ตามบิ๊ม กินแหลกไปตระเวนหาของอร่อยที่ซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในไทย กับ 14 ไอเทมเด็ดรสชาติญี่ปุ๊นญี่ปุ่น กินให้หายคิดถึงกันไปเลย
ตั้งแต่เชื้อไวรัสโคโรน่าแพร่ระบาดมาเราทุกคนต่างอดไปเที่ยวเพราะต้องเก็บตัวอยู่บ้านแต่ในใจทุกคนนั้นเว้าวอนและเฝ้ารอวันที่จะได้ออกเที่ยวอีกครั้งมั้ยล่ะ บิ๊มก็เป็นเหมือนกัน และประเทศที่คิดถึงที่สุดก็ต้องเป็นญี่ปุ่นแน่นอนอยู่แล้ว ยามนี้ก็เลยอยากเสนอวิธีแก้ขัดความคิดถึงให้เพื่อนๆ ด้วยการไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นในประเทศไทยไปก่อนเนอะ มีให้เลือกหลายแบรนด์ทั้งฟูจิ โตคิว หรือดองกี้ ของแต่ละอย่างที่บิ๊มเลือกเฟ้นมากินเข้าไปปุ๊บรับรองความญี่ปุ่นฟุ้งกระจายอบอวลทั้งในปากและความทรงจำ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง! (รีวิว by Bim กินแหลกล้างโลก)
1.เต้าหู้เคนจัง (โอโตโกะมาเอะ)
เต้าหู้สัญชาติญี่ปุ่นที่อยากให้สายเต้าหู้ทั้งหลายไปลอง เพราะเรารู้สึกว่ามันเข้มข้นสุดๆ และอร่อยมากจริงๆ ด้วยตัวเนื้อเต้าหู้ที่เนียนมากแถมยังมันและหอมกลิ่นถั่วสุดๆ กินสดกับซีอิ๊วขิงและปลาแห้งได้เลย หรือจะเอาไปต้มเป็นเมนูนาเบะ (หม้อไฟแบบญี่ปุ่น) ก็ได้ เอาเป็นว่าเป็นเต้าหู้ที่กินกับอะไรก็อร่อยจริงๆ ถ้าเดินผ่านเชลฟ์เต้าหู้แล้วเห็นอยากขอร้องให้ลองซื้อไปกินดูสักครั้งขอรับประกันความติดใจต้องวนรถกลับไปซื้อบ่อยๆ แบบบิ๊มแน่นอน อ้อ เต้าหู้มีสองขนาดนะ แบบเรียวรีแพค 3 ชิ้น กับแบบชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กแพค 6 ชิ้น
2. ชามูงิฉะหรือชาข้าวบาร์เลย์
เป็นชาที่บิ๊มเริ่มซื้อตามแม่บ้านญี่ปุ่น รสชาติเหมือนชาที่มักเสิร์ฟหลังกินอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแหละ หอมกลิ่นข้าวแต่รสชาค่อนข้างจืดเหมาะเอาไว้ล้างปาก ซึ่งตัวชานั้นถูกแพคในซองเล็กๆ โดยสามารถชงได้สะดวกสบายทั้งแบบร้อนและเย็น แถมวิธีการคือง่ายมาก นั่นคือถ้าอยากกินเย็นให้เอาถุงชาใส่ไว้ในขวดน้ำเปล่าและแช่เย็น สามารถทำทิ้งไว้ในตู้เย็นได้เลยเวลาอยากกินก็แค่หยิบออกมาเทกิน สะดวกง่ายสุดๆ วิธีนี้บิ๊มทำบ่อยมาก ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งขวดแช่อยู่ในตู้เย็นเสมอ แต่ถ้าใครอยากดื่มแบบร้อนก็แค่เอาถุงชาใส่ในแก้วน้ำหรือเหยือกน้ำร้อนทิ้งไว้จนชาออกรสชาติก็ดื่มได้เลย หนึ่งถุงชาชงกับน้ำประมาณ 1 ลิตรคุ้มค่าสุดๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่าชอบดื่มแบบเข้มหรือไม่เข้มปรับได้ตามใจฉันเลย และที่สำคัญคาเฟอีนฟรีจ้า! ดังนั้นดื่มตอนไหนก็นอนหลับได้สบาย
3. โชยุดาชิ
สิ่งนี้คือซีอิ๊วหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ‘โชยุ’ ซึ่งผสม ‘ดาชิ’ หรือซุปปลาลงไปด้วยจ้า กลมกล่อมและหอมกว่าโชยุธรรมดาเป็นไหนๆ เหมาะกับไข่ออนเซ็น ไข่ลวกมากๆ โชยุดาชิจะเพิ่มมิติทางรสชาติให้กับไข่ออนเซ็นทันที เพราะนอกจากความเค็มที่ไม่มากจนกลบรสชาติไข่แล้ว โชยุดาชิยังอมหวานนิดๆ ทำให้รสชาติทั้งมวลกลมกล่อมมากขึ้น แถมหอมซุปปลานวลๆ แค่เขียนก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ หรือจะเอาไปราดกินกับเต้าหู้เคนจังในข้อ 1 ก็ได้นะ ส่วนใครอยากเอาไปปรุงอาหาร เช่น ทำแกงหม้อใหญ่อันนี้บิ๊มไม่แนะนำค่ะ เพราะโชยุดาชิราคาค่อนข้างสูงและความเค็มไม่ได้จัดแบบซีอิ้วทั่วไป ใช้ปรุงอาหารที่มันเปลืองค่ะ รับรองว่าถ้าได้ลองกินสักครั้งทุกคนก็จะมีโชยุตัวนี้ติดตู้เย็นเหมือนบ้านบิ๊มแน่นอน
4. น้ำแอปเปิล
โดยส่วนตัวเป็นคนชอบดื่มพวกน้ำผลไม้โดยเฉพาะน้ำแอปเปิลดื่มที่ไรสดชื่นทุกที บิ๊มเลยชอบลองยี่ห้อใหม่ๆ ของญี่ปุ่นไปเรื่อยๆและพึ่งค้นพบว่า 2 ยี่ห้อนี้คือตัวเด็ด! เป็นน้ำแอปเปิลแท้ 100% ที่เรารู้สึกว่าหวานกำลังดี กำลังพอสดชื่นไม่แสบคอ ทั้งคู่มีกลิ่นหอมนวลของแอปเปิล แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกันคือขวดทางขวาหวานจัด เปรี้ยวจัด กลิ่นหอมน้อยกว่า ส่วนขวดทางซ้ายหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ กลิ่นหอมมากกว่า
5.น้ำดาชิ
สิ่งนี้เหมาะสำหรับสายอยากทำอาหารแต่แอบขี้เกียจแบบบิ๊มมาก คืออยากทำซุปแต่ก็ขี้เกียจเอากระดูกมาเคี่ยว ดังนั้นน้ำดาชิจะช่วยชีวิตคุณมาก บิ๊มตั้งชื่อให้มันว่าน้ำรสนัว คือตัวน้ำนี้จะออกรสเค็มนิดและอมหวานหน่อยๆ และหอมกลิ่นซุปปลา ใช้เป็นซุปพื้นฐานเอาไปทำอะไรก็อร่อย เช่นถ้าอยากทำซุปมิโสะก็ตั้งน้ำเปล่าใส่น้ำดาชิ (ไม่เยอะนะ บิ๊มใช้แค่ดาชิ 1 