เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
4
แกงบุ่มไบ่ เป็นแกงโบราณของไทยที่มีลักษณะคล้ายของแกงอินเดีย นิยมแกงกับไก่หรือเนื้อวัว ใส่เครื่องเทศหลากหลายชนิดที่นำมาโขลกเป็นน้ำพริกแกงบุมไบ่ เช่น พริกไทยขาว ลูกผักชี ขมิ้น ข่า ตะไคร้ หอมแดง และกระเทียม เคี่ยวกับกะทิหอมๆ จนแตกมัน มีกลิ่นหอมจากขมิ้น และเครื่องเทศ รสเปรี้ยวจากมะขามเปียก หวาน และเค็มเล็กน้อย บันทึกเกี่ยวกับแกงไทยโบราณชนิดนี้ที่เก่าที่สุด อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 นิยมใส่ผักเช่น หอมใหญ่ แตงร้าน มะเขือเทศท้อ หรือมัน แกงบุมไบ่ ปัจจุบัน หารับประทานยาก ด้วยวิธีการการโขลกน้ำพริกแกงที่ต้องสดใหม่นั้นเอง
INGREDIENTS
เนื้อวัวส่วนสันใน
300 กรัม
ผงกระหรี่
1 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ (สำหรับหมักเนื้อ)
3 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ
1 1/2 ถ้วย
แตงล้านหั่นชิ้นพอคำ
1 ถ้วย
หอมใหญ่หั่นเสี้ยว
1/2 ถ้วย
หางกะทิ
2 ถ้วย
น้ำปลา
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว
1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสวยสำหรับจัดเสิร์ฟ
พริกไทยขาวเม็ด
1/2 ช้อนชา
ลูกผักชีคั่ว
1 ช้อนชา
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม
8 เม็ด
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ข่าเเก่หั่นละเอียด
2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย
2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยเเกะเปลือก
1 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นหั่นเเว่น
1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย
5 หัว
กะปิย่าง
1 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. หมักเนื้อวัวโดยหั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นพอคำใส่ถ้วยไว้ ตามด้วยผงกระหรี่และหัวกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าพอเข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 15 นาที
2. ทำพริกแกงโดยโขลกพริกไทยขาวกับลูกผักชีคั่วพอละเอียด ตามด้วยพริกแห้งและเกลือสมุทร โขลกจนให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น และหอมแดงลงโขลกทีละอย่างจนละเอียด ใส่กะปิย่าง โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. ตั้งกระทะไทยบนไฟกลาง ใส่หัวกะทิ ¼ ถ้วย ลงผัดกับพริกแกงจนหอม ใส่หัวกะทิที่เหลือ รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ใส่เนื้อวัวที่หมักไว้ลงไป เคี่ยวพอเนื้อวัวสุก จึงใส่แตงล้าน หอมใหญ่ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน รอให้เดือดซักครู่ ใส่น้ำมะนาวลงไป ปิดไฟ คนให้เข้ากัน
4. ตักแกงบุ่มไบ่ใส่ถ้วย เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ
Recommended Articles

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล

แกงหน่อไม้ฉบับลูกอีสาน นำหน่อไม้หวานเเละเห็ดขม เห็ดพื้นถิ่นที่ขึ้นตามสวนยูคาลิปตัส มีรสขม ต้องมาต้มล้างความขมออกก่อนประมาณ 2-3 รอบ ก่อนนำไปต้มกับน้ำคั้นใบย่านาง ใส่เครื่องสมุนไพรอย่างมะเขือพวงเเละกระชาย เพิ่มความนัวด้วยข้าวเบือเเละน้ำปลาร้า ต้มจนน้ำแกงเข้าเนื้อ รสเข้มข้น เติมพริกอีสานลูกโดดลงไปเเพิ่มความจัดจ้าน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยนักแหละ

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล

แกงหน่อไม้ฉบับลูกอีสาน นำหน่อไม้หวานเเละเห็ดขม เห็ดพื้นถิ่นที่ขึ้นตามสวนยูคาลิปตัส มีรสขม ต้องมาต้มล้างความขมออกก่อนประมาณ 2-3 รอบ ก่อนนำไปต้มกับน้ำคั้นใบย่านาง ใส่เครื่องสมุนไพรอย่างมะเขือพวงเเละกระชาย เพิ่มความนัวด้วยข้าวเบือเเละน้ำปลาร้า ต้มจนน้ำแกงเข้าเนื้อ รสเข้มข้น เติมพริกอีสานลูกโดดลงไปเเพิ่มความจัดจ้าน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยนักแหละ

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล

แกงหน่อไม้ฉบับลูกอีสาน นำหน่อไม้หวานเเละเห็ดขม เห็ดพื้นถิ่นที่ขึ้นตามสวนยูคาลิปตัส มีรสขม ต้องมาต้มล้างความขมออกก่อนประมาณ 2-3 รอบ ก่อนนำไปต้มกับน้ำคั้นใบย่านาง ใส่เครื่องสมุนไพรอย่างมะเขือพวงเเละกระชาย เพิ่มความนัวด้วยข้าวเบือเเละน้ำปลาร้า ต้มจนน้ำแกงเข้าเนื้อ รสเข้มข้น เติมพริกอีสานลูกโดดลงไปเเพิ่มความจัดจ้าน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยนักแหละ
Recommended Videos