ธรรมเนียมอาหารเช้าบนเตียง กับความหมายทางชนชั้นของอิสตรีที่ซ่อนอยู่ในสำรับ
ใครเป็นแฟนซีรีส์สัญชาติอังกฤษอย่าง Downton Abbeyคงเคยผ่านตาซีนอาหารเช้าบนเตียงอันโด่งดังกันมาบ้างด้วยฉากหนึ่งยามเช้า ณ คฤหาสน์ของท่านเอิร์ล เมื่อบรรดาพี่สาวชวนน้องสาววัยแรกรุ่นรับอาหารเช้ากันในห้องนอนทว่าตัวน้องสาวกลับปฏิเสธด้วยเหตุว่า “ก็ฉันยังไม่ได้แต่งงานเลยนี่!” ก่อนลงมากินอาหารร่วมกับแขกเหรื่อในห้องอาหารหรูหราแทน ชวนให้สงสัยว่าธรรมเนียมอาหารเช้าบนเตียงมีอะไรมากกว่าความหรูหราหรือ? และทำไมถึงสงวนไว้สำหรับคนมีคู่เท่านั้น?
ยังไม่นับประเพณีนิยมในเวทีนางงามจักรวาลเมื่อสาวสวยคนใดได้รับมงกุฎแล้วนั้น เช้าวันถัดมาเธอจะต้องตื่นแต่เช้ามืดมาแต่งหน้าเต็ม (ทั้งที่ยังสวมชุดนอน) เพื่อให้ช่างภาพหลายสิบชีวิตรัวแฟลชใส่ขณะค่อยๆ ละเลียดอาหารเช้าแบบ Full English Breakfast บนเตียงนอน
ภาพที่ฮือฮาของคนไทยหนีไม่พ้นนางงามจักรวาลยุค 60s อย่างคุณอาภัสราหงสกุลในชุดนอนตัวโคร่งถือแก้วน้ำส้มและมีถาดอาหารเช้าวางอยู่บนตักซึ่งขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทั้งไทยและเทศแทบทุกฉบับในยุคนั้น
หรือภาพบนหน้านิตยสารในปี 1952 ของเซ็กส์บอมบ์ระดับโลกอย่างมาริลีนมอนโรที่เอนกายกินอาหารเช้าอยู่บนเตียงจนกลายเป็นกระแสสังคมอย่างกว้างขวางเล่นเอานางแบบและสาวๆ ในวงสังคมอเมริกันสมัยนั้นถ่ายรูปขณะกินอาหารเช้าบนเตียงตามกันเป็นแถวจนเกิดภาพจำว่าอาหารเช้าบนเตียงหรือ Breakfast in Bed นั้นเป็นของคู่กับสตรีสูงศักดิ์ผู้แต่งงานแล้วทางฝั่งเมืองผู้ดีหรือเป็นของคู่กับสาวสวยระดับโลกเท่านั้น
เรียกว่าเป็นความหมายทางชนชั้นที่ซ่อนอยู่ในสำรับบนเตียงก็ว่าได้
ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการกินอาหารเช้าบนเตียงกันสักหน่อย โดยการกินอาหารเช้าในรูปแบบที่ดูไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไรนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในยุคที่วัฒนธรรมการกินอย่างมีแบบแผนเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ในแวดวงชนชั้นสูงชาวบริติชทั้งการดื่มชายามบ่ายเมื่อเกิดการนำเข้าชาดีจากฝั่งเอเชียอย่างแพร่หลายจากการเดินหน้าล่าอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ รวมถึงการกินอาหารเช้ามื้อเล็กอย่าง Little Breakfast ที่เน้นเสิร์ฟของว่างเล็กๆ อย่างแซนด์วิชหรือครัวซองต์เนื้อบางเบาคู่กับกาแฟดำให้สำหรับเหล่าท่านเอิร์ลหรือท่านลอร์ดรองท้องก่อนออกไปทำกิจกรรมยามเช้าอย่างขี่ม้า เล่นกีฬาหรือหย่อนใจกันในคฤหาสน์ แล้วจึงกลับมารับอาหารเช้าแบบ Full Breakfast กันตอนเริ่มสาย ส่วนท่านหญิงทั้งหลายนั้นกินกันตั้งแต่บนเตียงแล้ว
