เทคนิคหุงข้าวญี่ปุ่นให้เหนียวนุ่ม ไม่แฉะ พร้อม 3 สูตรโอนิกิริ ข้าวปั้นสไตล์ญี่ปุ่น
เป็นเรื่องน่าสนใจมากที่มีการบริโภค ‘ข้าวญี่ปุ่น’ มากขึ้นในประเทศไทย แล้วข้าวญี่ปุ่นนั้นมีดีอย่างไร? ถ้าพูดถึงประเทศที่รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก ก็คงหนีไม่พ้นประเทศที่อยู่ในโซนเอเชียแถบบ้านเรา ซึ่งประเทศไทยนับได้ว่าติดอันดับต้นๆ ของการบริโภคข้าวเป็นหลัก ด้วยวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา หรืออาจเป็นความอร่อยของข้าวไทยที่เข้ากันได้ดีกับรสชาติอาหารไทย ที่สำคัญคือข้าวยังมีประโยชน์นับไม่ถ้วน เช่นเดียวกัน ข้าวญี่ปุ่นที่อร่อยและเข้ากันได้ดีกับรสชาติวัตถุดิบ ก็ทำให้อาหารญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์ความอร่อยเฉพาะตัว ข้าวญี่ปุ่นจึงนับว่าเป็นข้าวที่มีความน่าสนใจไม่น้อย นำมาทำเมนูข้าวปั้นอย่าง Onigiri ได้อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ข้าวญี่ปุ่นนำไปทำอะไรก็อร่อยก็คือ ‘การหุงข้าว’
ชวนมาทำความรู้จักการหุงข้าวญี่ปุ่นให้มากขึ้น เพื่อในครั้งต่อๆ ไปการรับประทานข้าวญี่ปุ่นของทุกคนจะมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ข้าวญี่ปุ่นหุงยังไงให้อร่อย?
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากหุงข้าวญี่ปุ่นเสร็จ เปิดหม้อ แล้วพบว่าข้าวเละซะจนอีกนิดจะเรียกว่าข้าวต้มได้แล้ว แน่นอนว่าคำถามนี้มีคำตอบ เริ่มกันที่ข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ที่เราทดลองใช้คือพันธุ์ซาซานิชิกิ (Sasanishiki) มีความเหนียวนุ่ม หุงเสร็จแล้วกลิ่นหอมและรสชาติไม่จัด รับประทานกับเครื่องเคียงได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมในร้านซูชิและข้าวปั้นเนื่องจากเมล็ดข้าวมีความเหนียว นุ่ม ปั้นเป็นก้อนได้ดี สมัยก่อนข้าวพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมากและพบมากที่สุดในจังหวัดมิยางิ โดยวิธีหุงข้าวที่ดีที่สุดคือต้องดูที่พันธุ์ข้าวนั้นๆ และลองทำตามวิธีที่เขียนไว้ข้างถุงของข้าวญี่ปุ่นที่คุณซื้อมา เพราะข้าวญี่ปุ่นแต่ละพันธุ์ดูดน้ำมากน้อยต่างกัน ความใหม่หรือเก่าของเมล็ดข้าวก็มีผลเช่นเดียวกัน
วิธีการหุงข้าวญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาด 1.8 ลิตร คือ ตักข้าวญี่ปุ่น 2 ถ้วยใส่หม้อหุงข้าว เปิดน้ำใส่เบาๆ ใช้มือถูเมล็ดข้าวเข้าด้วยกันอย่างเบามือ รินน้ำออก ทำซ้ำอีก 3-4 รอบ หรือจนน้ำซาวข้าวใส ระวังอย่าให้เมล็ดข้าวหักร่วน พักข้าวในกระชอนอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้สะเด็ดน้ำ เทข้าวใส่หม้อหุงข้าว พร้อมกับน้ำ 2 2/3 ถ้วย หุงจนสุก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พอสุกใช้ทัพพีซุยข้าวให้ฟูน่ากิน และพักข้าวในหม้ออีก 10 นาที ข้าวที่หุงสุกใหม่ๆ จะหอมและเหนียวนุ่ม เมล็ดข้าวสวยงาม เหนียวเล็กน้อย เกาะตัวกันไม่ร่วน นิยมนำมาทำซูชิและข้าวปั้นต่างๆ ซึ่งไหนๆ ก็หุงข้าวกันแล้ว เราเลยมีสูตรข้าวปั้นหน้าต่างๆ แถมให้อิ่มอร่อยกันแบบเต็มที่ไปเลย
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรโอนิกิริแซลมอนเทอริยากิ
