เกล็ดน้ำตาลหลากสีหรือ confetti (คอนเฟตติ) เป็นของตกแต่งเบเกอรีที่เราเห็นกันจนชินตา ไม่ว่าจะผสมลงในเค้ก โดนัท หรือคุกกี้ ก็จะให้กลิ่นอายของความสนุกและการเฉลิมฉลองขึ้นมาโดยทันที และสำหรับชาวโซเชียล จู่ๆ ในช่วงกลางปี 2568 นี้ เราก็จะเห็นชาวเน็ตตักฟรอสติ้งผสมคอนเฟตติกินกันเป็นช้อนๆ เพราะมันเป็นเทรนด์สุดฮิตไปทั่วโลก – แต่อันที่จริงแล้วคอนเฟตติหลากสีแบบนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะมันถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 โน้นแหนะ

 

Confetti คืออะไร

ชื่อจริงๆ ของเกล็ดน้ำตาลหลากสีที่เราใช้กันทุกวันนี้ คือ sprinkle (สปริงเคิล) ที่หมายถึงการโรยหรือหวานอะไรสักอย่าง แต่คนมักเรียกมันว่าคอนเฟตติตามชื่อของ “ลูกปา” หรือกระดาษหลากสีที่ใช้โปรยกันในงานรื่นเริง แน่นอนว่าชื่อคอนเฟตติให้อารมณ์ของการเฉลิมฉลองสนุกสนานมากกว่าจึงเป็นชื่อที่นิยมไปทั่วโลก นอกจากนี้ คอนเฟตติยังมีอีกหลายชื่อ เช่น ในอเมริกา บางคนอาจเรียกว่า Jimmies (จิมมีส์) ถ้าเกล็ดน้ำตาลแบบเม็ดเล็กๆ กลมๆ จะเรียกว่า nonpareils (นอนพาเรล) หรือ hundreds and thousands (ฮันเรดส์แอนด์เทาซันส์) หรือถ้าเป็นแบบแท่งช็อกโกแลตเล็กๆ ก็มีกาเรียกว่า hagelslag (ฮาเคิลสลาก) ด้วยอีกชื่อหนึ่ง

โดยทั่วไปแล้ว คอนเฟตติมักไม่ได้มีรสชาติอะไรเพราะมันทำมาจากน้ำตาลและสีผสมอาหารล้วนๆ อาจมีบ้างที่แต่งกลิ่นผลไม้หรือช็อกโกแลตเพิ่มเข้าไปนิดหน่อย ดังนั้นจุดประสงค์ของการใส่คอนเฟตติเข้าไปในอาหารมักเป็นการตกแต่งเพื่อความสวยงามมากกว่าเพื่อรสชาติ ถึงอย่างนั้นคอนเฟตติก็ยังถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางอาหารที่เปลี่ยนแปลงวงการเบเกอรีไปมาก เพราะเรามีสิ่งที่ได้ชื่อว่า เค้กคอนเฟตติ คุกกี้คอนเฟตติ และอีกสารพัดขนม “รสคอนเฟตติ” ทั้งๆ ที่ตัวมันเองไม่ได้มีรสชาติอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษเลย

จุดเปลี่ยนของคอนเฟตติฟีเวอร์ เกิดขึ้นจากแบรนด์ๆ หนึ่งที่มีชื่อว่า Pillsbury ค่ะ

 

Funfetti ผลงานจาก Pillsbury ที่ทำให้คอนเฟตติเดินทางไปทั่วโลก

Pillsbury เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และแป้งจากรัฐมินนิโซตาในสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตทั้งโดว์สำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป รวมไปถึงแป้งผสมคู่ครัวเบเกอรีสารพัดอย่างไม่ว่าจะเป็นแป้งเค้ก แป้งบราวนี แป้งครัวซองต์ ฯลฯ และอยู่มาวันนี้ Pillsbury ก็ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อว่า Funfetti ขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ซึ่ง Funfetti นี้ก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ลึกลับซับซ้อนอะไร เป็นแค่การผสมคอนเฟตติธรรมดาๆ เข้ากับแป้งเค้กเท่านั้นเอง ส่วนชื่อก็ผสมคำว่า ‘fun’ ที่แปลว่าความสนุกสนานเข้าไปด้วย ซื่อๆ ง่ายๆ แบบนั้น