แม้จะไม่มีคำอธิบายถึงเหตุผลอันชัดเจนของการกินอาหารเช้าบนเตียงของสตรีชั้นสูง แต่เหล่านักประวัติศาสตร์ก็ประเมินกันว่าอาจเกิดขึ้นเพื่อเป็น ‘แบบแผน’ ของชนชั้นสูงที่คงเริ่มต้นจากวิถีชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบอะไรมาก อีกทั้งชนชั้นสูงส่วนมากยังนิยมแยกห้องนอนระหว่างสามีและลูกๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นการกินอาหารเช้าบนเตียงจึงไม่รบกวนคู่ชีวิต ทั้งยังมีเวลาเหลือเฟือในการดูแลลูกๆ ที่อาจเข้ามาวอแวในห้องนอนของแม่ตลอดช่วงเช้าเพราะการขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างห้องอาหารหรูในคฤหาสน์หลังใหญ่กับห้องนอนไม่น่าจะสะดวกเท่าไร กระทั่งกลายเป็นธรรมเนียมว่าอาหารเช้าบนเตียงสงวนไว้ให้สตรีมีคู่แล้วเท่านั้น สาวน้อยนางไหนที่อยากกินอาหารเช้าบนเตียงบ้างก็ต้องหักห้ามใจเพราะอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่ามีคู่แล้วจนกลายเป็นข่าวซุบซิบในวงสังคมชั้นสูงได้
ความนิยมของอาหารเช้าบนเตียงแพร่หลายสู่สังคมอเมริกันในเวลาต่อมา ทว่ายังจำกัดวงอยู่ในระดับผู้มีอันจะกินที่แม้ไม่ได้เป็นท่านหญิงหรือท่านลอร์ดแต่ก็ยังกินอาหารเช้ากันในห้องนอน เพื่อแสดงสถานะทางสังคมก่อนรูปแบบการกินอาหารเช้าดังกล่าวจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อป (Pop Culture) แพร่หลายกระจายสู่อีกนานับประเทศทั่วโลกเหมือนที่ครั้งหนึ่งอิเกีย ประเทศอังกฤษเคยเปิด Pop-up Cafe เสิร์ฟอาหารเช้ากันบนเตียงนอนอิเกีย เพื่อเปิดประสบการณ์การกินอาหารเช้าสุดพิเศษเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสักร้อยปี หรือในเมืองแห่งอาหารดีอย่างไอร์แลนด์เองก็เกิดแอปพลิเคชั่น Breakfast Me บริการเสิร์ฟอาหารเช้าจากร้านโปรดให้คุณถึงเตียงนอน เรียกว่าอยากกินร้านไหน เมนูอะไร กดสั่งไว้ก่อนนอนตอนเช้าก็พร้อมเสิร์ฟ ในประเทศไทยเองหลายโรงแรมก็มีบริการเสิร์ฟอาหารเช้าถึงห้องนอนเช่นกัน
แม้จะถูกตั้งคำถามหนักว่าการกินอาหารเช้ากันบนเตียงนั้นมันไม่ถูกสุขลักษณะสักเท่าไรหรือเปล่า เมื่อเศษอาหารอาจตกอยู่บนที่นอนจนกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ทั้งการกึ่งนั่งกึ่งนอนกินอาหารเช้านั้นก็อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่สะดวก กระทั่งเสี่ยงต่อโรคภัยมากมายหลายชนิด
แต่ใครจะสนในเมื่อเราต่างไม่รู้ว่าเบื้องหลังรูปถ่ายภาพกินอาหารเช้าหรือการบอกใครๆ ว่าขอรับอาหารบนห้องนอนนั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร บางคนอาจตั้งโต๊ะกินกันจริงจังในห้องนอนแทนการกินบนเตียงก็เป็นได้ เพียงเป็นแบบแผนให้รู้ว่าฉันแตกต่าง เพราะแน่ละว่าสำรับอาหารเช้าบนหน้าตักของเหล่านางงามจักรวาลในชุดนอนตัวโคร่งแต่งหน้าจัดเต็มคงเย็นชืดจนไม่อร่อยไปเรียบร้อยแล้วกว่าที่ ‘พิธีกรรม’ การกินอาหารเช้าบนเตียงจะสิ้นสุดเมื่อแสงแฟลชวูบสุดท้ายดับลง
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos