เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
20 ชิ้น
Level
3
ขนมหวานของไทยที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นขนมหวานที่รับประทานได้ง่าย และทำได้ง่ายๆอีกด้วย เมื่อได้ลองลิ้มรสจะได้ความรู้สึกถึงความหอมของกะทิและใบเตย ยิ่งรับประทานตอนเย็นๆ ชื่นใจสุดๆ
INGREDIENTS
น้ำ
1 ถ้วย
ผงวุ้น
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
3 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 600 กรัม คั้นกับน้ำอุ่น ¾ ถ้วย)
2 ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ใบเตยมัดเป็นปม
5 ใบ
ผงวุ้น
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ
2½ ถ้วย
น้ำตาลทราย
1 ถ้วย
น้ำใบเตยข้นๆ (ใบเตยหั่นชิ้นเล็ก 1 ½ ถ้วย ปั่นกับน้ำ 1 ถ้วย)
½ ถ้วย
อุปกรณ์เฉพาะ
กระทะทองเบอร์ 11, พิมพ์ถ้วยพลาสติกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม.
METHOD
1. ทำหน้ากะทิโดยใส่น้ำและผงวุ้นลงในกระทะทอง ใช้พายไม้คนให้ผงวุ้นกระจายเข้ากันทั่ว พักนานประมาณ 15 นาทีเพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำได้เต็มที่ จะช่วยทำให้ไม่ต้องเคี่ยวนาน จึงยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอเดือดและวุ้นละลายใส่น้ำตาล หัวกะทิ เกลือ และใบเตย คนพอทั่ว ลดไฟอ่อน รอให้เดือดอีกครั้ง ตักใบเตยออก แล้วนำกระทะทองของวุ้นที่เคี่ยวได้ที่วางบนกระทะอีกใบที่ใส่น้ำไว้เล็กน้อย ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็งระหว่างหยอด
2. ทำตัววุ้นใบเตยโดยใส่ผงวุ้นกับน้ำลงในกระทะทอง ใช้พายไม้คนให้ผงวุ้นกระจายเข้ากันทั่ว พักนานประมาณ 15 นาทีเพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำได้เต็มที่ จึงยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนให้วุ้นละลายและเดือดเป็นฟองเล็กๆทั่วกระทะพอวุ้นละลายดี สังเกตจากพายไม้เมื่อยกขึ้นไม่มีผงวุ้นติดเป็นเม็ดๆ ใส่น้ำตาล น้ำใบเตย แล้วเคี่ยวต่ออีกนานประมาณ 5 นาที หรือจนกระทั่งน้ำตาลละลายและเดือด แล้วนำกระทะทองของวุ้นที่เคี่ยวได้ที่วางบนกระทะอีกใบที่ใส่น้ำไว้เล็กน้อย ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน เพื่อไม่ให้วุ้นแข็งระหว่างหยอด
3. หยอดวุ้นโดยใส่หน้ากะทิในพิมพ์ พักไว้พอหน้ากะทิอุ่นๆ ตักวุ้นใบเตยหยอดทับหน้ากะทิ พักไว้พออุ่นแล้วหยอดเช่นนี้สลับกันไปจนหมด รอให้วุ้นแข็งตัวแล้วแคะออกจากพิมพ์
ลักษณะที่ดี
วุ้นมีชั้นบางเท่าๆกัน สีสวย หอมกลิ่นใบเตยและหวานมันกะทิ
ข้อน่ารู้
- ขณะที่หยอดวุ้นควรวางกระทะวุ้นที่เคี่ยวแล้วบนกระทะอีกใบที่ใส่น้ำ แล้วยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนๆไว้เพื่อไม่ให้วุ้นแข็งตัว
- หยอดวุ้นเพื่อให้หน้ากับตัวติดกัน ต้องหยอดเมื่อตัววุ้นกำลังอุ่น ถ้าปล่อยให้ตัววุ้นแข็ง หน้าจะไม่เกาะติดกับตัว
- แต่ละชั้นควรหยอดวุ้นในปริมาณที่เท่ากันเพื่อความสวยงาม
สูตรอาหารโดย อบเฉย อิ่มสบาย
Recommended Articles

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

ขนมต้มแดง เป็นขนมโบราณดังเดิม เป็นการนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำให้เข้ากันจนปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้นนำไปต้มให้แป้งสุก ส่วนตัวหน้ากระฉีกนั้นเป็นการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว น้ำ และเกลือ ให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายและเดือดเข้ากันดี จึงค่อยใส่มะพร้าวขูด เคี่ยวต่อจนส่วนผสมงวด ก่อนจะเอามาราดหรือจะนำเอาแป้งที่ต้มสุ่กแล้วลงเคล้าให้เคลือบตัวแป้งจนทั่วก็ได้เช่นกัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน
Recommended Videos