สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาชวนทุกคนทำอาหารจีนง่ายๆ แต่อาจจะไม่คุ้นตาคนไทยเท่าไหร่นัก เพราะว่าอาหารจีนที่ว่านี้เป็นอาหารท้องถิ่นของมณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน

อืม….ถ้าพูดชื่อมณฑลหูเป่ย์ ทุกคนอาจจะงงค่ะ แต่ถ้าเราบอกว่าเมืองหลวงของมณฑลนี้คือ เมืองอู่ฮั่น ทุกคนจะอ๋อมั้ยคะ??? เมืองนี้จริงๆ แล้วนอกจากเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่ เค้ายังเป็นมืองที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวครบครันมากๆ เพราะฉะนั้นอาหารพื้นเมืองของเค้าก็จะสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ

และสำหรับตัวเราเองก็เหมือนกับคนไทยเชื้อสายจีนทั่วไป ที่บ้านถนัดจะทำอาหารจีนแต้จิ๋ว จีนกวางตุ้งซะมากกว่า แต่ว่าการได้ไปเยือนเมืองอู่ฮั่นหลายๆ ครั้ง รวมถึงการได้เจอเพื่อนคุณแม่ที่เป็นชาวอู่ฮั่นเลยทำให้บ้านเราเองก็ดูจะติดใจอาหารแถบนี้ไม่น้อยเลย จนอาหารอู่ฮั่นหลายๆ อย่างเลยกลายเป็นอาหารสูตรประจำบ้านเราที่เอาไว้รับแขกบ่อยมาก

เราเลยเลือกเมนูหนึ่งมาแบ่งปันทุกคนกันค่ะ ที่ยืนยันจริงๆ ว่ารสชาติกินง่าย และน่าจะถูกปากคนไทยมากๆ วัตถุดิบทุกอย่างก็หาในไทยได้เลยค่ะ นั่นคือเมนู….

‘ลูกชิ้นไข่มุกข้าวเหนียว 糯米珍珠丸子’

สำหรับตัวเมนูนี้แปลง่ายๆ คือลูกชิ้นหมูมีลูกเล่นที่ห่อด้วยข้าวเหนียวจนมองคล้ายไข่มุก บอกเลยว่าเมนูนี้เป็นอีกเมนูดั้งเดิมของหูเป่ย์ ที่โชว์ของดีประจำมณฑลคือ ‘ข้าวเหนียว’ กับ ‘รากบัว’ และก็เมนูนี้ปัจจุบันก็กลายเป็นอีกเมนูฮิตไปทั่วจีน และไต้หวันเลย บางทีก็พาลจะไปอยู่ในร้านติ่มซำด้วย แต่ว่าหากินในไทยยากมากๆ นะคะ 555

สัดส่วนคร่าวๆสำหรับประมาณ 25 ชิ้น

สันคอหมู 400 กรัม

ข้าวเหนียว 100 กรัม

รากบัว 100-200 กรัม ตามใจชอบมันจะเพิ่มสัมผัสมกรุบๆ

ไข่ไก่ 1 ฟอง

ขิงแก่ 1 หัวนิ้วโป้ง

เหล้าจีน, ซีอิ๊วขาว, แป้งข้าวโพด, ผงพะโล้(13 หอม), น้ำมันงา ตมใจชอบ

วิธีทำ

—1— เตรียมข้าวเหนียว

ซาวข้าวเหนียวให้สะอาด แช่น้ำสัก 3-4 ชั่วโมง

 

—2— เตรียมทำลูกชิ้นหมู

 

ลูกชิ้นหมูแบบนี้จะไม่เน้นเด้งมากค่ะ คล้ายๆ ทำไส้เกี๊ยว ใช้เนื้อหมูปนมันอย่างสันคอ หรือจะใช้หมูสามชั้นลอกหนังออกก็ได้แช่เย็นหรือแช่แข็ง ใส่รากบัว (หรือถ้าหาไม่มีใช้แห้วแทนได้) ขิงปั่นหรือสับละเอียด หลังจากปั่นทุกอย่างแล้ว ใส่ไข่ไก่ แป้งข้าวโพดเล็กน้อย ผงพะโล้ น้ำมันงา ซีอิ๊ว เหล้าทำอาหาร (อาจจะใส่น้ำมันหอยเพิ่มลงไปได้ ถ้าชอบหวานหน่อย)

 

ทริคคือรากบัวจะเพิ่มความกรุบกรอบและสัมผัสให้กับตัวลูกชิ้นได้ดี สามารถใช้แบบสดหรือฟรีซก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครคิดว่าหายากไป จะใช้แห้วแทนก็อร่อยอยู่ค่ะ ดีทั้งคู่เลย

