เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8 ชิ้น
Level
3
อีกรสชาติหนึ่งของชีสเค้กหน้าไหม้ที่กำลังเป็นที่นิยม หอมเข้มข้นด้วยรสนูเทลล่า สเปรทช็อกโกแลตรสฮาเซลินัท เนื้อชีสเค้กเนียนนุ่มด้วยรสสัมผัสของครีมชีสและครีม ถ้าใครชอบแบบตรงกลางนิ่มกว่านี้หน่อยให้ลดเวลาอบลงอีก 5 นาที
INGREDIENTS
ครีมชีส นุ่ม
400 กรัม
น้ำตาลทราย
80 กรัม
แป้งข้าวโพด
15 กรัม
นูเทลล่า (Nutella)
300 กรัม
ไข่ไก่ (ฟองละ 60-65 กรัม)
4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา
2 ช้อนชา
วิปปิ้งครีม
180 กรัม
อุปกรณ์: พิมพ์เค้กกลมขนาด 2 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับรองพิมพ์ เครื่องตีเค้กหรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้า
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไข 2 ชั้นด้านในพิมพ์เค้ก โดยให้ชายกระดาษไขพ้นพิมพ์ขึ้นมาอย่างน้อย 2 นิ้ว ตัดชายกระดาษที่ยาวเกินให้เรียบร้อย
2. ใส่ครีมชีส น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด และนูเทลล่าลงในอ่างผสม ตีส่วนผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วต่ำสุดจนนุ่มเนียน
3. ต่อยไข่ไก่ลงในชาม ใส่กลิ่นวานิลลา พักไว้
4. ค่อยๆเทไข่ไก่ทีละฟองลงในอ่างผสม ใส่วิปปิ้งครีม ตามลำดับ ตีจนเนื้อชีสเค้กเนียน ปิดเครื่อง
5. เทชีสเค้กใส่พิมพ์ ให้ต่ำกว่าขอบพิมพ์ 1 ซม. นำเข้าอบในเตาอบนาน 25 นาที นำออกจากเตา พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท เข้าตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหรือข้ามคืน แล้วจึงยกออกจากพิมพ์ (ชีสเค้กชนิดนี้ควรรับประทานแบบเย็นๆ)
Gallery


Tags:
basque, Burnt, cheesecake, ขนมฝรั่ง, ขนมอบ, ครีมชีส, ชีสเค้ก, ชีสเค้กแบบอบ, นูเทลลา, นูเทลล่าบาสก์เบิร์นชีสเค้ก, บาสก์ชีสเค้ก, วิปปิ้งครีม, อบ, เบเกอร์รี, แป้งข้าวโพด, ไข่ไก่
Recommended Articles

เฟรนช์โทสต์ หรือขนมปังชุบไข่ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี เหมาะเป็นของว่างยามบ่าย กินคู่กับน้ำชาหรือกาแฟ เด็กน้อยก็กินคู่กับนมสด เพิ่มคุณค่าทางอาหารได้เป็นอย่างดี วิธีทำง่ายมาก เพียงมีขนมปังที่เราชอบ นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก ใส่ลงในถาดอบที่เราต้องการ โรยผลไม้แห้งหรือถั่วตามชอบ ราดด้วยนม ไข่ เนย น้ำตาลและผงซินนามอน พักไว้สักครู่เพื่อให้ขนมปังดูดของเหลวได้เต็มที่ แล้วนำเข้าอบจนกรอบเหลืองยกออกมากลิ่นหอมยั่วใจ

คุกกี้ถือเป็นขนมอบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวาน หอม ชิ้นเล็กพอดีคำ สูตรนี้ใช้น้ำตาลทั้งสองชนิดอย่างน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกและนุ่มใน เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ข้าวโอ๊ตและช็อกโกแลตชิพเข้าไปด้วยเวลากัดแต่ละคำเต็มไปด้วยรสชาติที่อัดแน่นแบบสุดๆ

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

บิสคอตติ (biscotti) ขนมเป็นแท่งๆ มีส่วนผสมเป็นอัลมอนด์ แป้ง ไข่ และผลไม้แห้ง อบให้แห้งทั้งก้อนใหญ่ๆ แล้วนำมาสไลซ์เป็นชิ้น และอบให้กรอบอีกที Biscotti สูตรนี้ใส่แครนเบอร์รี แอปริคอต ผิวส้ม และถั่วพิสตาชิโอ ลงไปในเนื้อบิสคอตติด้วย มักนิยมกินคู่กับกาแฟหรือชาร้อนๆ ถือเป็นของว่างยามสายและบ่ายได้เป็นอย่างดี

