เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
5 ชิ้น
Level
4
“Panna Cotta” (ในภาษาอิตาลีหมายถึงครีมที่ถูกทำให้สุกแล้ว) มีต้นกำเนิดจากแคว้น “Piemonte” ทางตอนเหนือของอิตาลี แต่ดั้งเดิมตัวครีมพันนาคอตตาจะไม่ใส่น้ำตาล และจะรับประทานคู่กับน้ำผึ้ง ผลไม้จำพวกเบอร์รีต่างๆ และเฮเซลนัต สูตรนี้ปรับเนื้อของพันนาคอตตาให้มีลักษณะ “กึ่งมูสกึ่งเยลลี” ทำให้เนื้อพันนาคอตตาเบาขึ้น จึงเข้ากันได้ดีกับแป้งทาร์ตเนื้อกรอบร่วน
INGREDIENTS
เนยสดชนิดจืด
100 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
10 กรัม
เกลือป่น
2 กรัม
น้ำ
30 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน
165 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์วงกลมขนาด 3.5x1.5 นิ้ว จำนวน 5 พิมพ์
วิปปิ้งครีม
150+150 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
30 กรัม
เนยสดชนิดจืด
5 กรัม
เจลาตินชนิดแผ่น
8 กรัม
กลิ่นวานิลลา
3 กรัม
เหล้ารัม
10 กรัม
ราสป์เบอร์รีพูเร
100 กรัม
สตรอว์เบอร์รีพูเร
100 กรัม
ไวน์แดง
60 กรัม
น้ำตาลทรายขาว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
15 กรัม
เหล้ารัม
30 กรัม
เจลาตินชนิดแผ่น
4 กรัม
ราสป์เบอร์รี
20 ผล
แบล็กเบอร์รี
20 ผล
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15-20 นาที เตรียมไว้สำหรับอบแป้งทาร์ต แช่แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นประมาณ 10 นาที บีบน้ำให้แห้ง
2. ทำแป้งทาร์ตโดยใส่เนย น้ำตาล เกลือ และน้ำ ลงในหม้อหรืออ่างผสม ยกขึ้นตั้งบนไฟแรงคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ทิ้งไว้ให้เดือดประมาณ 5-10 นาที ยกลงจากเตา ใส่แป้งสาลีลงในหม้อหรืออ่างผสมขณะที่ส่วนผสมยังเดือดอยู่ ตะล่อมให้แป้งสาลีผสมเข้ากับส่วนผสมของเนยทันที พักไว้ให้เย็นตัว นำแป้งทาร์ตกรุลงในพิมพ์โดยใช้นิ้วหัวแม่มือช่วยกดแป้งให้เรียบสนิทกับพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มที่ฐานแป้งทาร์ตให้ทั่ว นำเข้าพักในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 20 นาที แล้วจึงนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 10-15 นาที นำออกจากเตาอบ พักไว้ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 20 นาที จึงเคาะออกจากพิมพ์
3. ทำพันนาคอตตาโดยต้มวิปปิ้งครีม 150 กรัม น้ำตาลและเนย ในหม้อด้วยไฟกลางพอให้เดือดเล็กน้อย ยกลงจากเตา ใส่เจลาตินที่แช่น้ำแล้ว กลิ่นวานิลลา และเหล้ารัม คนให้เข้ากัน กรองผ่านตะแกรงเพื่อไล่ฟองอากาศ พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
4. ทำซอสเบอร์รีโดยต้มราสป์เบอร์รีพูเร สตรอว์เบอร์รีพูเร และไวน์แดง ในหม้อด้วยไฟกลาง ทิ้งไว้ให้เดือดประมาณ 5 นาที ยกลงจากเตา ใส่น้ำตาล เหล้ารัมและเจลลาตินที่แช่น้ำแล้ว ลงในหม้อซอส คนให้เข้ากันพักไว้ให้เย็นตัว ตักซอสเบอร์รีใส่ในพิมพ์ทาร์ตให้ทั่วก้นพิมพ์ นำไปพักในตู้เย็นช่องธรรมดาให้ซอสอยู่ตัวเล็กน้อย
5. ตีวิปปิ้งครีม 150 กรัม ให้ตั้งยอด นำส่วนผสมของพันนาคอตตาที่พักไว้ในตู้เย็นมาตีให้ได้เนื้อเนียน ตัก วิปปิ้งครีมที่ตีจนตั้งยอดแล้วลงผสม ตะล่อมให้เข้ากันด้วยตะกร้อ บรรจุพันนาคอตตาลงในพิมพ์ทาร์ตให้เต็มพิมพ์ เรียงราสป์เบอร์รีและแบล็กเบอร์รีด้านบนทาร์ต ราดซอสเบอร์รีตรงกลาง นำเข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ให้พันนาคอตตาอยู่ตัว จัดเสิร์ฟพร้อมกับซอสเบอร์รี
สูตรอาหารโดย ภาสกร หลี
Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมหวานสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วงนี้ใครๆก็หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สูตรขนมหวานที่ทำง่ายแถมยังได้สุขภาพให้ได้ลองทำกันดู ส่วนฐานบาร์เหมือนแป้งพายร่วนๆ รสเค็มเล็กน้อย ส่วนแอปเปิลคาราเมลเลือกใช้แอปเปิลเขียวและแดงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวาน ด้านบนสุดเป็นครัมเบิลผสมข้าวโอ๊ตกรุบกรอบหวานกำลังดี รับรองว่าเป็นเมนูที่ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย

เค้กกาแฟคาราเมล ผสมผสานความขมของกาแฟและความหวานของคาราเมลอย่างลงตัว ใช้เนื้อเค้กเจนัวส์หรือสปอนจ์เค้ก เนื้อเค้กค่อนข้างแน่น เพิ่มกลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยเสริมรสชาติให้เนื้อเค้ก ครีมสดรสกาแฟที่แทรกระหว่างเนื้อเค้กทำให้เนื้อเค้กนุ่มละมุนลิ้นมากขึ้น ซอสคาราเมลหวานหอมกับครีมสดยิ่งเพิ่มความอร่อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นสักครู่ให้เนื้อครีมสดเซ็ตตัวก่อน ตัดเป็นชิ้นรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนยามบ่าย

คัสตาร์ดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น หอมตัวคาราเมลด้านบน หวานมันจากเนื้อคัสตาร์ดที่มีส่วนผสมของนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลและกลิ่นวานิลลา ขั้นตอนการทำต้องระวังเรื่องการทำคาราเมบนิดหน่อย หากไม่ระวังคาราเมลจะโดนมือได้ ส่วนตัวเนื้อคัสตาร์ดเพียงแค่ผสมสัดส่วนทุกอย่างให้เข้ากันยกเว้นไข่ไก่และน้ำตาลที่เหลือไว้ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางพอให้ส่วนผสมอุ่น ส่วนไข่ไก่กับน้ำตาลตีให้เข้ากัน พอไข่กับน้ำตาลเข้ากัน ถึงจะเทส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงในอ่างผสมไข่ไก่คนให้เข้ากันอีกครั้ง เคล็ดลับหากต้องการให้เนื้อคัสตาร์ดเนื้อเนียมนุ่มอร่อย กรองส่วนผสมก่อนจะเทใส่พิมพ์แล้วค่อยนำเข้าอบ ซึ่งขั้นตอนการอบให้นำอลูมิเนียมฟอยล์ปิดด้านบนก่อนนำเข้าจะทำให้เนื้อคัสตาร์ดค่อยๆสุกแล้วจะทำให้เนื้อที่ได้เนียนนุ่มอีกด้วย

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

ช่วงเทศกาลแบบนี้ใครๆก็มองหาขนมสำหรับทำแจกให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหายกันอยู่ใช่หรือเปล่า ลองเอาสูตรนี้ไปลองทำกันดูรับประกันได้ว่า คนรับติดใจเป็นแน่อย่าง "บิสกิตอัลมอนด์" คุกกี้เนยกรอบหอมกลิ่นเนยและอัลมอนด์ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก แถมสูตรนึงทำออกมาก็ได้ปริมาณเยอะมากอีกด้วย
Recommended Videos