มีต้นกำเนิดที่จีน แต่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘เกี๊ยวซ่า’ เมนูที่ในอดีตเคยถูกจับพ่วงเป็นออปชั่นให้กับราเมน แต่ด้วยความกินอร่อย ครบรสชาติและสารอาหาร เกี๊ยวซ่าค่อยๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องพ่วงกับใคร กลายเป็นอีกหนึ่งสตรีตฟู้ดยอดนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยลิ้มรส

เมื่อเดินทางจากจีนไปแจ้งเกิดที่ญี่ปุ่นแล้ว เกี๊ยวซ่ายังเดินทางต่อไปเรื่อยๆ อีกหลายประเทศ ผสมรวมกับวัฒนธรรมอื่นๆ ได้อย่างกลมกลืน อย่างเช่นโฉมใหม่ของ Teraoka Gyoza ที่มาจ๊ะเอ๋กับวัฒนธรรมไทยในสาขาใหม่นี้

Teraoka Gyoza คือเกี๊ยวซ่าชื่อคุ้นหูสำหรับขาช้อปย่านสยาม ที่หลายคนตั้งสมญานามให้เป็น ‘เกี๊ยวซ่าแชมเปี้ยน’ เพราะมีซิกเนเจอร์เป็นเมนูแชมเปี้ยน 7 สมัยซ้อนจากเวที Gyoza Stadium แห่งโตเกียว อย่างเมนู Mentai Cheese Gyoza (189 บาท) เกี๊ยวซ่าโดดเด่นตั้งแต่ตัวไส้ที่เป็นเนื้อน่องไก่ ทอดแบบน้ำมันน้อย ราดด้วยชีสเผาที่ท็อปด้วยไข่ปลาเมนไทโกะเพิ่มมิติและกลิ่นของรสชาติไปอีกระดับ ถือว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ตลอดกาลของ Teraoka Gyoza เลยทีเดียว และยิ่งสนุกขึ้นไปอีกเมื่อเป็นโอกาสดีที่เชฟ Teraoka Yuichi เจ้าของเมนูแชมเปี้ยนได้มาโชว์ฝีมือทำเกี๊ยวซ่าสารพัดเมนูด้วยตัวเอง กลายเป็นเซอร์ไพรส์พิเศษที่ทำให้เกี๊ยวซ่าอร่อยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

 

 

 

 

นอกจากเมนูแชมเปี้ยนที่ต้องสั่งกันทุกโต๊ะอย่าง Mentai Cheese Gyoza แล้ว ความเชื่อหนึ่งของ Teraoka Gyoza ที่แม้ไม่เอ่ยออกมาเราก็สัมผัสได้ นั่นก็คือการเชื่อว่าเกี๊ยวซ่าสามารถเป็นอะไรก็ได้ อย่างเช่นเกี๊ยวซ่าแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่ากิมจิ หรือแม้กระทั่ง เกี๊ยวซ่าลาบไก่ (139 บาท) ที่เป็นการเอาเกี๊ยวซ่ามาจับมือกับอาหารไท้…ไทยอย่างลาบอีสาน ปรากฏว่าเกี๊ยวซ่าน่องไก่แบบออริจินอลของ Teraoka เข้ากันได้ดีกับกลิ่นสมุนไพรและข้าวคั่วหอมๆ เสิร์ฟพร้อมมะนาวซีกให้ได้ปรุงความแซ่บซี๊ดได้ตามใจปากมากขึ้น

 

 

นอกจากนี้ยังมี เกี๊ยวซ่าทาโกะยากิ (159 บาท) ที่จับเกี๊ยวซ่ามาแปลงร่างด้วยการใส่ไส้ซีฟู้ดอย่างปลาหมึกเพื่อคงความเป็นทาโกะยากิไว้ โรยด้วยปลาแห้ง สาหรายแห้ง และมายองเนสเพิ่มความเข้มข้น เมื่อกินเข้าไปคำโตก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกินทาโกะยากิที่มีแป้งน้อยมากๆ และมีรสหวานน้อยกว่า ทำให้กลิ่นปลาแห้งหอมๆ โดดเด่นขึ้นแบบเต็มปากเต็มคำ

