เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
27 ชิ้น
Level
2
“ขนมโค” ขนมพื้นบ้านของทางภาคใช้ มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับ “ขนมต้ม” ของทางภาคกลาง แต่จะมีความแตกต่าง อยู่ตรงที่ไส้ ซึ่งไส้ของ “ขนมโค” นั้นจะเป็นเพียงแค่น้ำตาลตะโหนดหั่นเป็นแว่น ห่อด้วยแป้งนำไปต้ม แล้วนำมาคลุกกับมะพร้าวนึ่ง ส่วน “ขนมต้น” นั้นไส้ด้านในเป็นมะพร้าวทึนทึกผัดกับน้ำตาลมะพร้าว ก่อนจะนำไปปั้นเป็นก้อน ห่อด้วยแป้ง นำไปต้มและนำไปคลุกกับมะพร้าวนึ่งเช่นเดียวกัน
INGREDIENTS
แป้งข้าวเหนียว
100 กรัม
น้ำอัญชัน
100 กรัม
(น้ำอุ่น 100 กรัม ดอกอัญชัน 15 ดอก)
แป้งข้าวเหนียว
100 กรัม
มันเทศนึ่งสุก
100 กรัม
น้ำ
80 กรัม
แป้งข้าวเหนียว
100 กรัม
น้ำใบเตย
100 กรัม
(น้ำอุ่น 100 กรัม ปั่นกับใบเตยหั่นท่อน ¼ ถ้วย)
น้ำตาลมะพร้าว
130 กรัม
น้ำ
45 กรัม
สายบัวหักท่อน 1 นิ้ว
200 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น
100 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น
200 กรัม
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
อุปกรณ์ กระทะทองเหลือง
METHOD
1. ทำมะพร้าวสำหรับคลุกโดยเคล้ามะพร้าวทึนทึกขูดกับเกลือให้ทั่ว จากนั้นนำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน นึ่งนานประมาณ 3-5 นาที ปิดไฟ ยกลง เทใส่ถาด เกลี่ยให้หายร้อน
2. ทำไส้สายบัวมะพร้าวโดยตั้งกระทะทองเหลืองบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำตาลมะพร้าวและน้ำ ลงในกระทะเคี่ยวให้น้ำตาลละลายดีจากนั้นใส่สายบัวลงเคี่ยวในกระทะให้สายบัวเปื่อยนุ่ม เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลมีสีเข้มขึ้น ใส่มะพร้าวทึนทึก ผัดให้น้ำตาลซึมเข้าเนื้อมะพร้าวจนมีลักษณะใส แต่ยังมีน้ำขลุกขลิก ปิดไฟ เกลี่ยลงถาดให้ทั่ว พักให้หายร้อน ปั้นเป็นก้อนๆละ 1 ช้อนชา หรือ 7 กรัม
3. ทำแป้งขนมโคโดยผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอัญชัน นวดให้เข้ากัน จนแป้งเนียนไม่ติดมือ คลุมด้วยพาสติกแร็ป พักไว้ (ทำแป้งขนมโคสีส้มกับสีเขียว เช่นเดียวกับแป้งขนมโคสีม่วง) เด็ดแป้งขนมโคเป็นชิ้นละประมาณ 10 กรัม แผ่แป้งออกเป็นแผ่นบาง วางไส้สายบัวมะพร้าวตรงกลาง หุ้มไส้ให้มิด ทำเช่นนี้จนหมด
4. ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง รอให้เดือด ลดเป็นไฟอ่อน ใส่ขนมโคลงต้ม รอจนกระทั่งแป้งสุกลอยขึ้น ทิ้งไว้สักครู่จึงช้อนแป้งขึ้น ใส่ลงในถาดมะพร้าวนึ่งไว้แล้ว คลุกขนมโคกับมะพร้าวให้ทั่ว จัดขนมโคใส่จาน เสิร์ฟ
Gallery







Recommended Articles

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย
Recommended Videos