ส่วน ต่อน้ำ 6-7ส่วน) เสร็จแล้วก็ใส่มิโสะ ใส่เต้าหู้ ใส่สาหร่ายจบแล้วอร่อยมาก หรือถ้าอยากทำชาบูกินน้ำชาบูแบบใสก็ใส่แค่ดาชิกับสาหร่ายคอมบุก็อร่อยแล้ว แกงจืดไทยก็เหมือนกัน ใส่เข้าไปหน่อยรับรองหอมอร่อยขึ้นมาเลยนะ พูดเลยว่านางเหมือนเพื่อนช่วยยามยากใส่แล้วจะดูเหมือนทำอาหารเก่งขึ้นมาทันที อิอิ
6.เนื้อวัว
ข้อดีของซูเปอร์ฯ ญี่ปุ่นอีกอย่างคือ เนื้อถูกตัดแต่งเป็นชิ้นสวยงามมาแล้ว เอาไปทำอาหารญี่ปุ่นต่อได้อย่างง่ายดาย เช่นอยากกินชาบูก็มีเนื้อที่หั่นแบบในร้านชาบูพร้อมขาย แถมไม่ใช่แค่ตัดแต่งเหมือนในร้านนะ บิ๊มรู้สึกว่าปริมาณมันกับเนื้อมันช่างเรียงตัวอย่างสวยงามแบบคัดมาแล้วสุดๆ มีให้เลือกหลายเกรด คุณภาพดี แถมราคาสู้ไหวไม่โหดเกินไป เวลาที่บ้านจะทำเนื้อย่างหรือชาบูกินกัน บิ๊มจะบึ่งรถมาซื้อเนื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นเลย รู้มั้ย… ทำชาบูกินเองที่บ้านนั้นถูกและคุ้มกว่าไปกินตามร้านมากนะ ลองแล้วจะติดใจ
7. ลายุหรือพริกเผาญี่ปุ่น
อันนี้บิ๊มใช้สำหรับทำแตงกวาราดพริกแบบง่ายๆ เหมือนในร้านอิซากายะที่ญี่ปุ่น วิธีทำคือแช่แตงกวาให้เย็น นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ตัดได้ทั้งแบบยาวหรือแบบสั้นตามชอบ และถ้าใครชอบกรอบๆ แนะนำให้ใช้แตงกวาญี่ปุ่นค่ะ แต่ใครขี้เกียจไปซื้อก็เปิดตู้เย็นเอาแตงกวาไทยมาทำโลด จากนั้นใส่พริกเผาญี่ปุ่น เกลือนิดหน่อย และสาหร่ายคอมบุเค็มคลุกๆๆๆ จบ! 555 ง่ายมากและอร่อย กินเล่นและกินเป็นกับแกล้มได้สบ๊าย
8. โซเมงและซอสซึยุ
พูดถึงหน้าร้อนก็ต้องน้อง ‘โซเมงเย็น’ สิคะ เราชอบเส้นโซเมงยี่ห้อนี้เพราะมันหนึบดีแต่ๆๆๆ ห้ามต้มนานเด้อ ทำตามนี้นะ ต้มน้ำให้เดือดจากนั้นเอาเส้นโซเมงลงต้มจับเวลาแค่ 1 นาทีเท่านั้น จากนั้นนำขึ้นล้างน้ำเย็น พักไว้ แล้วเอาน้ำซอสซึยุในขวดเทลงถ้วยนิดเดียวนะ (เพราะมันเป็นแบบเข้มข้น 4 เท่า รสจัดมากจ้าแม่) แล้วผสมน้ำเย็นประมาณ 3-4 เท่า แค่นี้ก็ได้ซอสสำหรับโซเมงเย็นแล้ว โรยต้นหอมซอยกับวาซาบิลงไปนิดคือดีย์! ดับร้อน! เวลากินนำน้ำแข็งมารองเส้นโซเมงเพื่อเพิ่มความสดได้ อ้อ น้ำซอสซึยุตัวนี้ใช้ทำเป็นน้ำซอสโซบะเย็นก็ได้ หรือใช้ต้มกับน้ำร้อนทำพวกราเมงหรือโซบะร้อนก็ได้หมดนะ
