เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

พันนาคอตตาซอสราสป์เบอร์รี

Recipe by ณัฐณิชา ทวีมาก

Serves

4 คน

Level

2

ของหวานสำหรับชาวตีโต อย่างพันนาคอตตาเนื้อนุ่มหอมมันละลายในปาก ราดด้วยซอสราสป์เบอร์รี่รสเปรี้ยวอมหวานที่ใช้ความหวานจากน้ำตาลอิริทริทอล สารให้ความหวานแทนน้ำตาล พลังงานต่ำ ไม่มีผลต่อน้ำตาลในเลือดอีกด้วย เพิ่มความกรุบกรอบเคี้ยวมันด้วยถั่ววอลนัทบด เป็นเมนูของหวานที่ชาวตีโตกินได้ไม่ต้องอดอีกต่อไป

INGREDIENTS

เจลาตินชนิดแผ่น (แผ่นละ 2 กรัม)

2 แผ่น

วิปปิ้งครีม

1 ถ้วย

น้ำ

¼ ถ้วย

กลิ่นวานิลลา

1½ ช้อนชา

วอลนัทอบ

½ ถ้วย

เนยสดชนิดจืดละลาย

1 ช้อนชา

ถ้วยขนาดเล็ก 4 ถ้วยสำหรับจัดเสิร์ฟ

ราสป์เบอร์รี และใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

METHOD

1. ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลางพอเดือด ใส่วิปปิ้งครีมในอ่างผสม ยกขึ้นตั้งบนหม้อ อุ่นวิปปิ้งครีมให้พอร้อน ยกลง ใส่เจลาตินแผ่น และ Vanilla extract คนให้เจลาตินละลาย เทส่วนผสมลงในถ้วยเล็กจนเต็ม นำไปแช่เย็นให้เซ็ทตัวประมาณ 3 ชั่วโมง หรือ ข้ามคืน

 

2. ทำซอสราสป์เบอร์รีโดยใส่ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง น้ำ และน้ำตาลอิริทริทอลลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมซอสเป็นเนื้อเดียวกันและข้นขึ้นเล็กน้อย ใส่น้ำเลมอนและผิวเลมอนคนให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลง นำไปปั่นจนเนื้อเนียน แช่เย็นพักไว้

 

3. ปั่นวอลนัทอบและเนยละลายรวมกันในโถปั่นของแห้งให้พอหยาบ ตักออก พักไว้

 

4. จัดเสิร์ฟโดย แช่ถ้วยพันนาคอตตาในถาดน้ำอุ่น ใช้มีดปลายแหลมแซะรอบๆตัวขนม เคาะพันนาคอตตาออกจากถ้วยลงในจานเสิร์ฟ ตักถั่ววอลนัทที่ปั่นวางไว้ด้านข้าง ราดด้วยซอสราสป์เบอร์รี  ตกแต่งด้วยราสป์เบอร์รีและใบสะระแหน่

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

อาหารคีโตเจนิก อร่อยสะใจไม่จำเจ

Share this content

Tags:

keto, ของหวานฝรั่ง, น้ำตาลอิริทริทอล, พันนาคอตตา, ราสป์เบอร์รี, วอลนัท, วิปปิ้งครีม, อาหารฝรั่ง, เจลลาตินแผ่น, เมนูคีโต, แช่เย็น

Recommended Articles

Recipeวาฟเฟิลพาร์มีซานกับไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์
วาฟเฟิลพาร์มีซานกับไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์

เมนูอาหารเช้าที่ทั้งอร่อยและถูกใจเด็กๆเป็นนัก ทั้งตัวแป้งวาฟเฟิลที่กรอบนอกนุ่มใน นำมาทำเป็นคล้ายกับแซนด์วิช ไส้ด้านในเป็นไก่ทอดผักสลัด มะเขือเทศสดๆ ราดด้วยเมเปิลไซรัปเข้ากันดีเป็นที่สุดกับไก่ทอดและวาฟเฟิล

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recipeลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ
ลิงกุยเน่หอยตลับซอสมะเขือเทศ

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

 

Recommended Videos