เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
35 ลูก
Level
3
ขนม 2 ชนิดนี้มีสูตรแป้งที่คล้ายกัน แต่จะแตกต่างกันที่อัตราส่วนเล็กน้อยเท่านั้น เราเลยปรับสูตรแป้งให้เหมือนกันไปเลย เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการทำ สำหรับคนที่อยากทำขาย อยากใช้แป้งเดียวกัน แต่อยากเปลี่ยนเพียงไส้ด้านในก็สามารถทำสูตรนี้ได้เลย
INGREDIENTS
น้ำตาลทรายขาว
50 กรัม
น้ำ
25 กรัม
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
งาขาวสำหรับคลุก
ใบเตยหั่นท่อนและน้ำมันพืชสำหรับทอด
แป้งข้าวเหนียว
360 กรัม
แป้งข้าวเจ้า
40 กรัม
ผงฟู
2 ช้อนชา
น้ำร้อน
240 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
80 กรัม
เกลือป่น
1 ช้อนชา
น้ำมันพืช
50 กรัม
รากผักชี
3 ราก
กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก
20 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด
1 ช้อนชา
น้ำมันพืช
1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุกบดละเอียด
200 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
30 กรัม
เกลือป่น
3/4 ช้อนชา
น้ำ
1/2 ถ้วย
หัวกะทิ
100 กรัม
ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุกบดละเอียด
200 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
50 กรัม
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
METHOD
- ทำแป้งขนมโดยผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้าและผงฟูให้เข้ากัน ผสมน้ำร้อน น้ำตาลทรายและเกลือคนให้น้ำตาลละลาย ใส่ลงในส่วนผสมของแป้ง ตามด้วยน้ำมัน คนเข้าให้เข้ากันพอเข้ากัน จากนั้นใช้มือนวดต่อจนเนียนดี คลุมด้วยพลาสติกแร็ป พักแป้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 30 นาที
- ทำไส้เค็มโดยโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้ละเอียดดี จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันพอร้อนใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดพอหอมใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือก น้ำตาลทรายและเกลือ ผัดทุกอย่างให้เข้ากันดี เติมน้ำลงไป ให้มีลักษณะจับตัวกันเป็นก้อน ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ก้อนละ 15 กรัม ทำจนหมดพักไว้
- ทำไส้หวานโดยตั้งกระทะกะทิบนไฟอ่อน ใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือก คนจนกะทิงวด จากนั้นใส่น้ำตาลและเกลือ กวนจนเนื้อถั่วเนียนดีและสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ก้อนละ 15 กรัม ทำจนหมดพักไว้
- นำแป้งที่พักไว้มาแบ่งครึ่ง ครึ่งนึงมาปั้นเป็นก้อนกลม ก้อนละ 20 กรัม กดให้เป็นแผ่นกลมๆ ใส่ไส้เค็มลงตรงกลาง หุ้มแป้งขึ้นมาปิดให้มิดไส้ ทำจนไส้หมด นำแป้งอีกครึ่งนึงที่เหลือมาห่อไส้หวาน ทำแบบเดียวกันกับไส้เค็ม แล้วคลุกงาขาวให้ทั่วรอบนอก
- ตั้งกระทะน้ำมันพืชบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่ใบเตย พอน้ำมันเริ่มร้อนนำขนมลงทอด (ทอดทีละไส้) รอให้ผิวขนมเริ่มสุกเล็กน้อยใช้กระชอน ค่อยๆเขี่ยให้ขนมไม่ติดกัน ระหว่างทอดให้ใช้กระชอนคนอยู่ตลอด เพื่อให้ขนมสีสวยทั่วกันดี จนสีเหลืองสวยและแป้งพองขึ้น ตักขึ้นพักบนตะแกรง
- นำขนมไข่หงส์(ไส้เค็ม)ที่ทอดเสร็จแล้ว มาเคลือบน้ำตาลโดยให้โดยใส่น้ำตาลทราย น้ำ และเกลือลงในกระทะ คนให้น้ำตาลละลายและข้นเหนียว ใส่ขนมไข่หงส์ที่พักไว้ลงไป คนให้น้ำเชื่อมเคลือบดี ปิดไฟ ใช้ตะหลิวคนจนน้ำตาลขึ้นเป็นเกล็ดเคลือบขนมทั่วดี
- นำขนมไข่หงส์และขนมอีตุยจัดลงใส่จาน เสิร์ฟ
วิธีเตรียมถั่วเขียวเลาะเปลือก
- ล้างทำความสะอาดและแช่ถั่วเขียวเลาะเปลือก อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- สะเด็ดน้ำบนตะแกรง ตังหม้อลังถึงรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือกลงไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที หรือจนกว่าถั่วจะสุก
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือกที่นึ่งสุกแล้ว ไปปั่นในเครื่องปั่น ให้ละเอียด
Gallery
Tags:
Recommended Articles
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
Recommended Videos