เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4-5 คน
Level
2
ของหวานจากการ์ตูนเรื่องเทเลทับบี้ เเพนเค้กหน้ายิ้มสีน้ำตาลรสโกโก้ สูตรนี้ใช้เเป้งแพนเค้กสำเร็จรูปเเล้วนำมาเพิ่มผงโกโก้เข้าไปเท่านั้น วิธีการทอดให้ทอดเหมือนเเพนเค้กปกติ เเล้วนำมาเจาะรูเป็นรูปหน้ายิ้ม หยอดแป้งเเพนเค้กที่ไม่ผสมผงโกโก้ลงไป นำลงทอดต่อในกระทะจนสุกสีสวย กินคู่กับทับบี้คัสตาร์ด
INGREDIENTS
แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป
250 กรัม
ผงโกโก้
10 กรัม
นมสดชนิดจืด
270 กรัม
ไข่ไก่
1½ ฟอง
แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป
50 กรัม
นมสดชนิดจืด
90 กรัม
ไข่ไก่
½ ฟอง
เนยสดชนิดจืดสำหรับทอดแพนเค้ก
อุปกรณ์ ขวดบีบ พิมพ์วงแหวนขนาด 2 ซม.
METHOD
1. ทำแป้งแพนเค้กโกโก้โดยร่อนแป้งแพนเค้กและผงโกโก้รวมกันในอ่างผสม ใส่นมและไข่ไก่ ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้
2. ทำแป้งแพนเค้กขาวโดยร่อนแป้งแพนเค้กลงในอ่างผสม ใส่นมและไข่ไก่ ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน เทใส่ขวดบีบ เตรียมไว้
3. ทำทับบี้โทสต์โดยตั้งกระทะบนไฟอ่อน ใส่เนยลงไปเล็กน้อย พอกระทะเริ่มร้อน ตักแป้งแพนเค้กโกโก้ประมาณ ½ ถ้วย ใส่ลงในกระทะ เมื่อเริ่มมีฟองอากาศให้พลิกด้าน ทอดจนสุกทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้น พักไว้ให้คลายร้อน จากนั้นใช้วงแหวนกดแพนเค้กให้เป็นรูปตาและใช้เป็นมีดตัดเป็นรูปปาก
4. วางแพนเค้กโกโก้กลับลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน บีบแป้งแพนเค้กขาวลงไปบริเวณตาและปากจนเต็ม รอสักครู่จึงพลิกด้านให้แป้งขาวสุกทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมทับบี้คัสตาร์ด
[keyword: เเพนเค้ก,เเพนเค้กโกโก้,ทับบี้โทสต์,แพนเค้กเทเลทับบี้]
Recommended Articles

หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ

หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ

หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน

มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น

ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ
Recommended Videos