เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4 คน
Level
3
เมนูเบาๆเเต่ได้ประโยชน์เยอะ จะกินในวันสบายๆในมื้อเช้าหรือมื้อเย็นก็ได้ สามารถเลือกผักเองตามใจชอบ ราดด้วยน้ำสลัดน้ำใสที่ใช้น้ำลูกเดือย เเละน้ำเต้าหู้มาตีกับน้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายไม่ฟอกเเละน้ำมันมะกอกปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
INGREDIENTS
ผักสลัดชนิดต่างๆ แครอทขูดเส้น อะโวคาโด และมะเขือเทศหั่นชิ้น กรูตอง พริกไทยดำบดปริมาณเล็กน้อยสำหรับโรย
น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอก
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูกลั่น 5% หรือน้ำส้มสายชูบัลซามิก
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
น้ำลูกเดือย
½ ถ้วย
น้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้)
¼ ถ้วย
น้ำมันมะกอก
½ ถ้วย
ลูกเดือยแห้ง
350 กรัม
น้ำ
6 ถ้วย
ถั่วเหลืองแห้ง
400 กรัม
น้ำ
8 ถ้วย
METHOD
1. ทำน้ำลูกเดือยโดยล้างลูกเดือยด้วยน้ำเกลือเจือจาง แล้วล้างด้วยน้ำจนสะอาดจากนั้นแช่ลูกเดือยในอ่างให้น้ำท่วมพร้อมกับใส่ถ่านหุงต้ม 1 ก้อนเล็กลงไป ถ่านจะช่วยดูดกลิ่นและลดสารจากการเพาะปลูก แช่นาน 1 คืน รุ่งเช้าเอาก้อนถ่านออกและเทน้ำทิ้งแล้วล้างน้ำจนสะอาด นำลูกเดือยที่แช่ใส่ลงในโถปั่น ใส่น้ำ 4 ถ้วย ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด จึงใส่น้ำที่เหลือ ปั่นต่อจนละเอียดเข้ากันดี กรองด้วยกระชอนเอาแต่น้ำ
2. ทำน้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) โดยล้างถั่วเหลืองด้วยน้ำเกลือเจือจาง แล้วล้างด้วยน้ำจนสะอาด จากนั้นแช่ถั่วเหลืองในอ่างให้น้ำท่วมพร้อมกับใส่ถ่านหุงต้ม 1 ก้อนเล็กลงไป ถ่านจะช่วยดูดกลิ่นและช่วยลดสารเคมีจากยาฆ่าแมลง แช่นานประมาณ 6 ชั่วโมง หรือนาน 1 คืน รุ่งเช้าเอาถ่านออกและเทน้ำทิ้ง แล้วบี้เปลือกที่หุ้มเมล็ดออกให้หมด ล้างน้ำ จนสะอาดนำถั่วเหลืองที่แช่ใส่ลงในโถปั่น ใส่น้ำ 6 ถ้วย ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด จึงใส่น้ำที่เหลือปั่นต่อจนละเอียดเข้ากันดี กรองด้วยกระชอนเอาแต่น้ำ
3. ทำน้ำสลัดครีมน้ำลูกเดือยโดยผสมน้ำตาล น้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู และเกลือ เข้าด้วยกันในถ้วยจนน้ำตาลละลาย พักไว้ ใส่น้ำลูกเดือย และน้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) ลงในโถปั่น แล้วค่อยๆรินน้ำมันมะกอกใส่พร้อมกับปั่นจนเข้ากันดี สลับกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูที่ผสมไว้ทีละน้อย (ขณะที่ใส่น้ำมันน้ำสลัดจะมีลักษณะข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อใส่น้ำส้มสายชูที่ผสม น้ำสลัดก็จะเหลว ดังนั้นควรใส่น้ำส้มสายชูทีละน้อย แล้วจบด้วยการใส่น้ำมัน) ปั่นให้เข้ากนั จนหมด ชิมรสให้เปรี้ยวหวาน เค็มเล็กน้อย น้ำสลัดมีลักษณะข้นขาวฟูนุ่มลิ้น
4. จัดผักสลัดชนิดต่างๆ แครอทขูดเส้น อะโวคาโดและมะเขือเทศหั่นชิ้น ใส่จาน โรยกรูตองและพริกไทยดำบดเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดครีมน้ำลูกเดือย
อ่านบทคามเพิ่มเติม
Tags:
ต้านโรค, ถั่วเหลือง, น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอก, น้ำส้มสายชู, น้ำสลัด, น้ำเต้าหู้, ปัน, มังสวิรัติ, ลูกเดือย, สลัด, เวสเทิร์น
Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน
Recommended Videos