เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2-3 คน
Level
3
เผ็ดร้อนจากพริกไทยดำผสานความหอมจากจิงจูฉ่าย ได้เนื้อปลากะพงผัดนั้นช่างสัมผัสดีสู้ฟัน รสชาติช่างแสนลึกล้ำไม่เหมือนใคร
INGREDIENTS
แป้งสาลีอเนกประสงค์
¼ ถ้วย
เนื้อปลากะพงหั่นชิ้น
300 กรัม
น้ำมันพืช
3 ถ้วย
น้ำมันมะกอก
2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยเปลือกบางโขลก
1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
½ ช้อนชา
น้ำมันหอย
1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบุบ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำหรือน้ำซุป
เล็กน้อย
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ) และพริกไทยดำบด
เล็กน้อย
กระเทียมไทยเปลือกบางโขลก
เจียวพอเหลืองสำหรับโรย
ยอดและใบจิงจูฉ่ายสำหรับตกแต่ง
ยอดและใบจิงจูฉ่ายหั่นท่อนยาวขนาด 2 นิ้ว
200 กรัม
ซีอิ๊วขาว
1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
เล็กน้อย
กระเทียมเจียวสำหรับโรย
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้นเฉียงสำหรับตกแต่ง
METHOD
- ผสมแป้งสาลีกับเกลือและพริกไทยดำบดปริมาณเล็กน้อยให้เข้ากันในชาม ใส่เนื้อปลาเคล้าให้แป้งทั่วชิ้นปลา เรียงใส่จานไว้ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อนจัด ใส่เนื้อปลาลงทอดครั้งละจำนวนชิ้นเท่าๆกันจนสุกเหลือง (เพื่อให้น้ำมันมีอุณหภูมิเท่าๆกันทุกครั้งที่ทอด) ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน พักไว้ ทอดจนหมด
- ตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟกลางพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอเหลือง ใส่ซีอิ๊วขาวน้ำตาล น้ำมันหอย และพริกไทยดำ ผัดพอทั่วและมีกลิ่นหอม ใส่น้ำหรือน้ำซุปปริมาณเล็กน้อยผัด สักครู่ใส่เนื้อปลาทอด ผัดเคล้าเบาๆพอทั่วตักใส่จาน โรยกระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยยอดและใบจิงจูฉ่าย เตรียมไว้
- ทำจิงจูฉ่ายผัดเกลือโดยใส่ยอดและใบจิงจูฉ่ายใส่จาน โรยเกลือปริมาณเล็กน้อยใส่ซีอิ๊วขาว และน้ำปริมาณเล็กน้อย เตรียมไว้ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อนจัด ใส่ยอดและใบจิงจูฉ่ายที่เตรียมไว้ ผัดเร็วๆจนสุก ตักใส่จานปลากะพงพริกไทยดำที่เตรียมไว้ โรยกระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเส้นเฉียงเสิร์ฟร้อนๆ
Recommended Articles
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
สลัดจานนี้ทำง่ายมากเริ่มจากผสมมายองเนส ดิจองมัสตาร์ด น้ำเลมอน เกลือ พริกไทย น้ำตาล และทาบัสโก้ คนให้เข้ากัน ทำเป็นน้ำสลัด ซึ่งลักษณะของน้ำสลัดก็จะมีความข้นๆครีมๆ รสชาติเผ็ดนิดๆจากตัวทาบัสโก้ นำมาคลุกกับผักสลัดและเนื้อปู เท่านี้ก็ได้สลัดจานโปรดแล้ว แนะนำเลยจะกินเป็นจานหลักก็ได้หรือจะนำมาทำเป็นไส้แซนด์วิชก็ได้เช่นกัน
สเต๊กปลาสูตรนี้กินคู่กับสตูถั่วเลนทิลที่เป็นการนำเอาเบคอนลงคั่วจนเหลืองกรอบ จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ แครอท เซเลอรีลงผัดจนนุ่มและแห้ง ใส่ไวน์ขาว ขูดด้านล่างหม้อให้สะอาด ใส่กระเทียม ผัดพอหอม ใส่ถั่วเลนทิล เบคอนที่พักไว้ น้ำสต๊อกไก่ ไธม์ ใบกระวาน เกลือ เคี่ยวจนนุ่มและน้ำงวด (ประมาณ 30 นาที) ใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิก และพาร์สเลย์ คนให้เข้ากัน ก่อนปิดไฟ เสิร์ฟคู่กับปลากระพงย่าง