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Funfetti กลับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ‘โดนเส้น’ อเมริกันชนเข้าอย่างจังจนได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ เมื่อรวมกับปัจจัยเรื่องการผลิตโดยระบบอุตสาหกรรมที่ผลิตได้ครั้งละเยอะๆ รวมถึงการทำการตลาดที่ผูกภาพ Funfetti เข้ากับการรื่นเริงเฉลิมฉลอง Funfetti ก็กลายเป็นสินค้าคู่ครัวเบเกอรีของชาวอเมริกัน และเผยแพร่ไปทั่วโลก เรียกได้ว่า มีการเป่าเค้กเฉลิมฉลองที่ไหน ก็เป็นต้องเห็น Funfetti Cake ที่นั่น จน Funfetti Cake ถูกจดจำในฐานะเค้กวันเกิดสุดคลาสสิกไปด้วยอีกอย่างหนึ่ง

อิทธิพลของ Funfetti Cake ทำให้คอนเฟตติกลายเป็นอีกหนึ่งประเภทของเบเกอรีได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันเราจึงมีทั้งคอนเฟตติคุกกี้ คอนเฟตติแพนเค้ก คอนเฟตติป๊อบคอร์น คอนเฟตติไอศกรีม คอนเฟตติโฟรเซนโยเกิร์ต ฯลฯ และที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็น Fairy bread (แฟรี่เบรด) ขนมปังขาวทาเนยโรยด้วยนอนพาเรลแน่นๆ ซึ่งเป็นขนมยอดนิยมประจำปาร์ตี้วันเกิดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (ถึงแม้หลายคนจะมองว่ามันดูไม่มีรสชาติอะไรเลยก็ตาม)

แน่นอนว่า Pillsbury จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า Funfetti ไปแทบจะทันที (ดังนั้นตามกฎหมายแล้วต้องเขียนว่า Funfetti®) นอกจาก Funfetti Cake & Cupcake Mix ยอดนิยมจะถูกผลิตออกมานับสิบๆ สีแล้ว Pillsbury ก็ยังครีเอตโปรดักต์ Funfetti ออกมาอยู่เรื่อยๆ ทั้งแป้งคุกกี้ แป้งบราวนี แป้งแพนเค้ก Funfetti หลากสีหลากรูปแบบตามเทศกาล รวมถึง Funfetti Frosting ที่ชาวเน็ตนิยมนำมากินเล่นจนเป็นไวรัลไปทั่วโลกตอนนี้ ก็เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ Pillsbury ด้วยเช่นกัน

 

Funfetti ไม่มีรสชาติ แต่มีรสชาติ

การที่คอนเฟตติเป็นแค่เกล็ดน้ำตาลธรรมดาๆ แต่กลับได้รับความนิยมสูงมากไปทั่วโลก ตั้งแต่เค้กโฮมเมดในอเมริกา เค้กหรูหรา ไปจนถึงร้านเครปตามตลาดนัดในบ้านเรา ยอมนับได้ว่าคอนเฟตติเป็น “ปรากฏการณ์” บางอย่างที่เปลี่ยนโลกของขนมและเบเกอรีไปตลอดกาล ซึ่งหากลองย้อนคิดกันเร็วๆ ง่ายๆ ฉันเห็นว่าอาจจะเป็นเพราะมนุษย์เรากินด้วยปาก แต่อยากด้วยตาค่ะ

คนเรากินอาหารเพื่อความอยู่รอดก็จริง แต่ความพอใจที่ได้กินอะไรบางอย่างก็ย่อมสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเบเกอรีจึงมีทั้งมิติของความอร่อยและความสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อเรากินเพื่อเฉลิมฉลอง อาหารไม่ได้มีหน้าที่แค่ดับหิว แต่ยังมีหน้าที่เป็นความยินดีบางประการด้วย เมื่อกลิ่นอายของการเฉลิมฉลองอย่างคอนเฟตติถูกแต่งแต้มไปในอาหาร มันจึงถูกเชื่อมโยงกับความรู้สึกดีๆ ที่มนุษย์เราต้องการอยู่เสมอแม้ว่ามันจะเป็นแค่เกล็ดน้ำตาลธรรมดาๆ ก็ตาม

ดังนั้น สาเหตุที่คอนเฟตติได้รับความนิยมนักหนา ก็คงเพราะมันมีรสชาติของการเฉลิมฉลองและความทรงจำดีๆ นี่แหละค่ะ (แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้กับการตลาดอันหลักแหลมของ Pillsbury ด้วยนะคะ ฮาา)