9. มิโซะรสชาติต่างๆ (ยุซุโกะโชมิโซะ)
อันนี้เป็นมิโซะที่เอาไว้กินสดนะ ไม่ใช่ไว้ทำซุปมิโซะอย่าเอาไปใส่ผิดล่ะ ปกติบิ๊มเอาไว้ราดเต้าหู้สด เนื้อเป็นถั่วหมักเม็ดเล็กๆ หอมมันรสหมักออกหวานอมเค็ม รสจัดเวลากินกับอะไรก็ตามให้ป้ายลงไปนิดเดียว มีหลายกลิ่นให้เลือกสรร ที่บิ๊มเลือกมาคือรสยุซุโกะโชหอมส้มยุซุเวลากินกับเต้าหู้ จิ้มผัก หรือป้ายลงบนเนื้อย่างมันเพิ่มมิติให้รสชาติอาหารมาก ชอบมาก
10. น้ำซุปสำหรับทำชาบูหรือนาเบะ
ต้องบอกก่อนว่าน้ำซุปสำหรับทำนาเบะจะมีขายเป็นถุงใหญ่ซึ่งรสชาติเหมือนตามร้านในประเทศญี่ปุ่นมาก (หายคิดถึงแน่นอน) วิธีการใช้ง่ายมากแม่ แค่อุ่นให้ร้อนใส่เนื้อสัตว์ใส่ผักก็กินได้เลย แต่ที่บิ๊มอยากแนะนำน้ำซุปนี้เพราะว่ามันน้ำหนักเบาดี งงมั้ยทำไมให้เหตุผลนี้ฮ่าๆ ….คือเวลาที่บ้านทำ Hot pot กินกัน บิ๊มเป็นสายชอปปิ้งอาสาจัดหนักให้ทุกคน พอต้องซื้อน้ำซุปถุงใหญ่หลายถุงแล้วมันหนักมาก ลำบากในการขนของกลับบ้าน แต่น้ำซุปตัวนี้เป็นแบบเข้มข้นแพคเป็นกล่องเล็กๆ เวลากินคือผสมน้ำเปล่าให้เจือจางแล้วก็กินได้เลย แถมเหมาะกับคนที่อยากกินหม้อไฟเล็กๆ คนเดียวด้วย แต่ๆๆๆ ข้อเสียของน้ำซุปแบบเข้มข้นนี้คือรสชาติเวลาผสมน้ำออกมาจะจางกว่าน้ำซุปถุงใหญ่นะทุกคน ถ้ากินหลายคนแนะนำให้ซื้อถุงใหญ่ผสมถุงเล็กนี้ค่อนข้างประหยัดและง่ายต่อการขนย้าย ถ้าซื้อรสกิมจิก็ขอแนะนำให้ซื้อกิมจิสดแยกมาใส่เพิ่มเพื่อความเข้มข้น เอาให้ฟินเนอะ!
11. ไข่ปลาเมนไทโกะ
แนะนำอันนี้เพราะรู้สึกว่ามันสามารถทำอาหารได้หลายอย่าง กินคู่กับข้าวสวยได้เลยโดยไม่ต้องปรุงสุกหรือเอาไปย่างให้หอมก่อนก็ได้ และที่หนึ่งในใจบิ๊มคือการเอาไปทาขนมปังปิ้งรสชาติออกมาญี่ปุ๊นญี่ปุ่น วิธีทำดังนี้ เอาขนมปังฝรั่งเศสผ่าครึ่งทาเนยให้ทั่วแล้วเอาเข้าเตาปิ้งให้กรอบ (ประมาณ 5 นาที) เอาออกมาพักไว้ก่อน ใช้สันมีดขูดไข่ปลาเมนไทโกะออกจากพวงไข่ 1 พวง (แนะนำแบบเผ็ด) ผสมกับมายองเนสชิมรสตามชอบ (บิ๊มชอบใส่เกลือเพิ่มนิดหน่อย) แล้วเอาไปทาลงบนขนมปัง (อยากทาหนาเท่าไรก็จัดไปอย่าไปยั้ง) จากนั้นก็เอาเข้าเตาปิ้งจนกรอบจ้า เอาออกมาโรยสาหร่ายแล้วกินตอนร้อนๆ บอกเลยอร่อยมาก จงไปตำ! กรอบนอกนุ่มในหอมกลิ่นไข่ปลากับสาหร่ายและมันมายองเนสดีย์!
