เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

เค้กชาเขียวซอสไหลเยิ้ม (Matcha Fountain Cake)

Recipe by ชรินรัตน์ จริงจิตร

Serves

3 ปอนด์

Level

3

Matcha Fountain Cake “เค้กชาเขียวซอสไหลเยิ้ม” เค้กชาเขียวเนื้อนุ่มหอมกลิ่นชาเขียว ราดด้วยซอสครีมชาเขียวรสละมุนลิ้น แนะนำเลยว่าจะกินใหม่ๆก็ไม่ว่าหรือจะแช่ตู้เย็นข้ามคืนเสียสักหน่อยก็จะได้เนื้อเค้กที่นุ่มชุ่มฉ่ำมากยิ่งขึ้นไปอีก

INGREDIENTS

ไข่แดงไข่ไก่

3 ฟอง

น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1)

50 กรัม

กลิ่นวานิลลา

1 ช้อนชา

นมสดชนิดจืด

100 กรัม

น้ำมัน

40 กรัม

แป้งเค้ก

70 กรัม

ผงฟู

1 ช้อนชา

เกลือป่น

¼ ช้อนชา

ผงชาเขียว

10 กรัม

ไข่ขาว

3 ฟอง

ครีมออฟทาทาร์

1/8 ช้อนชา

น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2)

50 กรัม

ผงชาเขียวสำหรับโรย

อุปกรณ์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์ พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ พิมพ์วงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 3 เซ็นติเมตร สำหรับกดเนื้อเค้กตรงกลาง

METHOD

1. ทำซอสชาเขียวโดยอุ่นนมในหม้อบนไฟกลาง พอร้อนปิดไฟ ใส่ผงชาเขียวลงในหม้อคนให้ผงชาเขียวละลายเข้ากันดี พักไว้ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ลงในหม้อนม เปิดไฟอ่อน คนส่วนผสมให้เข้ากันด้วยพายยางจนส่วนผสมข้น ใส่เจลาตินที่แช่น้ำแล้วไวท์ช็อกโกแลต คนให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากัน ปิดไฟ เทใส่อ่างผสม พักให้หายร้อน

 

2. ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนวิปปิ้งครีมข้น (ลักษณะคล้ายฟองนม ตักวิปปิ้งครีมลงผสมในอ่างซอสชาเขียวที่เย็นแล้ว ใช้พายยางตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกแร็ป ให้แนบไปกับหน้าซอส นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา พักไว้

 

3. ทำเนื้อเค้กโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านล่างและด้านข้างของพิมพ์ จากนั้นใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) และกลิ่นวานิลลาลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมให้เข้ากัน น้ำตาลละลายและสีไข่อ่อนลง จากนั้นใส่นมและน้ำมัน คนให้เข้ากัน ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และผงชาเขียวลงในอ่างผสม คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้

 

4. ใส่ไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ลงในอ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงจนเริ่มเป็นฟองหยาบ ค่อยๆใส่น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) ทีละน้อยจนหมด ลดเป็นความเร็วปานกลาง ตีต่อจนไข่ขาวฟูแน่นและตั้งยอดอ่อน พักไว้

 

5. ตักไข่ขาวลงในอ่างผสมไข่แดง โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ใช้พายยางตะล่อมให้ส่วนผสมไข่ขาวกับไข่แดงเข้ากัน อย่างเบามือ ทำแบบนี้จนหมดไข่ขาว เทใส่พิมพ์ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 20 – 25 นาที เมื่อเค้กสุก คว่ำเค้กออกจากพิมพ์ลงบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พลิกกลับด้าน ทิ้งไว้จนเย็นสนิท

 

6. ใช้พิมพ์วงแหวนกดเนื้อเค้กตรงกลางให้เป็นรู ราดด้วยซอสชาเขียวที่ทำไว้จนทั่วเนื้อเค้ก โรยผงชาเขียว เสิร์ฟ

VDO ขั้นตอนการทำ

Share this content

Tags:

ขนมหวาน, ขนมหวานฝรั่ง, ขนมเค้ก, ของหวาน, เค้ก, เค้กชาเขียว, เมนูเค้ก

Recommended Articles

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recommended Videos