ความจริง Ongiri หรือ Rice ball เป็นอาหารคนละประเภทกับซูชิ แต่คล้ายกันตรงที่มีข้าวเป็นหลัก โอนิกิริหรือข้าวปั้นที่มีไส้ต่างๆ ทำไม่ยากเลย ด้านในคือ Comfort food ที่สำคัญของคนญี่ปุ่น ทำง่าย เสร็จเร็ว ไขมันต่ำ รสชาติอร่อย เหมาะสำหรับห่อไว้กินบนรถหรือช่วงพักเบรค ข้าวปั้นกับแซลมอนย่างเป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ แซลมอนย่างซอสเทอริยากิร้อนๆ นำมายีให้เป็นชิ้นๆ ผสมกับข้าวญี่ปุ่นหุงสุกร้อนๆ ต้นหอมซอย และงาดำคั่วหอมๆ คลุกเคล้าให้พอเข้ากัน จากนั้น นำมือจุ่มน้ำสะอาดเล็กน้อย ใช้มือปั้นข้าวเป็นก้อนสามเหลี่ยม ก้อนละประมาณ 120 – 150 กรัม ค่อยๆ ใช้มือกดข้าวปั้นเบาๆ ให้ได้ทรงที่ต้องการ ทำจนหมด แล้วใช้ใบโอบะหอมๆ ห่อข้าวปั้นไว้ เพราะใบโอบะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายผักแขยงบ้านเรา และยังช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อปลาอีกด้วย เสร็จแล้วจะได้ข้าวปั้นรสชาติเค็มอ่อนๆ หวานเล็กน้อย หอมกลิ่นใบโอบะและงาดำ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรโอนิกิริข้าวโพดอบเนย
โอนิกิริมีหลากหลายไส้ให้เลือก อีกทั้งแต่ละภูมิภาคในญี่ปุ่นยังมีตำรับที่นิยมต่างกัน อย่างที่บอกว่าโอนิกิริส่วนใหญ่มักจะใส่ไส้อะไรก็ได้ที่ผู้ทำอยากจะกิน ฉะนั้น ข้าวโพดก็นำมาทำโอนิกิริได้ เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ แน่นอน เพราะใช้ข้าวโพดต้มสุกหวานๆ มาผัดกับเนยให้พอหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วญี่ปุ่นนำไปผสมกับข้าวญี่ปุ่นหุงสุก เพิ่มสีสันและความหอมด้วยผงสาหร่ายป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใช้มือจุ่มน้ำสะอาดเล็กน้อย ปั้นข้าวปั้นเป็นสามเหลี่ยม ชิ้นละ 120 – 150 กรัม ใช้มือกดข้าวเบาๆ ให้สวยงาม จัดเสิร์ฟใส่จาน รสชาติหวานจากข้าวโพด เค็มอ่อนๆ จากซีอิ๊วญี่ปุ่น หอมกลิ่นเนยและผงสาหร่าย ถูกใจเด็กๆ แน่นอน
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรโอนิกิริมิโสะย่างชีส
มิโสะมีคุณประโยชน์มาก ส่วนประกอบทำจากข้าว ข้าวบาร์เลย์หรือถั่วเหลือง กับเกลือและราโคจิกิง มีลักษณะนิ่ม สีเหลืองอ่อนจนถึงสีน้ำตาลเข้ม รสเค็ม และมีกลิ่นคล้ายเนื้อ มีทั้งแบบบดหยาบและบดละเอียด แต่สูตรข้าวปั้นมิโสะของเรานั้นจะใช้แบบบดละเอียด เพราะจะนำมาทำซอสสำหรับทาข้าวปั้น โดยผสมมิโสะ ซีอิ๊วญี่ปุ่น มิริน สาเก และน้ำตาลทรายเล็กน้อยเพื่อตัดรส นำข้าวญี่ปุ่นที่หุงสุกแล้วปั้นเป็นก้อนสามเหลี่ยม ขนาด 120 – 150 กรัม โดยใส่มอสซาเรลลาชีสก้อนไว้ตรงกลางข้าวปั้น และใช้ข้าวปิดจนมิดชิด ทำจนหมด ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ใส่น้ำมัน นำข้าวปั้นลงย่างบนกระทะ ทาด้วยซอสมิโสะที่ผสมไว้ ทาลงบนข้าวบางๆ ให้ทั่วทั้งชิ้น ใช้เวลาย่างด้านละ 5 นาที เพียงให้มิโสะหอมและชีสละลาย จัดเสิร์ฟใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ รสชาติเค็มหวานอ่อนๆ จากซอสมิโสะทั้งยังอร่อยและสนุกกับชีสยืดๆ อีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos