เชียงใหม่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งคาเฟ่ประจำยุค เพราะทั่วเมืองมีร้านบรรยากาศดีๆ ที่เสิร์ฟอาหารดีๆ กาแฟดีๆ อยู่เกินจะนับไหว กระนั้นเลยในบรรดาคาเฟ่ที่ว่าดีเหล่านั้น ก็ยังมีร้านที่เราสัมผัสได้ถึงความ “ดีมากๆ” จากความตั้งใจของคนทำ ทั้งเรื่องรสชาติ ราคา และแนวคิดเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ และแฝงพลังในการขับเคลื่อนเมืองเพื่อให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้นอยู่ในนั้นด้วย

FOO Coffee Roaster x Loaf & Fish เป็นร้าที่เรายืนยันได้ว่าอยู่ในกลุ่ม “ดีมากๆ” อีกร้านหนึ่ง

 

นักล่า Fine Dining คงเคยได้ยินชื่อของเชฟแนน-รินเมธ ไทยสุชาติ จากร้าน Cuisine de Garden กันมาบ้าง ด้วยว่าเป็นร้านอันดับต้นๆ ประจำเมืองเชียงใหม่ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ล้านนา-นอร์ดิก และหยิบเอาวัตถุดิบดีๆ ทั่วไทย จากทั้งบนดอย ในแม่น้ำ และใต้ทะเล มาเล่าเรื่องราวแสนอร่อยหมุนเวียนไปตามฤดูกาล

 

ส่วนคอกาแฟก็คงจะเคยได้ยินชื่อของคุณโหน่ง-ไกรสิทธิ์ ฟูสุวรรณ ผู้ขับเคลื่อนแวดวงกาแฟและก่อตั้ง ‘กาแฟวาวี’ แบรนด์กาแฟออแกนิกที่เติบโตไปเป็นเชนกาแฟระดับประเทศแล้วในปัจจุบัน

 

เมื่อยอดฝีมือทั้ง 2 คนนี้มารวมตัวกัน อาหารจะไม่ละเมียดละไมได้อย่างไร?

FOO Coffee Roaster x Loaf & Fish จึงเป็นร้านที่เราเชื่อมันในคุณภาพตั้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นเมนู เพราะมีเชฟแนนมาดูแลฝั่งอาหาร และมีคุณโหน่งมาดูแลคุณภาพฝั่งกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ในขณะที่มาตรฐานของวัตถุดิบและกรรมวิธีทั้งหมดยังอยู่ในระดับยอดฝีมือ แต่บรรยากาศและราคากลับสบายๆ น่ารักสมเป็นคาเฟ่เชียงใหม่ ที่สำคัญคือร้านอยู่หน้าโรงแรมศรีประกาศ ใกล้ๆ กับขัวเหล็กและสะพานเนาวรัตน์ ซึ่งเป็นย่านน่ารักประจำเมืองเชียงใหม่ วันไหนแดดร่มลมตก ย่านนี้จะเหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองเลียบน้ำปิงสุดๆ (ถ้าใครทันดูหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” ขัวเหล็กที่ว่านี้ก็คือสะพานเหล็กที่เป็นฉากเด่นในเรื่องนั่นเองค่ะ)

 

เราโชคดีที่ได้แวะไปเยือนร้าน FOO Coffee Roaster x Loaf & Fish ในช่วงสายๆ ของวันที่อากาศเป็นใจสุดๆ ก่อนลมหนาวจะโบกมือลา เราจึงได้นั่งชมเชียงใหม่ริมฝั่งน้ำปิง แกล้มไปกับกาแฟและอาหารดีๆ อย่างนี้ค่ะ

 

เริ่มต้นกันที่อเมริกาโน่เย็น และอเมริกาโน่ส้ม ที่ราคาเริ่มต้นแค่ 65 บาท ถ้าจะเลือกเมล็ดกาแฟที่เป็น Specialty blend ของทางร้านก็เพิ่มแค่แก้วละ 20 บาทเท่านั้น รวมแล้วจะกินกาแฟแฟนซีพิถีพิถันขนาดไหนก็ราคาไม่เกิน 100 บาท เป็นคุณภาพและราคาที่น่ารักสุดๆ สมกับเป็นกาแฟเชียงใหม่จริงๆ

 

ได้คาเฟอีนแล้วก็มาเริ่มกันที่เมนูเบาๆ อย่าง Bread & Butter (85 บาท) ขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติที่สามารถเลือกได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นซาวเออร์โด บริยอช และเซียบัตตา ส่วนเนยก็มีให้เลือก 3 แบบ คือเนยจืด เนยกระเทียม หรือเนยปูอ่อง เสิร์ฟมาเป็นรูปปลาน่ารักน่าเอ็นดู เราเลือกเป็นขนมปังบริยอชกับเนยปูอ่อง ได้เป็นขนมปังที่ Instagramable สุดๆ จานนี้

 

เหนือไปกว่าหน้าตาที่น่ากดหัวใจให้ คือรสสัมผัสของขนมปังที่นุ่มชุ่มเนยสมศักดิ์ศรีความเป็นบริยอช และเนยปูอ่องนั้นก็นเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกำลังดีระหว่างความหอมมันแบบเนย และกลิ่นปูอ่อง (ใครเคยกินเนยปูอ่องจากร้าน Cuisine de Garden ของเชฟแนนมาแล้ว ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยค่ะว่าเป็นเนยแบบเดียวกันแน่นอน)

เพื่อให้สมกับชื่อร้านว่า Loaf & Fish เราจึงเลือกเมนู Open Sandwich มาอีก 2 เมนู (เริ่มต้นที่ 225 บาท) จานหนึ่งเป็น Salmon Gravlax หรือแซลมอนหมักแห้งแบบสแกนดิเนเวีย ส่วนอีกจานหนึ่งเป็นปลาทะเลรมควัน ซึ่งจะมีปลาอินทรีย์เป็นวัตถุดิบยืนพื้น และอาจมีปลาทะเลอื่นๆ หมุนเวียนมาให้เลือกกินได้ตามโอกาส

 

เมนูนี้น่าเซอร์ไพรส์ตรงที่ว่า จานที่เป็นปลาไทยก็รสชาติดีสู้แซลมอนได้ราวกับว่าเป็นปลานำเข้าเหมือนกันเลยค่ะ กินแล้วรับรู้ได้เลยว่าเนื้อปลาถูกจัดการมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นทาง ส่วนขนมปังก็ได้กลิ่นหมักกำลังดี เนื้อนุ่ม เหนียว ความเปรี้ยวปลายๆ ของเซียบัตต้าเข้ากันดีกับรสเค็มของปลาซึ่งผ่านการหมักบ่มมาจนมีรสเข้มข้นขึ้น ตัดกับรสชาติของผักสดๆ ที่เสิร์ฟมาด้วย กลายเป็นอาหารมื้อเช้า (หรือมื้อสายๆ) ที่ดีมากๆ อีกจานเลยค่ะ

ไหนๆ ก็กินไปเสียขนาดนี้ เราก็ควรจะกินต่อให้เต็มอิ่มไปเลย ด้วย Omelette Plate (265 บาท) จานนี้เหมาะสำหรับเป็นมื้อเช้าจานใหญ่แบบอิ่มจบในเมนูเดียว เพราะมีทั้งขนมปังซาวเออร์โด เนย ไข่นุ่ม แยมหอมผัด เนื้อปลาและผักดองไว้ตัดรสชาติ (fishkuterie) จากเมนูก่อนๆ ที่คิดว่าอิ่มแล้ว พอเห็นสีสันของจานนี้เข้า เราก็พร้อมพลีกระเพาะอาหารทันที

 

ขนมปังซาวเออร์โดของ Loaf&Fish เป็นซาวเออร์โดที่พิเศษมากๆ เลยค่ะ คนที่ไม่ชอบซาวเออร์โดก็น่าจะกินได้สบายๆ เพราะมันถูกปรับมาให้เหนียวนุ่ม ไม่แข็ง เปลือกไม่หนามาก ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลิ่นหมักและกลิ่นเปลือกแบบที่ควรจะมี ซาวเออร์โดสูตรนี้เป็นความตั้งใจของเชฟแนนที่อยากทำซาวเออร์โดให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็กินง่าย กินแล้วสบายท้อง ไม่แน่นท้อง โดยการใช้ยีสต์ธรรมชาติ เป็นขนมปังเพื่อสุขภาพที่ยังคงความอร่อยไว้ด้วย ถ้าถามว่าอร่อยแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าทุกคนบนโต๊ะได้กินแล้วตาโตกันหมด -มันดีขนาดนั้นเลยเชียวค่ะ

ส่วนไข่นุ่มก็นุ่มสมชื่อ เป็นไข่ที่ทำด้วยเทคนิคไข่ม้วนแบบญี่ปุ่น แต่ไม่แต่งรสให้ติดหวาน เสิร์ฟมาเป็นชิ้นโตๆ ให้เติมโปรตีนกันแบบสะใจ การเสิร์ฟชิ้นโตแบบนี้มีข้อดีสองอย่าง คือ หนึ่ง ถ่ายรูปแล้วสวยเต็มตา และสอง เนื้อไข่ข้างในยังคงความนุ่ม ไม่แห้ง ไม่กระด้าง แม้ว่าเราจะถ่ายรูปก่อนกินกันนานสองนานก็ตาม

 

นอกจากเมนูขนมปัง ปลา และกาแฟแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูจริงจังอย่างฟิชแอนด์ชิปส์ มีเมนูสำหรับสายหวานอย่างโทสต์และวาฟเฟิล รวมถึงเมนูสำหรับสายสุขภาพอย่างสมูธตี้ผักและผลไม้ เป็นร้านที่เหมาะกับทุกจังหวะโอกาส ไม่ว่าจะหาอาหารอร่อยๆ กินจริงจัง นัดเพื่อนมานั่งคุยสบายๆ กินขนมแก้เบื่อ หรือจะมานั่งจิบกาแฟทอดหุ่ยดูคนเชียงใหม่ใช้ชีวิตก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ

กลับเชียงใหม่ครั้งหน้าฉันจะกลับมาที่ร้านนี้อีกแน่นอน เพราะยังมีเมนูที่อยากลองอีกเพียบ โดยเฉพาะฟิชแอนด์ชิปส์ปลาไทยที่น่ากินสุดๆ (แต่วันนี้โควตาพื้นที่ในกระเพาะมีจำกัด) การมีปลาคุณภาพดีจากทะเลไทยมาให้กินในเมนูเก๋ๆ ถึงเชียงใหม่ขนาดนี้ ฉันจะอดใจไม่ฝากตัวเป็นลูกค้าประจำไหวได้ยังไงละคะ

FOO Coffee Roaster x Loaf & Fish
พิกัด ถ.เชียงใหม่-ลำพูน หน้าโรงแรมศรีประกาศ
(Google Map : https://maps.app.goo.gl/pn6uYDXoNKX6TjKh7)
เวลาเปิด-ปิด 08:00-17:00
โทร : 092-4956464