เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
2
'อินทนิล' มาจากชื่อไม้ยืนต้นมีดอกเป็นช่อสีม่วงสด หรือม่วงอมชมพูสวยงาม โดยสูตรนี้เราได้ใช้ใบเตยเพื่อความอร่อยและหาง่ายมาแจกเพื่อนๆกันค่ะ
INGREDIENTS
น้ำ
2 ถ้วย
ใบเตยหั่นท่อนเล็ก
60 กรัม
แป้งมันสำปะหลัง
100 กรัม
น้ำตาลทราย
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อมะพร้าวอ่อน
1/2 ถ้วย
หัวกะทิ
1 ถ้วย
น้ำมะพร้าว
1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1/4 ช้อนชา
ใบเตยมัดปม
2 ใบ
อุปกรณ์ เครื่องปั่น ผ้าขาวบาง กระทะทองเหลือง ไม้พาย เทียนอบ ถ้วยสำหรับตั้งเทียนอบ ถุงบีบ และกรรไกร
METHOD
- เทน้ำและใบเตยลงในโถปั่น ปิดฝา ปั่นให้ใบเตยละเอียดและน้ำมีสีเขียวเข้ม เตรียมกระชอนโดยวางผ้าข้าวบางบนกระชอน เทส่วนผสมใบเตยผ่านผ้าข้าวบางใส่อ่างผสม เตรียมไว้
- เทน้ำใบเตยลงในอ่างแป้งมันสำปะหลัง คนให้เข้ากัน กรองส่วนผสมผ่านตะแกรงลงในกระทะทองเหลือง ใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ยกกระทะขึ้นตั้งบนไฟอ่อน ใช้ไม้พายกวนแป้งไปเรื่อยๆจนเเป้งสุกข้น ลักษณะแป้งจะใสและข้น เทใส่ชามพักไว้ให้เย็นสนิท
- ทำกะทิอบควันเทียนโดยใส่หัวกะทิ น้ำมะพร้าว น้ำตาล เกลือสมุทร และใบเตยมัดปมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง คนจนน้ำตาลละลายดี รอให้กะทิเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้ให้หายร้อน เอาใบเตยออก
- อบควันเทียนกะทิโดยจุดเทียนอบที่อยู่ในถ้วย รอให้ไส้เทียนละลาย รีบเป่าให้เทียนดับ แล้ววางถ้วยเทียนอบลงในหม้อ ปิดฝาหม้อทันที อบควันเทียนทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- จัดเสิร์ฟโดยตักกะทิใส่ถ้วย ใช้ช้อนเล็กจุ่มน้ำหมาดๆตักแป้งที่กวนไว้เป็นคำเล็กๆลงในน้ำกะทิ หรือใส่ส่วนผสมลงในถุงบีบ บีบส่วนผสมให้เป็นคำเล็กๆ ใช้กรรไกรตัดทีละชิ้น ตักเนื้อมะพร้าวอ่อนใส่ตามชอบ
Gallery
Recommended Articles
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
แก่นตะวัน หรือ แห้วบัวตอง เป็นพืชสมุนไพรไทย มีสารสำคัญคือ อินนูลิน (Inulin) มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกให้กับเเบคทีเรียที่ดีในร่างกาย มีเส้นใยสูงช่วยให้อิ่มนาน ช่วยเรื่องการขับถ่าย โดยสูตรนี้นำแก่นตะวันมาต้มกับน้ำใบเตย ให้ออกรสหวานอ่อนๆหอมกลิ่นใบเตย กินร้อนๆ เป็นของว่างกินเพลินที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
แก่นตะวัน หรือ แห้วบัวตอง เป็นพืชสมุนไพรไทย มีสารสำคัญคือ อินนูลิน (Inulin) มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกให้กับเเบคทีเรียที่ดีในร่างกาย มีเส้นใยสูงช่วยให้อิ่มนาน ช่วยเรื่องการขับถ่าย โดยสูตรนี้นำแก่นตะวันมาต้มกับน้ำใบเตย ให้ออกรสหวานอ่อนๆหอมกลิ่นใบเตย กินร้อนๆ เป็นของว่างกินเพลินที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
แก่นตะวัน หรือ แห้วบัวตอง เป็นพืชสมุนไพรไทย มีสารสำคัญคือ อินนูลิน (Inulin) มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกให้กับเเบคทีเรียที่ดีในร่างกาย มีเส้นใยสูงช่วยให้อิ่มนาน ช่วยเรื่องการขับถ่าย โดยสูตรนี้นำแก่นตะวันมาต้มกับน้ำใบเตย ให้ออกรสหวานอ่อนๆหอมกลิ่นใบเตย กินร้อนๆ เป็นของว่างกินเพลินที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ข้าวเหนียวมูนเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนาน ด้วยความนุ่มละมุนของข้าวบวกกับความหอมหวานเค็มมันของกะทิที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์มัดใจคนที่ได้ลิ้มลอง นิยมกินคู่กับผลไม้รสหวานอย่างมะม่วง ทุเรียนและขนุนหรือทำเป็นข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เช่น หน้าสังขยา หน้ากระฉีก สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดมูนข้าวเหนียวหรือคนที่เคยมูนข้าวเหนียวแล้วไม่สำเร็จอาจมองว่าการมูนข้าวเหนียวเป็นเรื่องยาก ซึ่งจริงๆขั้นตอนไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ต้องรู้และเข้าใจการเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง
คนเมืองส่วนใหญ่เรียกกันสั้นๆว่า "เข้าต้ม" ถ้าใส่กล้วยน้ำว่าสุก "เข้าต้มกล้วย ถ้าใส่ถั่วลิส่งเรียก "เข้าต้มถั่วดิน"และถ้าโรยมะพร้าวขูดจะเรียก "เข้าต้มหัวหงอก" หรือที่รู้จักกันทั่วๆไปว่า ข้าวต้มหัวหงอก นั่นเอง นิยมทำทีละเยอะๆ หลายๆอันแล้วต้มพร้อมกันทีเดียวเพราะว่าใช้เวลาในการต้มนาน
Recommended Videos