เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

เค้กชาเย็น

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

2 ปอนด์

Level

4

ชิฟฟอนเค้กเนื้อเบานุ่มเข้มข้นหวานมันรสชาเย็นแบบไทย สอดไส้และราดหน้าด้วยครีมชาเย็นเนื้อคล้ายคัสตาร์ดหรือครีมสังขยา ได้กลิ่นหอมจากชา เนื้อสัมผัสของชิฟฟอนเมื่อกินแล้วจะนุ่มลิ้น เคล็ดลับสำคัญในการทำชิฟฟอนเค้กคือเค้กมีลักษณะเนื้อเค้กที่นุ่มเบา ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนผสมหลักแทนการใช้เนย วิธีการคือต้องแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน ไข่แดงนำมาผสมกับน้ำชา นม น้ำมันพืช น้ำตาลทราย แป้ง ผงฟู และเกลือ ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ลักษณะที่ดีต้องเนื้อเนียนและมันเงา ส่วนของไข่ขาว ไข่ขาวต้องไม่มีสิ่งเจือปน อ่างที่ใช้ตีควรเป็นอ่างสเตนเลสการตีไข่ขาวควรเติมครีมออฟทาร์ทาร์เล็กน้อยเพื่อให้ไข่ขาวที่ตีคงรูป ลำดับแรกควรตีให้เกิดฟองละเอียด จึงค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อย ตีจนโฟมของไข่ขาวที่เหลวข้นขึ้นเนื้อละเอียด และมีลักษณะมันเงาจนตั้งยอดระดับกลาง โดยทั่วไปการตีไข่ขาวให้ตั้งยอดจะมี 3 ระดับ คือ ยอดอ่อน กลาง และแข็ง ในการทำเค้กส่วนใหญ่จะตีไข่ขาวให้ได้ระดับกลางจนถึงตั้งยอดเกือบแข็งจะไม่หยุดที่ระดับอ่อน เพราะฟองอากาศยังน้อยและเนื้อหยาบอยู่ ซึ่งไม่สามารถทำให้เค้กขึ้นฟูได้ แต่ถ้าตีไข่ขาวตั้งยอดแข็ง เวลาตะล่อมกับส่วนผสมอื่นจะเข้ากันได้ยาก และทำให้เนื้อเค้กหยาบแข็งกระด้างไม่นุ่มนวล

INGREDIENTS

น้ำชา (น้ำร้อน 1/4 ถ้วย+ชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ)

50 กรัม

แป้งเค้ก

100 กรัม

ผงฟู

1/2 ช้อนชา

เกลือป่น

1/4 ช้อนชา

น้ำมันถั่วเหลือง

50 กรัม

นมข้นจืด

30 กรัม

ไข่แดงของไข่ไก่

3 ฟอง

น้ำตาลทราย

85 กรัม

ไข่ขาวของไข่ไก่

3 ฟอง

ครีมออฟทาร์ทาร์

1/2 ช้อนชา

เนยสดชนิดจืดสำหรับทาด้านในพิมพ์

อุปกรณ์จำเป็น: ถุงชงชาชนิดผ้า พิมพ์เค้กกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้วหรือขนาด 2 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์

METHOD

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เตรียมพิมพ์เค้กโดยทาเนยที่ด้านล่างของก้นพิมพ์ แล้วปูกระดาษไขให้เท่ากับก้นพิมพ์ พักไว้

 

2. เตรียมน้ำชาโดยนำชาไทยแช่ในน้ำร้อนจัดประมาณ 10 นาที กรองด้วยถุงชงชาเอาแต่น้ำชา พักไว้

 

3. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือป่น รวมกันสองรอบ พักไว้

 

4. ใส่น้ำชา น้ำมันถั่วเหลือง นมข้นจืด ไข่แดง และน้ำตาล 40 กรัม ในอ่างผสมตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ทีละน้อย คนตะล่อมด้วยตะกร้อให้เข้ากันทั่วจนหมดแป้ง ส่วนผสมจะมีลักษณะเนื้อเนียนไม่จับเป็นก้อนและขึ้นเงา

 

5. ตีไข่ขาวในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยความเร็วต่ำเพื่อให้โฟมของไข่ขาวคงรูป ตีจนเกิดฟองละเอียดเล็กๆ ค่อยๆใส่น้ำตาลที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเป็นเงา

 

6. ตักไข่ขาวครึ่งหนึ่งใส่อ่างผสมตะล่อมด้วยพายยางอย่างเบามือให้เข้ากันดีแล้วจึงใส่ไข่ขาวส่วนที่เหลือลงไป ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทส่วนผสมเค้กใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ เคาะพิมพ์ไล่อากาศ 1 ครั้ง หรือใช้ไม้แหลมคนเนื้อเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 20 นาที หรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้แหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเศษเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก หรือใช้นิ้วแตะ เค้กจะสปริงตัว นำออกจากเตาอบ ใช้สเปตตูล่าแซะโดยรอบเนื้อเค้ก และคว่ำเนื้อเค้กออกจากพิมพ์ทันที พักเค้กไว้บนตะแกรงจนหายร้อน

 

7. ทำหน้าครีมชาเย็นโดยแช่ชากับน้ำร้อนประมาณ 10 นาที กรองด้วยถุงกรองชาเอาแต่น้ำชา นำน้ำชา นมข้นจืด น้ำตาล ผงวุ้น ใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง คนให้ส่วนผสมเดือด ค่อยๆใส่วิปปิ้งครีมลงไป คนให้เข้ากัน แล้วผสมแป้งข้าวโพดกับนมสด คนให้เข้ากัน พอส่วนผสมเดือด ค่อยๆเทแป้งข้าวโพดที่ผสมไว้ลงเป็นสาย ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน คนจนส่วนผสมเริ่มข้นเดือด ยกออกจากเตา ใส่เนย คนให้เข้ากัน พักไว้

 

8. สไลซ์เค้กแบ่งตามแนวราบออกเป็น 2 แผ่นเท่าๆกัน ปาดครีมชาเย็นที่ทำไว้ให้หนาประมาณ 1 ซม. วางแผ่นเค้กอีกแผ่นด้านบน ประกบให้เสมอกัน กดเบาๆ

 

9. นำครีมชาเย็นปาดด้านข้างให้เรียบนำเข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อให้ครีมที่ปาดไว้แข็งตัวประมาณ 10 นาที นำออกจากตู้เย็น วางบนตะแกรงโดยมีถาดวางรองด้านล่าง นำครีมชาเย็นที่เหลือราดลงไปบนเนื้อเค้ก เคาะตะแกรงเบาๆให้ครีมคลุมหน้าเค้กและด้านข้าง ใช้สเปตตูล่าทำลวดลายด้านบนเค้ก

 

 

 

 

 

 

Gallery

Share this content

Tags:

ขนมหวานฝรั่ง, ขนมอบ, ของหวานฝรั่ง, ชาไทย, นมข้นจืด, น้ำตาล, ผงวุ้น, เค้ก, เค้กปอนด์, เบเกอร์รี, แป้งเค้ก, ไข่ไก่

Recommended Articles

Recipeเค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด
เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด

คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recommended Videos