พาย้อนวันวาน กลับไปหาเมนูโปรดในวัยเด็กที่ไม่ว่าเวลาจะไปนานแค่ไหนก็ยังคงนึกถึงเสมอ…

ในห้วงความทรงจำอันแสนหวานของวัยเด็ก มักจะมีรสชาติอาหารบางอย่างที่เด่นชัดและอบอุ่นอยู่ในใจ หนึ่งในนั้น คือ ไข่ตุ๋นกะทิ เมนูเรียบง่ายแสนธรรมดาแต่เปี่ยมไปด้วยความทรงจำจากฝีมือคุณยายที่ทำให้กินตั้งแต่เราจำความได้

 

ไข่ตุ๋นสูตรนี้อาจไม่เหมือนไข่ตุ๋นทั่วไปที่หลายคนคุ้นเคยกัน สีขาวนวลอ่อนๆ จากกะทิ มีหอมแดงซอยลอยหน้า เนื้อสัมผัสไม่ได้นุ่มเหมือนไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น แต่เป็นไข่ตุ๋นสไตล์ไทยเนื้อหนักที่นุ่มนวล ละมุนลิ้น หวานหอมมันจากกะทิและหอมแดง เป็นความอร่อยที่ยากจะบรรยาย นอกจากต้องลองชิมด้วยตัวเอง

ความใส่ใจและความพิถีพิถันของยายคือหัวใจหลัก ตั้งแต่การเลือกใช้กะทิ ต้องใช้ กะทิคั้นสด เท่านั้น! เพราะได้ความหอมมันที่กะทิกล่องให้ไม่ได้ ส่วนไข่ไก่ต้องสดใหม่ ตัดเค็มด้วยน้ำปลา เพื่อให้รสชาติกลมกล่อมและไม่เลี่ยนเกินไป สิ่งที่ขาดไม่ได้คือหอมแดงซอยของโปรดคุณยายที่ใส่ไปแบบจุกๆ เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสเวลากินและความหวานให้กับไข่ตุ๋นสูตรนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นเบสิกเมนูประจำบ้านที่กินมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนวิธีการทำนั้นก็ง่ายแสนง่าย ใช้วัตถุดิบเเค่ 4 อย่างเท่านั้น …

 

วัตถุดิบ
– ไข่ไก่ 3 ฟอง
– กะทิ ¾ ถ้วย
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– หอมแดงซอย ¼ ถ้วย
– พริกไทยขาวป่น ตามชอบ

ไข่ตุ๋นสูตรประจำบ้านนี้ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เริ่มต้นด้วยการตีไข่ไก่รวมกันในชามผสมหรือถ้วยที่เราจะนึ่ง

 

ค่อยๆ ตีให้ไข่เข้ากัน (แต่ไม่ต้องตีจนเป็นฟองเหมือนทำไข่เจียวนะ)

 

จากนั้นเทกะทิสดตามลงไป คนเบาๆ ให้ส่วนผสมของไข่กับกะทิเข้ากันดี

 

ปรุงรสชาติให้อร่อยกลมกล่อมตามแบบฉบับยาย ด้วยน้ำปลา ให้รสชาติออกหวานเค็มกำลังดี รสชาตินี้กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเข้ากันสุดๆ

 

เมื่อปรุงรสได้ที่แล้ว โรยหอมแดงซอยที่เราเตรียมไว้ปิดท้าย คนเบาๆ อีกครั้งให้หอมแดงกระจายตัวทั่ว

 

ไข่ตุ๋นสูตรนี้ไม่ได้ใช้ไฟอ่อนในการนึ่ง แต่ใช้ไฟกลาง นึ่งนานประมาณ 15-20 นาที จนไข่เซ็ตตัวและสุกทั่วถึงกัน (วิธีการทดสอบใช้ช้อนหรือนิ้วแตะบนไข่ตุ๋นถ้านิ่มยุบตามแรงกดแสดงว่ายังไม่สุก ให้นึ่งต่อจนไข่เซ็ตตัวดี)

 

ใครจะโรยพริกไทยเพิ่มความหอมเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน

 

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไข่ตุ๋นกะทิร้อนๆ เนื้อเนียนนุ่ม หอมมันกะทิ ที่พร้อมจะพาย้อนกลับไปสัมผัสรสชาติแห่งความทรงจำในวัยเด็กอีกครั้งแล้ว

สูตร ไข่ตุ๋นกะทิ

สไตลิสต์และกราฟิกโดย : นภสร คำโคม