เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2 คน
Level
2
มาซาล่าจาย เครื่องดื่ม welcome drink ประจำบ้านเชฟน่าน ที่แขกไปใครมาก็จะชงมาซาล่าจายให้ดื่มเสมอ เพราะว่าชาผสมเครื่องเทศตัวนี้หอมเป็นเอกลักษณ์ ทำไม่ยาก แถมดื่มง่าย จะกินคู่กับขนมอะไรก็เข้ากัน
INGREDIENTS
น้ำ
1 ถ้วย
ขิงแก่ปอกเปลือกบุบ
1 แง่ง
กระวานเขียวบุบ
8 เม็ด
พริกไทยดำเม็ดบุบ
8 เม็ด
กานพลู
4 เม็ด
อบเชย ขนาด 4 นิ้ว
1 ชิ้น
นมสดชนิดจืด
2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ชาดำ
2 ช้อนโต๊ะ
อุปกรณ์ กระชอนตาถี่หรือถุงกรองชา
METHOD
- ทำชาจายโดยตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง ใส่ขิง กระวานเขียว พริกไทยดำ กานพลู และอบเชยลงในหม้อ ต้มให้เดือดอ่อนๆประมาณ 2 นาที จากนั้นใส่นมสดต้มให้นมเดือด เติมน้ำตาลทรายแดงและชาดำ ต้มต่อให้เดือด ลดไฟลง หมั่นตักชาขึ้นแล้วเทลง (เป็นการชักชา) ชักชาประมาณ 2 นาที ชักชาเสร็จให้เร่งไฟรอให้ชาเดือดจัดจนมีฟองเกือบล้นหม้อ ปิดไฟทันที
- กรองชาออกด้วยกระชอนตาถี่หรือถุงกรองชา รินใส่แก้วสำหรับดื่มชา เสิร์ฟ
Gallery
Recommended Articles
ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
Recommended Videos