—3— ทำลูกชิ้น

คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน แช่เย็นไว้สักครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนกลม

—4— ทำไข่มุกรอบลูกชิ้น

นำลูกชิ้นมาคลุกข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำไว้ให้รอบๆ กลิ้งเบาๆ ให้ติด ไม่ต้องแน่นมาก เดี๋ยวนึ่งแล้วข้าวจะขยายตัวเอง ติดเก๋ากี๋ที่แช่น้ำไว้ (ไม่มีก็ไม่ต้องค่ะ เราติดเพื่อเน้นเพื่อความสวยงาม เพราะว่าต้นหอมหมด เดี๋ยวหน้าจะโล้นเอา)

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนะคะ：คนจีนไม่ชอบอาหารที่สีขาวล้วนๆ ขึ้นโต๊ะเท่าไหร่ (ไม่นับข้าวสวย) เลยนิยมโรยผักหรือแต้มสีลงไป เพราะสีขาวล้วนจะนิยมไว้ใช้ในงานอวมงคลค่ะ เป็นเหตุผลเดียวกับที่เราต้องจุดแดงบนซาลาเปาหรือขนมกุยช่าย

—5— นึ่ง

ตั้งน้ำให้เดือด นำลูกชิ้นไข่มุกลงไปนึ่ง (หาอะไรรองจานก็ดีนะคะจะได้ไม่ติดอย่างเช่น ใบตอง แครอท หรือกระดาษไขก็ได้) ใช้ไฟกลางประมาณ 15-20 นาทีขึ้นกับไซส์ลูกชิ้น

—6— เสิร์ฟ

จุดเด่นของจานนี้คือ ลูกชิ้นหมูที่หอมขิง น้ำมันงา และพะโล้บางๆ มีสัมผัสทั้งของเนื้อหมูและรากบัวที่กรุบกรอบ ตัวข้าวเหนียวที่หุ้มจะรักษาความชุ่มชื้นของลูกชิ้น และมีความนุ่ม กินได้ทั้งบ้านเลยค่ะ ส่วนใครที่มีต้นหอมก็โรยเพื่อความสวยงามได้ ใครกินรสจัดหน่อยอาจเอาน้ำส้มสายชูดำผสมน้ำมันพริกใส่ขิงซอยจิ้มได้ แต่ที่บ้านเราชอบกินแบบนี้เลย อร่อยดีค่ะ หรือบางคนอาจกลัวเลี่ยนไปจะจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เข้ากันอยู่นะคะ ว่าไปเก๋ากี๋รอบนี้นึ่งไว้นานละ เหี่ยวไปนิด แต่ใช้แบบเม็ดใหญ่มากกก รสหวานๆ เปรี้ยวๆ ตัดรสแจ่มมาก

 

คำอธิบายเพิ่มเติม：อันนี้คือเมนูลูกชิ้นไข่มุกข้าวเหนียวที่เมืองอู่ฮั่น ตอนครั้งแรกที่เราได้กินค่ะ (นานมากกก) เป็นเมนูที่ถ่ายทอดวิธีชีวิตชาวอู่ฮั่นได้เป็นอย่างดี มีทั้งข้าวเหนียวและรากบัวที่เป็นของขึ้นชื่อ รสก็กินง่ายกินได้ทุกวัยในครอบครัว มีความนุ่มนิ่มของข้าวเหนียวแต่ก็ไม่แฉะ ด้านในเป็นลูกชิ้นหมูที่ทั้งนุ่มและกรอบด้วยรากบัว มีความฉ่ำน้ำและไม่เลี่ยน หอมขิงและผงพะโล้อ่อนๆ กินหนึ่งคำได้สัมผัสที่หลากหลายพร้อมกัน ติดใจถึงขั้นต้องกลับมาหัดทำเลย

ผู้เขียน: สุภมาส สุระเรืองชัย

วิศวกรที่ชอบหาสรรหาและศึกษาเรื่องราวของกินทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารฟิวชั่น โตมาในครอบครัวที่มีความชอบเรื่องอาหาร ถ้ามีเวลาก็จะออกเดินทางไปหาของกินต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยรู้สึกว่าของกินเป็นอะไรที่สะท้อนสภาพชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในแต่ละยุคแต่ละพื้นที่ที่ดีมากๆ และอาหารทุกอย่างล้วนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง เวลาว่างจะเป็นแอดมินเพจลูกคนจีน (Facebook&Twitter) ซึ่งนอกจากจะบอกเล่าเรื่องวิถีคนไทยเชื้อสายจีนแล้ว ก็จะพูดถึงเรื่องอาหารโดยไม่จำกัดประเภท