สลัดจานนี้น้ำสลัดทำจากกระเทียมที่นำเอาไปอบทั้งหัวให้เนื้อกระเทียมมีความนุ่มและได้กลิ่นหอมที่ชัดของกระเทียมอีกด้วย จากนั้นแกะเอาเนื้อกระเทียม ผสมกับน้ำส้มสายชูหมักจากเชอร์รี ดิจองมัสตาร์ด น้ำผึ้ง เกลือ จากนั้นค่อยๆเทน้ำมันมะกอกที่เหลือลงไปช้าๆ โดยใช้ตะกร้อตีจนน้ำสลัดเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนนำไปเคล้ากับผักสลัดถั่วแขกที่เตรียมไว้
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
สลัดจานนี้ทำง่ายมากเริ่มจากผสมมายองเนส ดิจองมัสตาร์ด น้ำเลมอน เกลือ พริกไทย น้ำตาล และทาบัสโก้ คนให้เข้ากัน ทำเป็นน้ำสลัด ซึ่งลักษณะของน้ำสลัดก็จะมีความข้นๆครีมๆ รสชาติเผ็ดนิดๆจากตัวทาบัสโก้ นำมาคลุกกับผักสลัดและเนื้อปู เท่านี้ก็ได้สลัดจานโปรดแล้ว แนะนำเลยจะกินเป็นจานหลักก็ได้หรือจะนำมาทำเป็นไส้แซนด์วิชก็ได้เช่นกัน
สเต๊กปลาสูตรนี้กินคู่กับสตูถั่วเลนทิลที่เป็นการนำเอาเบคอนลงคั่วจนเหลืองกรอบ จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ แครอท เซเลอรีลงผัดจนนุ่มและแห้ง ใส่ไวน์ขาว ขูดด้านล่างหม้อให้สะอาด ใส่กระเทียม ผัดพอหอม ใส่ถั่วเลนทิล เบคอนที่พักไว้ น้ำสต๊อกไก่ ไธม์ ใบกระวาน เกลือ เคี่ยวจนนุ่มและน้ำงวด (ประมาณ 30 นาที) ใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิก และพาร์สเลย์ คนให้เข้ากัน ก่อนปิดไฟ เสิร์ฟคู่กับปลากระพงย่าง
สลัดจานนี้น้ำสลัดทำจากกระเทียมที่นำเอาไปอบทั้งหัวให้เนื้อกระเทียมมีความนุ่มและได้กลิ่นหอมที่ชัดของกระเทียมอีกด้วย จากนั้นแกะเอาเนื้อกระเทียม ผสมกับน้ำส้มสายชูหมักจากเชอร์รี ดิจองมัสตาร์ด น้ำผึ้ง เกลือ จากนั้นค่อยๆเทน้ำมันมะกอกที่เหลือลงไปช้าๆ โดยใช้ตะกร้อตีจนน้ำสลัดเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนนำไปเคล้ากับผักสลัดถั่วแขกที่เตรียมไว้
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
สลัดจานนี้ทำง่ายมากเริ่มจากผสมมายองเนส ดิจองมัสตาร์ด น้ำเลมอน เกลือ พริกไทย น้ำตาล และทาบัสโก้ คนให้เข้ากัน ทำเป็นน้ำสลัด ซึ่งลักษณะของน้ำสลัดก็จะมีความข้นๆครีมๆ รสชาติเผ็ดนิดๆจากตัวทาบัสโก้ นำมาคลุกกับผักสลัดและเนื้อปู เท่านี้ก็ได้สลัดจานโปรดแล้ว แนะนำเลยจะกินเป็นจานหลักก็ได้หรือจะนำมาทำเป็นไส้แซนด์วิชก็ได้เช่นกัน
สเต๊กปลาสูตรนี้กินคู่กับสตูถั่วเลนทิลที่เป็นการนำเอาเบคอนลงคั่วจนเหลืองกรอบ จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ แครอท เซเลอรีลงผัดจนนุ่มและแห้ง ใส่ไวน์ขาว ขูดด้านล่างหม้อให้สะอาด ใส่กระเทียม ผัดพอหอม ใส่ถั่วเลนทิล เบคอนที่พักไว้ น้ำสต๊อกไก่ ไธม์ ใบกระวาน เกลือ เคี่ยวจนนุ่มและน้ำงวด (ประมาณ 30 นาที) ใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิก และพาร์สเลย์ คนให้เข้ากัน ก่อนปิดไฟ เสิร์ฟคู่กับปลากระพงย่าง
สลัดจานนี้น้ำสลัดทำจากกระเทียมที่นำเอาไปอบทั้งหัวให้เนื้อกระเทียมมีความนุ่มและได้กลิ่นหอมที่ชัดของกระเทียมอีกด้วย จากนั้นแกะเอาเนื้อกระเทียม ผสมกับน้ำส้มสายชูหมักจากเชอร์รี ดิจองมัสตาร์ด น้ำผึ้ง เกลือ จากนั้นค่อยๆเทน้ำมันมะกอกที่เหลือลงไปช้าๆ โดยใช้ตะกร้อตีจนน้ำสลัดเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนนำไปเคล้ากับผักสลัดถั่วแขกที่เตรียมไว้
Recommended Videos