เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ทาร์ตคาราเมลช็อกโกแลต

Recipe by ทีมบรรณาธิการ

Serves

8 ชิ้น

Level

4

ทาร์ตคาราเมลช็อกโกแลตมีรสหวานเข้มข้นด้วยคาราเมลจึงต้องใส่เกลือในคาราเมลเพื่อลดความหวาน และเพิ่มรสเค็มปะแล่มช่วยแก้เลี่ยน สูตรนี้เลือกใช้เกลือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นเกลืออย่างดีที่ได้จากการระเหยของน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อใส่ลงไปแล้วเกลือจะไม่ละลายจนหมด ยังเหลือเป็นก้อนเล็กๆ พอให้ลิ้นสัมผัสได้กินแล้วได้รสเค็มตัดกับรสหวานอย่างลงตัว

INGREDIENTS

METHOD

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ วางพิมพ์ทาร์ตลงในถาดอบ

 

2. ใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ (หม้อต้องมีขนาดเล็กกว่าอ่างผสม) ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อนจากนั้นใส่ช็อกโกแลตและเนยลงในชามแก้วทนความร้อน ยกขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ (ระวังอย่าให้ก้นอ่างผสมสัมผัสน้ำเดือด เพราะจะทำให้ช็อกโกแลตร้อนเกินไป) คนด้วยพายยางจนช็อกโกแลตละลายหมด ยกลงจากหม้อ

 

3. บดคุกกี้กับช็อกโกแลตที่ละลายไว้ให้เข้ากันจนเนียน (ถ้าไม่มีเครื่องบดก็บดคุกกี้ให้ละเอียดแล้วนำไปคลุกเคล้ากับเนยและช็อกโกแลตที่ละลายด้วยส้อมให้เข้ากัน) ใส่ส่วนผสมที่บดลงในพิมพ์ทาร์ตที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนเกลี่ยและกดให้เรียบเสมอกัน กรุให้หนาประมาณ 0.5 ซม. กดตรงฐานและขอบให้แน่น นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15 นาที ยกออกจากเตาอบ แล้วใช้ช้อนกดไล่ฐานและขอบแป้งทาร์ตอีกครั้งให้เป็นรูปพิมพ์ทาร์ตที่ชัดเจนขึ้น พักไว้ให้เย็น แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งทาร์ตอยู่ตัว

 

4. ทำซีซอลต์คาราเมลโดยต้มน้ำตาลกับน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนน้ำตาลละลายและเดือด (ห้ามคนเพราะจะทำให้น้ำเชื่อมตกผลึกเป็นเกล็ด) ในระหว่างนี้ให้ต้มวิปปิ้งครีมในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือดเล็กน้อย และเมื่อน้ำเชื่อมที่ต้มมีสีคาราเมลตามที่ต้องการ ลดเป็นไฟอ่อน แล้วค่อยๆ ใส่วิปปิ้งครีมที่ต้ม ระวังกระเด็น ตามด้วยเนยสด ครีมเปรี้ยว และน้ำมะนาวคนด้วยตะกร้อให้ละลายเข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา (ถ้าคาราเมลที่ได้มีเศษก้อนน้ำตาลให้กรองด้วยกระชอนตาถี่) ใส่เกลือ ¼ ช้อนชา คนด้วยพายไม้ให้เข้ากัน พักที่อุณหภูมิห้องจนเย็นสนิท

 

5. เทซีซอลต์คาราเมลใส่ลงในพิมพ์แป้งทาร์ตที่อบไว้ เกลี่ยด้วยพายยางให้เสมอกัน โรยเกลืออีกประมาณ 1 หยิบมือ ให้ทั่วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งนานประมาณ 30 นาที

 

6. ทำครีมดาร์กช็อกโกแลตโดยต้มน้ำตาลกับวิปปิ้งครีมในหม้อด้วยไฟกลางพอเดือดเล็กน้อย ยกลงเทใส่ชามช็อกโกแลตคนด้วยพายยางเบาๆจนละลายเข้ากันจนเนื้อครีมเนียน (ไม่ควรคนมากเกินจะทำให้เกิดฟองอากาศ แต่ถ้ามีฟองอากาศให้ยกชามกระแทกกับพื้นเบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศ) เมื่อช็อกโกแลตที่ละลายพออุ่น จึงใส่เนย คนให้เนยละลายเข้ากันทั่วเทครีมดาร์กช็อกโกแลตตามลงไปให้ทั่ว เอียงพิมพ์ทาร์ตเพื่อให้ครีมดาร์กช็อกโกแลตเสมอกัน แต่ไม่เลยขอบแป้งขึ้นมานำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนถอดทาร์ตออกจากพิมพ์

 

7. ตัดทาร์ตคาราเมลช็อกโกแลตเป็นชิ้น วิธีการตัดใช้มีดปลายเรียบและคมไปลนไฟหรือจุ่มในน้ำร้อนจัดแล้วเช็ดให้แห้งเวลาตัดให้กดมีดลงบนทาร์ต แล้วเช็ดมีดให้สะอาด จากนั้นนำมีดไปทำให้ร้อนเช่นเดิมเพื่อตัดชิ้นต่อๆ ไปจนหมด (การทำมีดให้ร้อนจะช่วยให้ตัดทาร์ตได้สวยและคม ครีมจะไม่ล้มตามแรงดูดของมีดที่ตัดลงไป)

 

 

 

Tips

 

     

  • หากใช้ขนมปังกรอบผสมธัญพืชต้องเพิ่มสัดส่วนของเนย เพราะเนื้อขนมปังร่วนกว่าคุกกี้ผสมเนยใช้เกลือป่นแทนเกลือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ แต่มีรสเค็มมากกว่า จึงควรใส่ในปริมาณที่น้อยลง และชิมให้ได้รสชาติเค็มนิดๆ
  •  

  • ควรใช้ไฟอ่อนเคี่ยวคาราเมล โดยเปิดวงไฟให้เสมอกับก้นหม้อ เลือกใช้หม้อโลหะเนื้อหนาแทนหม้อสีดำ ช่วยให้เห็นสีของคาราเมลชัดเจนหากมีผลึกหรือเกล็ดน้ำตาลจับตามขอบหม้อระหว่างเคี่ยว ใช้แปรงจุ่มน้ำเย็นจัดปัดขอบหม้อเพื่อให้น้ำตาลละลายออกมาการต้มวิปปิ้งครีมก่อนเทใส่ในคาราเมลที่เคี่ยวไว้จะช่วยให้คาราเมลไม่กระเด็น
  •  

 

 

 

สูตรอาหารโดย ณวิภา ปฏิมาประกร

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

ทุกเรื่อง ‘ช็อกโกแลต’ ที่ต้องรู้ก่อนทำขนมแสนอร่อย

Gallery

Share this content

Tags:

bakery, tart, ขนมอบ, ของหวานฝรั่ง, คาราเมล, ดาร์กช๊อกโกแลต, อาหารปาร์ตี้, เบเกอร์รี, แป้งทาร์ต

Recommended Articles

Recipeไก่ทอดเกาหลีกับซอส 3 สไตล์
ไก่ทอดเกาหลีกับซอส 3 สไตล์

เมนูทำขายได้กำไรงาม สร้างอาชีพให้พ่อค้าเเม่ค้ากับไก่ทอดเกาหลีคลุกซอส 3 สไตล์ ทั้งซอสมะขาม รสเปรี้ยวหวานสไตล์ไทย ซอสเผ็ดเกาหลีรสจัดจ้านได้กลิ่นอายความเป็นเกาหลีเเท้ๆ เเละซอสชีสรสเข้มข้น พร้อมคำนวณราคาต้นทุนให้อย่างละเอียด

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recommended Videos