Serves
2 คน
Level
2
ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย
INGREDIENTS
ถั่วแขกหั่นแฉลบ
3 ฝัก
มะเขือเทศเชอร์รีหั่นครึ่ง
12 ลูก
หอมแดงสับละเอียด
2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
พาร์สเลย์สับละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้งสับหยาบ
2 เม็ด
น้ำเลมอน
2 ช้อนชา
เกลือสมุทร
1/2 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น
1/8 ช้อนชา
น้ำผึ้ง
1 ช้อนชา
ไวน์ขาว
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก
2 ช้อนโต๊ะ
Dilmah Tea Ceylon Supreme (แกะถุงเอาแต่ใบชา)
1 ซอง
ปลากะพงทะเลฟิลเลย์ (150-200 กรัม)
2 ชิ้น
เกลือสมุทร พริกไทยดำและน้ำมันมะกอก
พาร์สเลย์และเลมอนหั่นเสี้ยวสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ ถาดอบ กระดาษไข
METHOD
- ปรุงรสเครื่องหมักโดยใส่ถั่วแขก มะเขือเทศเชอร์รี หอมแดง และกระเทียม จากนั้นใส่พาร์สเลย์ และพริกขี้หนูแห้ง ปรุงรสด้วย น้ำเลมอน เกลือสมุทร พริกไทยดำ น้ำผึ้ง ไวน์ขาว น้ำมะกอก และ Dilmah Tea คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ซับเนื้อปลาให้แห้ง ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยและน้ำมันมะกอกให้ทั่วชิ้นปลา
- วางกระดาษไข นำชิ้นปลาวางบนกระดาษ เอาหนังปลาลงด้านล่าง ตักเครื่องหมักลงราดให้ทั่วชิ้นปลา ห่อกระดาษไขให้มิดชิด นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที จนเนื้อปลาสุกกำลังดี
- จัดเสิร์ฟโดยนำปลาออกจากกระดาษ จัดใส่จานเสิร์ฟ ราดน้ำหมักเล็กน้อย ตกแต่งด้วยพาร์สเลย์และเลมอนหั่นเสี้ยว
Recommended Articles
ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี
เมนูต้มปลากะพงผักกาดดองเสฉวนนั้น บอกเลยว่ากินแล้วคล่องคอ ด้วยรสชาติของน้ำซุปที่เผ็ดเปรี้ยวซดไปทีนั้นเรียกได้ว่าใครเป็นหวัดละก็สดชื่นขึ้นเป็นแน่ ความเปรี้ยวของเมนูนี้นั้นได้มาจาก 2 ส่วนคือตัวผักกาดดองและน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว และเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกหมาล่า เพิ่มความซี้ดซาดให้กับเมนูนี้ กินคู่กับเนื้อปลากะพงลวกหวานนุ่มลิ้น บอกเลยว่าผู้ใหญ่กินได้เด็กก็กินดีแน่นอน
“ชาสับปะรดแก้วมังกร” อันนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆเลยเพราะว่าหอม เปรี้ยวหวาน ลงตัวแบบสุดๆ ด้วยความที่เป็นสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในตัวทำให้ชาแก้วนี้โดดเด่นกว่าแก้วไหนๆ เพิ่มความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้งหรือถ้าหากใครสายสุขภาพอาจจะไม่ต้องเติมน้ำผึ้งลงไปก็ได้เช่นกัน แน่นำให้กินแบเย็นๆจะหอมหวานชื่นใจเป็นแน่
ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี
เมนูต้มปลากะพงผักกาดดองเสฉวนนั้น บอกเลยว่ากินแล้วคล่องคอ ด้วยรสชาติของน้ำซุปที่เผ็ดเปรี้ยวซดไปทีนั้นเรียกได้ว่าใครเป็นหวัดละก็สดชื่นขึ้นเป็นแน่ ความเปรี้ยวของเมนูนี้นั้นได้มาจาก 2 ส่วนคือตัวผักกาดดองและน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว และเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกหมาล่า เพิ่มความซี้ดซาดให้กับเมนูนี้ กินคู่กับเนื้อปลากะพงลวกหวานนุ่มลิ้น บอกเลยว่าผู้ใหญ่กินได้เด็กก็กินดีแน่นอน
“ชาสับปะรดแก้วมังกร” อันนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆเลยเพราะว่าหอม เปรี้ยวหวาน ลงตัวแบบสุดๆ ด้วยความที่เป็นสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในตัวทำให้ชาแก้วนี้โดดเด่นกว่าแก้วไหนๆ เพิ่มความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้งหรือถ้าหากใครสายสุขภาพอาจจะไม่ต้องเติมน้ำผึ้งลงไปก็ได้เช่นกัน แน่นำให้กินแบเย็นๆจะหอมหวานชื่นใจเป็นแน่
ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว
ความลงตัวของเค้กสูตรนี้คือเนื้อเค้กที่หอม นุ่มกำลังดี ตัดรสได้ดีกับตัวครีมชีส คาราเมล และถั่วฮาเซิลนัท ที่ทำให้เค้กตัวนี้มีความกลมกล่อมของรสชาติมากยิ่งขึ้น แนะนำกินคู่กับชาจายก็ได้เสริมรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือจะหาเครื่องดื่มแก้วโปรดมากินคู่ก็ไม่ว่าเช่นกัน แต่แนะนำเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ จะเข้ากันดีกว่าเครื่องดื่มเย็น
“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี
เมนูต้มปลากะพงผักกาดดองเสฉวนนั้น บอกเลยว่ากินแล้วคล่องคอ ด้วยรสชาติของน้ำซุปที่เผ็ดเปรี้ยวซดไปทีนั้นเรียกได้ว่าใครเป็นหวัดละก็สดชื่นขึ้นเป็นแน่ ความเปรี้ยวของเมนูนี้นั้นได้มาจาก 2 ส่วนคือตัวผักกาดดองและน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว และเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกหมาล่า เพิ่มความซี้ดซาดให้กับเมนูนี้ กินคู่กับเนื้อปลากะพงลวกหวานนุ่มลิ้น บอกเลยว่าผู้ใหญ่กินได้เด็กก็กินดีแน่นอน
“ชาสับปะรดแก้วมังกร” อันนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆเลยเพราะว่าหอม เปรี้ยวหวาน ลงตัวแบบสุดๆ ด้วยความที่เป็นสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในตัวทำให้ชาแก้วนี้โดดเด่นกว่าแก้วไหนๆ เพิ่มความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้งหรือถ้าหากใครสายสุขภาพอาจจะไม่ต้องเติมน้ำผึ้งลงไปก็ได้เช่นกัน แน่นำให้กินแบเย็นๆจะหอมหวานชื่นใจเป็นแน่
Recommended Videos