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง ของหวานฉบับนี้ขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน

เฟรนช์โทสต์ หรือขนมปังชุบไข่ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี เหมาะเป็นของว่างยามบ่าย กินคู่กับน้ำชาหรือกาแฟ เด็กน้อยก็กินคู่กับนมสด เพิ่มคุณค่าทางอาหารได้เป็นอย่างดี วิธีทำง่ายมาก เพียงมีขนมปังที่เราชอบ นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก ใส่ลงในถาดอบที่เราต้องการ โรยผลไม้แห้งหรือถั่วตามชอบ ราดด้วยนม ไข่ เนย น้ำตาลและผงซินนามอน พักไว้สักครู่เพื่อให้ขนมปังดูดของเหลวได้เต็มที่ แล้วนำเข้าอบจนกรอบเหลืองยกออกมากลิ่นหอมยั่วใจ

คุกกี้ถือเป็นขนมอบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวาน หอม ชิ้นเล็กพอดีคำ สูตรนี้ใช้น้ำตาลทั้งสองชนิดอย่างน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกและนุ่มใน เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ข้าวโอ๊ตและช็อกโกแลตชิพเข้าไปด้วยเวลากัดแต่ละคำเต็มไปด้วยรสชาติที่อัดแน่นแบบสุดๆ

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

บิสคอตติ (biscotti) ขนมเป็นแท่งๆ มีส่วนผสมเป็นอัลมอนด์ แป้ง ไข่ และผลไม้แห้ง อบให้แห้งทั้งก้อนใหญ่ๆ แล้วนำมาสไลซ์เป็นชิ้น และอบให้กรอบอีกที Biscotti สูตรนี้ใส่แครนเบอร์รี แอปริคอต ผิวส้ม และถั่วพิสตาชิโอ ลงไปในเนื้อบิสคอตติด้วย มักนิยมกินคู่กับกาแฟหรือชาร้อนๆ ถือเป็นของว่างยามสายและบ่ายได้เป็นอย่างดี

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง ของหวานฉบับนี้ขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน

เฟรนช์โทสต์ หรือขนมปังชุบไข่ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี เหมาะเป็นของว่างยามบ่าย กินคู่กับน้ำชาหรือกาแฟ เด็กน้อยก็กินคู่กับนมสด เพิ่มคุณค่าทางอาหารได้เป็นอย่างดี วิธีทำง่ายมาก เพียงมีขนมปังที่เราชอบ นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก ใส่ลงในถาดอบที่เราต้องการ โรยผลไม้แห้งหรือถั่วตามชอบ ราดด้วยนม ไข่ เนย น้ำตาลและผงซินนามอน พักไว้สักครู่เพื่อให้ขนมปังดูดของเหลวได้เต็มที่ แล้วนำเข้าอบจนกรอบเหลืองยกออกมากลิ่นหอมยั่วใจ

คุกกี้ถือเป็นขนมอบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวาน หอม ชิ้นเล็กพอดีคำ สูตรนี้ใช้น้ำตาลทั้งสองชนิดอย่างน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกและนุ่มใน เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ข้าวโอ๊ตและช็อกโกแลตชิพเข้าไปด้วยเวลากัดแต่ละคำเต็มไปด้วยรสชาติที่อัดแน่นแบบสุดๆ

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

บิสคอตติ (biscotti) ขนมเป็นแท่งๆ มีส่วนผสมเป็นอัลมอนด์ แป้ง ไข่ และผลไม้แห้ง อบให้แห้งทั้งก้อนใหญ่ๆ แล้วนำมาสไลซ์เป็นชิ้น และอบให้กรอบอีกที Biscotti สูตรนี้ใส่แครนเบอร์รี แอปริคอต ผิวส้ม และถั่วพิสตาชิโอ ลงไปในเนื้อบิสคอตติด้วย มักนิยมกินคู่กับกาแฟหรือชาร้อนๆ ถือเป็นของว่างยามสายและบ่ายได้เป็นอย่างดี

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง ของหวานฉบับนี้ขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
Recommended Videos