เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
12 ชิ้น
Level
4
สับปะรดเป็นผลไม้เมืองร้อนจึงหาง่ายและราคาถูก มีหลากหลายพันธุ์ เช่น สับปะรดภูเก็ต นางแล ปัตตาเวียหรือที่เรียกว่าสับปะรดศรีราชา ฯลฯ สับปะรดภูเก็ตเมื่อแก่จัดเปลือกจะเป็นสีส้ม เนื้อสับปะรดสีเหลืองเข้ม กรอบ รสหวาน กลิ่นหอม สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีน้ำมาก เมื่อปอกเปลือกแล้วเก็บได้ไม่นาน จึงนิยมนำมาเชื่อมเพื่อให้เก็บได้นานขึ้น ส่วนน้ำสับปะรดนำมาทำเป็นไส้คัสตาร์ด
INGREDIENTS
สับปะรดภูเก็ต
400 กรัม
น้ำ
100 กรัม
น้ำตาลทราย
300 กรัม
แป้งเค้ก
145 กรัม
ผงฟู
1 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่แยกไข่แดงไข่ขาว
5 ฟอง
น้ำตาลทราย
50+60 กรัม
น้ำมันถั่วเหลือง
70 กรัม
น้ำ
70 กรัม
ครีมออฟทาร์ทาร์
1/2 ช้อนชา
อุปกรณ์จำเป็น: ถาดอบสี่เหลี่ยมขนาด 12x14 นิ้ว
น้ำตาลทราย
80 กรัม
ไข่ไก่ (ฟองละ 60-65 กรัม)
2 ฟอง
น้ำสับปะรด
180 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์
40 กรัม
วิปปิ้งครีม
130 กรัม
METHOD
1. ทำสับปะรดเชื่อมโดยหั่นเนื้อสับปะรด 100 กรัม เป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 1 ซม. ใส่น้ำและน้ำตาลทรายลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนน้ำตาลละลายและน้ำเชื่อมข้น ใส่สับปะรดที่หั่นไว้ลงเชื่อมจนใส ตักเนื้อสับปะรดขึ้นสะเด็ดน้ำเชื่อม พักไว้ หั่นเนื้อสับปะรดที่เหลือเป็นชิ้นหยาบๆ แล้วนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นมือจนเนียน กรองเอาแต่น้ำสับปะรด พักไว้
2. ทำเค้กโรลโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และปูถาดอบด้วยกระดาษไขเตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือป่น ลงในอ่างผสม พักไว้ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย 50 กรัม ด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนข้นฟูใส่น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำ ตีต่อประมาณ 5 นาที จนเข้ากันดี ลดความเร็วลง ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตีพอเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
3. ตีไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ด้วยเครื่องตีเค้กหัวตีตะกร้อความเร็วปานกลางจนเป็นฟองหยาบ ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียดมันวาว และตั้งยอดแข็ง
4. ตักแบ่งส่วนผสมไข่ขาวทีละครึ่งใส่ในส่วนผสมแป้งข้อ 2 ตะล่อมเบาๆจนเข้ากันดี เทเนื้อเค้กใส่ลงในถาดอบที่เตรียมไว้ เกลี่ยด้วยสเปตตูล่าจนเรียบ ใช้ไม้ปลายแหลมลากพอทั่วถาดเพื่อไล่ฟองอากาศ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15 นาที จนเค้กสุก นำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำเนื้อเค้กลงบนตะแกรงที่รองด้วยผ้ขาวบาง ลอกกระดาษไขออกม้วนเนื้อเค้กตามด้านยาวทันที พักเค้กไว้ในม้วนผ้าขาวบางจนเย็นสนิท
5. ทำคัสตาร์ดสับปะรดโดยใส่น้ำตาล ไข่ไก่ น้ำสับปะรด และแป้งสาลี ลงในอ่างผสม ยกขึ้นตีด้วยตะกร้อบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆจนคัสตาร์ดข้นขึ้น ยกลงเทใส่อ่างผสม ปิดด้วยพลาสติกแร็ปจนเย็นสนิท ตีวิปปิ้งครีมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนข้นฟู ทดสอบโดยยกตะกร้อแล้ววิปปิ้งครีมเป็นลายเส้นตะกร้อใส่วิปปิ้งครีมลงในคัสตาร์ดสับปะรด ตะล่อมเบาๆด้วยพายยางจนเข้ากันดี
6. คลี่เนื้อเค้กออก ปาดคัสตาร์ดสับปะรดให้ทั่วแผ่นเค้ก โดยเว้นระยะ 1 นิ้ว จากขอบซ้ายขวา โรยสับปะรดเชื่อมให้ทั่ว ประคองผ้าขาวบางแล้วม้วนเค้กโรลกลับตามเดิม พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 1 ชั่วโมง ตัดเป็นชิ้นกว้าง 1 นิ้ว เสิร์ฟ
อ่านบทความเพ่ิมเติม
Tags:
ครีมสับปะรด, ครีมโรล, น้ำสับปะรด, วิปปิ้งครีม, สับปะรดเชื่อม, เค้ก, เค้กโรล, แป้งเค้ก, โรลผลไม้, ไข่ไก่
Recommended Articles

สูตรเค้กช็อกโกแลต Once upon a time สูตรนี้เป็นที่คุณนนท์ หรือ คุณ ประภากมล หุ่นใย เจ้าของร้านเค้ก Café au chum และเจ้าของคอลัมน์ขนมไทยจงเจริญแห่ง KRUA.CO คิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนทำเค้กช็อกโกแลตที่มักประสบปัญาการละลายช็อกโกแลตและเพื่อช่วยลดต้นทุนเค้กช็อกโกแลตโดยใช้ผงโกโก้แทนและยังคงฉ่ำนุ่มเหมือนช็อกโกแลตอยู่ คุณนนท์จึงส่งต่อสูตรให้ทีมครัวเผยแพร่ แถมด้วยซอสช็อกโกแลตสูตรนี้ไว้กินคู่กัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

สูตรเค้กช็อกโกแลต Once upon a time สูตรนี้เป็นที่คุณนนท์ หรือ คุณ ประภากมล หุ่นใย เจ้าของร้านเค้ก Café au chum และเจ้าของคอลัมน์ขนมไทยจงเจริญแห่ง KRUA.CO คิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนทำเค้กช็อกโกแลตที่มักประสบปัญาการละลายช็อกโกแลตและเพื่อช่วยลดต้นทุนเค้กช็อกโกแลตโดยใช้ผงโกโก้แทนและยังคงฉ่ำนุ่มเหมือนช็อกโกแลตอยู่ คุณนนท์จึงส่งต่อสูตรให้ทีมครัวเผยแพร่ แถมด้วยซอสช็อกโกแลตสูตรนี้ไว้กินคู่กัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

สูตรเค้กช็อกโกแลต Once upon a time สูตรนี้เป็นที่คุณนนท์ หรือ คุณ ประภากมล หุ่นใย เจ้าของร้านเค้ก Café au chum และเจ้าของคอลัมน์ขนมไทยจงเจริญแห่ง KRUA.CO คิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนทำเค้กช็อกโกแลตที่มักประสบปัญาการละลายช็อกโกแลตและเพื่อช่วยลดต้นทุนเค้กช็อกโกแลตโดยใช้ผงโกโก้แทนและยังคงฉ่ำนุ่มเหมือนช็อกโกแลตอยู่ คุณนนท์จึงส่งต่อสูตรให้ทีมครัวเผยแพร่ แถมด้วยซอสช็อกโกแลตสูตรนี้ไว้กินคู่กัน

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว
Recommended Videos