ส่วนสาขาใหม่ล่าสุดที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวแห่งนี้ มีเมนูพิเศษซึ่ง ณ เวลานี้ต้องมากินที่สาขานี้สาขาเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ Teraoka BIG5 (125 บาท) เซ็ตเกี๊ยวซ่าที่อร่อยได้ถึง 5 แบบ 5 คำ ได้แก่ เกี๊ยวซ่าน่องไก่ เสิร์ฟพร้อมกับมะนาวและพริกไทยเพิ่มกลิ่นและรสชาติ เกี๊ยวซ่ากุ้งที่มีเนื้อกุ้งเต็มๆ ทั้งตัว เกี๊ยวซ่าปลาหมึก เกี๊ยวซ่ากุยช่ายแป้งบางกลิ่นหอมและเกี๊ยวซ่าเห็ดชิเมจิ ไร้เนื้อสัตว์ เมื่อคีบเกี๊ยวซ่าแต่ละคำขึ้นมาก็จะปรากฏรีแอกชั่นอร่อยล้ำจากเชฟ Teraoka มาสร้างสีสันด้วยอีกต่างหาก

 

 

อีกเมนูหนึ่งที่ดูธรรมดาแต่สบประมาทไม่ได้เลย ก็คือ Yasai Maki (125 บาท) เกี๊ยวซ่าเจที่ดัดแปลงไส้ให้ปราศจากเนื้อสัตว์ โดยใช้กะหล่ำปลี เต้าหู้ และเห็ดมาผสมกันแทนได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือต้องกินจิ้มกับ ‘เกลือชาเขียว’ เกล็ดเล็กละเอียด กลิ่นหอม ที่ทำให้รสชาติของเกี๊ยวซ่าเจธรรมดาๆ สดชื่นขึ้นมาได้เลย

 

 

นอกจากเมนูเกี๊ยวซ่า Teraoka Gyoza ก็ยังมีเมนูอื่นๆด้วยเช่นกัน อย่างเช่น Yuzu Salad (119 บาท) เมนูเย็นชื่นใจแต่ไม่ใช่ของหวาน กินสนุกด้วยมิติของรสชาติที่แตกต่างกันในคำเดียว เริ่มตั้งแต่เกล็ดน้ำแข็งใส่ที่มีรสเปรี้ยวบางๆ พร้อมกลิ่นส้มยูสุเป็นสัมผัสแรก ต่อไปจึงเป็นรสเค็มและกลิ่นของซุปดาฉิที่มาในรูปแบบเยลลี่ ค่อยๆ ละลายให้ได้รสเค็มเพิ่มขึ้นทีละนิด หลังจากนั้นจึงเป็นสาหร่ายวากาเมะและรสสัมผัสของหัวไชเท้าขูด เทคนิคในการกินคือต้องตักให้มีทั้ง 4 อย่างนี้อยู่ในคำเดียวกัน ส่วนใครชอบรสแบบไหนก็ตักให้มีส่วนประกอบแต่ละอย่างมากน้อยตามสะดวก

 

 

หรือถ้าใครยังไม่อิ่มก็ต้องลองซิกเนเจอร์ของร้านอีกเมนูหนึ่ง อย่าง Yusu Ramen (189 บาท) ราเมนหอมๆ ด้วยกลิ่นปลาคัทซึโอะในน้ำซุป เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นเปลือกส้มยูสุ พร้อมกับ ‘ไก่ชาชู’ ที่นุ่มนิ่มแทบละลายในปาก มาในไซส์ใหญ่แบบเต็มอิ่ม

นอกจากเมนูเฉพาะอย่าง Teraoka BIG5 เซ็ตเกี๊ยวซ่า 5 คำ 5 แบบแล้ว ความพิเศษของสาขาใหม่ สาขาที่ 7 ในไทยนี้ก็คือการปรับโฉมให้สนุกสนานมากขึ้น ตั้งแต่การจัดร้านไปจนถึงครัวแบบเปิดที่ให้ได้เรียกน้ำย่อยกันโดยการนั่งชมลีลาการปรุงอาหารไปเพลินๆ บรรยากาศแบบนี้มีเฉพาะสาขาล่าสุดที่ชั้น G เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าวเท่านั้น

เกี๊ยวซ่าไม่ใช่แค่เกี๊ยวซ่าอีกต่อไปแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าเกี๊ยวซ่าจะเป็นอะไรได้อีก ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองที่ Teraoka Gyoza เท่านั้น

Teraoka Gyoza