เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2-3 คน
Level
3
ตับทอดกระเทียม อาหารหน้าตาธรรมดา ดูเรียบง่าย แต่แอบแฝงไปด้วยรายละเอียดและเทคนิคต่างๆ ไว้มากมาย ตั้งแต่การเลือกสรรตับ การล้างจนถึงการ Cooking สูตรนี้จะมาสอนการทำตับทอดกระเทียมยังไงให้นุ่ม เด้ง ไร้กลิ่นคาว เหมือนร้านดัง
INGREDIENTS
ตับหมู
300 กรัม
น้ำมันพืช
½ ถ้วย
กระเทียมกลีบใหญ่สับหยาบ
½ ถ้วย
กระเทียมกลีบเล็กสับหยาบ
¼ ถ้วย
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนชา
ซอสปรุงรส
2 ช้อนชา
น้ำมันหอย
1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
พริกไทยขาวป่น
½ ช้อนชา
เหล้าจีน
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมันสำหรับเคล้าตับ
เกลือสมุทร แป้งมัน และเบกกิ้งโซดาสำหรับล้างตับ
METHOD
- หั่นตับโดยใช้มีดเฉือนเอาพังผืดสีขาวออก เอียงมีดเล็กน้อย หั่นตับตามขวางเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. เตรียมไว้ (การหั่นขวางชิ้นตับจะทำให้เวลาล้างตับเลือดจะออกมาง่ายกว่า)
- ล้างตับด้วยน้ำประมาณ 6–7 รอบ ขณะล้างใช้มือขยำตับไปเรื่อยๆ เพื่อไล่เอาเลือดออกมาให้ได้มากที่สุด ล้างจนตับมีสีซีดลงและเห็นรูพรุนบนผิวชัดเจนขึ้น ใส่แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะและเกลือสมุทร 1 ช้อนชาลงในอ่างตับ ใช้มือขยำให้แป้งเคลือบตับทั่ว พักไว้ 15 นาที แป้งมันจะเป็นตัวดูดซับเลือดออกจากตับและทำให้ตับเด้ง เมื่อครบเวลา นำมาล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 3-4 รอบ ใส่อ่างผสมรอไว้
- ใส่เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา กับ น้ำเย็น 1 ถ้วยลงในอ่างตับ คนให้ละลาย แช่ตับทิ้งไว้ 30 นาที (เบกกิ้งโซดาจะเป็นตัวดึงน้ำเข้าไปในตับแทนเลือดที่ถูกนำออกไป ทำให้เวลาเอาไปผัดหรือทอดตับจะเด้งและฉ่ำ) จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอีก 3-4 รอบจนตับสะอาดดี พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เคล้าตับกับแป้งมันบางๆ เตรียมไว้
- ตั้งกระทะบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่น้ำมันพืช กระเทียมกลีบใหญ่และกระเทียมกลีบเล็ก เจียวจนกระเทียมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวย ตักกระเทียมขึ้นพักไว้ เร่งเป็นไฟกลางค่อนแรง ใส่ตับที่เตรียมไว้ลงทอดในน้ำมันเจียวกระเทียมประมาณ 30 วินาทีให้ผิวด้านนอกตึง พอสุก ตักขึ้น พักไว้
- เทน้ำมันออกโดยเหลือไว้ในกระทะประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่กระเทียมที่เจียวลงไปเล็กน้อย ตามด้วยตับที่ทอดไว้ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทรายและพริกไทย เร่งเป็นไฟแรง ผัดให้เข้ากัน ใส่เหล้าจีน ผัดเร็วๆให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
- ตักตับทอดกระเทียมใส่จาน โรยด้วยกระเทียมที่เหลือ เสิร์ฟ
Gallery
Recommended Articles
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ
Recommended Videos