เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
6 คน
Level
3
แกงป่าปลาทราย แกงป่าเผ็ดร้อน รสเด็ด เผ็ดถึงใจ ปลากรายสดๆ เนื้อเด้ง รสหวาน นุ่ม แกงกับพริกแกงใต้รสเผ็ดร้อน ปรุงรสต่างๆ เเละยังหอม เครื่องสมุนไพรต่างๆ
INGREDIENTS
ปลาทราย
500 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ดใต้สำเร็จรูป
1/3 ถ้วย
กะปิ
1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือกโขลกละเอียด
10 กลีบ
พริกขี้หนูสดโขลกละเอียด
10 เม็ด
น้ำ
4 ถ้วย
ไตปลา
3 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเปราะผ่าสี่
10 ลูก
พริกไทยอ่อนหั่นท่อนสั้น
5 ช่อ
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดฉีก
4 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีเขียวและแดงหั่นแฉลบ
2 เม็ด
ใบยี่หร่าหั่นหยาบ (80 กรัม)
2 ถ้วย
ผักเหนาะมี มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วฝักยาวใบบัวบก ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดสะเม็ก หน่อเหรียง สะตอ
METHOD
1. ขอดเกล็ดปลาทราย ตัดหัวและควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่น 2 ท่อนต่อ 1 ตัวใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ไม่ต้องรอให้กระทะร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดใต้ กะปิกระเทียมและพริกขี้หนูโขลก ผัดเร็วๆไม่ให้ไหม้ติดก้นกระทะจนน้ำพริกแกงหอม ใส่น้ำคนให้เข้ากัน เร่งเป็นไฟกลาง ต้มนานประมาณ5 นาที พอน้ำแกงเดือด ใส่ไตปลา คนให้ทั่วต้มต่อประมาณ 3 นาที พอน้ำแกงเดือดพล่านใส่ปลาทราย ปิดฝา ต้มนานประมาณ 7 นาที ห้ามคนจนกว่าเนื้อปลาจะสุก พอปลาทรายสุก ใส่มะเขือเปราะ กดให้จมน้ำแกง ต้มนานประมาณ 5 นาที พอมะเขือสุกมีสีคล้ำ ใส่พริกไทยอ่อน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และน้ำปลา ชิมรสให้ออกเค็มเผ็ด ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าและใบยี่หร่า กดให้จมน้ำแกง ลดเป็นไฟอ่อนเคี่ยวต่อประมาณ 5 นาที เพื่อให้กลิ่นและรสใบยี่หร่าออกมาในน้ำแกง ปิดไฟ ยกลง
3. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักเหนาะ
Tags:
กะทิ, กะปิ, น้ำตาล, น้ำปลา, ปลากราย, พริกแกงใต้, พริกไทยอ่อน, มะเขือเปราะ, อาหารใต้, ใบมะกรูด, ใบยี่หร่า
Recommended Articles

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
Recommended Videos