้นไม่เละเวลานำไปตุ๋น จากนั้นเติมน้ำลงไปให้พอท่วมหมู คนให้น้ำตาลที่ติดอยู่ตามขอบกระทะละลายรวมกับน้ำจนหมด เททั้งหมดใส่หม้ออีกใบ ตามด้วยน้ำที่เหลือ ยกหม้อตั้งบนไฟกลาง

เมื่อพะโล้เดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออกจนหมด ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา ซีอิ๊วดำที่เหลือและน้ำมันหอย ตามด้วยไข่เป็ด

จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน ปิดฝาแง้มๆ ตุ๋นนานประมาณ 2 ชั่วโมงจนน้ำพะโล้งวดและสีไข่เข้มขึ้น

การตุ๋นไข่พะโล้ด้วยไฟอ่อนนี้เองจะทำให้สีน้ำตาลและรสชาติของน้ำพะโล้แทรกเข้าไปในเนื้อไข่ได้ทั่วทั้งฟองมากกว่าการใช้ไฟแรงในการตุ๋น แล้วยิ่งในน้ำพะโล้มีปริมาณของน้ำตาล เกลือและเครื่องปรุงที่เข้มข้นก็จะได้ไข่พะโล้เนื้อหนึบเคี้ยวเด้งกลายเป็นพะโล้ไข่หนึบตามต้องการนั่นเอง

Contributor
Tags:
Recommended Articles
Recommended Videos