12. ก้อนแกงกะหรี่สำเร็จรูปของ House แบรนด์ Kare-Ya
House ถือเป็นบริษัทที่ทำก้อนแกงกะหรี่ได้ประสบความสำเร็จที่สุดในญี่ปุ่น มีให้เลือกหลายรสชาติหลายแบรนด์มาก ส่วนตัวชอบรสชาติเข้มข้นแบบแบรนด์ Kare-Ya ที่กล่องมีคำโฆษณาว่าผสมเครื่องเทศลงไปกว่า 29 ชนิด แถมเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง มีความเผ็ดให้เลือก 3 แบบ เผ็ดน้อย เผ็ดกลาง เผ็ดมาก ซึ่งบอกเลยว่าเผ็ดน้อยของพี่ยุ่นคือไม่เผ็ดเลยสำหรับคนไทยนะคะเด็กกินได้สบาย วิธีการทำก็ง่ายมาก เอาหอมใหญ่ มันฝรั่ง แครอทมาผัด จากนั้นใส่เนื้อสัตว์ใส่น้ำเปล่าแล้วบิก้อนแกงกะหรี่ใส่แค่นี้คือเสร็จ! และอร่อยมาก แต่ถ้าใครชอบกะหรี่เนื้อน่องลายเปื่อยๆ แนะนำให้ต้มน่องลายจนเปื่อยก่อนแล้วพักไว้ จากนั้นผัดเหล่าหอมใหญ่ มันฝรั่ง แครอทจนสุก จึงเอาทั้งเนื้อเปื่อยและน้ำต้มเนื้อใส่ลงไปนะคะ แล้วค่อยผสมเครื่องแกงกะหรี่ทีหลัง ใครชอบรสอมหวานหน่อยแนะนำให้ใส่แอปเปิลลงไปนิดนึงหวานนัวแน่นอน
13. น้ำสลัดยี่ห้อ Pietro Dressing
รสชาติที่แนะนำเป็นรสงาของยี่ห้อนี้เพราะมันไม่เป็นน้ำสลัดแบบงาครีม! ย้ำนะคะอันนี้เป็นรสงาที่เป็นน้ำสลัดแบบใส รสคล้ายโชยุ มีสไตล์ญี่ปุ่นผสมกับสไตล์ฝรั่งได้อย่างลงตัว สำหรับบิ๊มมันเป็นรสชาติลูกครึ่งที่อร่อยมาก ในน้ำสลัดนี้มีส่วนผสมหอมหัวใหญ่ทำให้น้ำสลัดอมหวานนิดๆ ตัดกับรสเค็มอ่อนๆ และมีกลิ่นเครื่องเทศอื่นๆ ด้วย กินกับผักสดเข้ากันมาก ให้ทั้งความสดชื่นและกลมกล่อมไปพร้อมๆ กัน ข้อเสียคือน้ำสลัดอายุประมาณ 6 เดือน สั้นกว่ายี่ห้อทั่วไปที่จะอายุประมาณหนึ่งปี
14. ถั่วเคลือบเกาหลียี่ห้อ Toms
ขอแวะไปเกาหลีหน่อยนะเพราะชอบถั่วยี่ห้องนี้จริงๆ มีขายแทบจะทุกห้างในกรุงเทพฯ แหละ ตอนได้กินครั้งแรกก็แบบอืมมมมรสชาติธรรมดานะ แต่อร่อย แล้วพอได้กินคำที่ 2 ถึงรู้ว่ามันเบรกแตกมากจ้า เพราะปริมาณถั่วกับน้ำตาลที่เคลือบด้านบนค่อนข้างพอดี ยังคงความมันอมเค็มนิดๆ ของถั่วไว้ได้ ตัดกับความหวานอ่อนๆ ของผงที่เคลือบโดยรอบนิดๆ ดังนั้นรู้ตัวอีกทีก็หมดถุง! โดยส่วนตัวชอบรสวาซาบิมาก ชอบความขึ้นจมูกเล็กน้อยซึ่งมันยิ่งทำให้กินได้แบบ non stop ทั้งหวานทั้งเผ็ดพอดีกันมากๆ
Contributor
Tags:
Recommended Articles
Recommended Videos