เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
1/2 ถ้วย
Level
2
INGREDIENTS
สะระแหน่เด็ดใบ
¼ ถ้วย
ต้นหอมซอย
¼ ถ้วย
ขิงแก่สับหรือบด
¼ ถ้วย
ผักชีซอย
¼ ถ้วย
พริกชี้ฟ้าสีเขียวแกะเมล็ดออกหั่นท่อนสั้น
1 เม็ด
น้ำ
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู
½ ถ้วย
น้ำตาลทราย
¼ ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ปั่นใบสะระแหน่ ต้นหอม ขิง ผักชี พริกชี้ฟ้า และน้ำ เข้าด้วยกันให้ละเอียด เทใส่ชามหรืออ่างผสม ใส่น้ำส้มสายชูน้ำตาล และเกลือ คนให้ทั่วจน น้ำตาลละลาย (ห้ามตั้งไฟเด็ดขาด) ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน เค็ม
2. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ
Tips
- สะระแหน่ทำให้น้ำจิ้มมีกลิ่นหอมเย็นเลือกสะระแหน่ใบขนาดกลาง สด ไม่ช้ำ ปั่นน้ำจิ้มเสร็จแล้วปรุงรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ใช้ได้เลย ไม่ต้องตั้งไฟเป็นน้ำจิ้มสดจึงได้กลิ่นรสสะระแหน่เต็มๆ ช่วยให้ข้าวหมกไก่กินแล้วไม่มันเลี่ยน
สูตรอาหารโดย เยาวภา ขวัญดุษฎี
Tags:
ข้าวหมกไก่, ต้นหอม, น้ำจิ้ม, น้ำจิ้มสูตรอร่อย, ผักชี, พริกชี้ฟ้า, อาหารมาเลเซีย, อาหารอินเดีย, ใบสะระแหน่
Recommended Articles
ไส้ใหญ่วัว (대창 – Daechang) เป็นไส้ที่มีขนาดใหญ่กว่าไส้หมู ด้านในมีไขมันอยู่จำนวนมาก เป็นไส้ที่คนเกาหลีนิยมรับประทาน วิธีย่าง คือ ค่อยๆย่างจนผิวด้านนอกกรอบ เวลากัดเข้าไปแล้วจะมีไขมันที่ยังฉ่ำๆ พุ่งออกมา เหตุผลที่คนเกาหลีนิยมกินไส้ย่างเพราะเป็นอาหารที่มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อยเข้มข้น เมื่อย่างจนสุกพอดีไส้ก็ยังมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ กินกับน้ำจิ้มและผักสด
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
ไส้ใหญ่วัว (대창 – Daechang) เป็นไส้ที่มีขนาดใหญ่กว่าไส้หมู ด้านในมีไขมันอยู่จำนวนมาก เป็นไส้ที่คนเกาหลีนิยมรับประทาน วิธีย่าง คือ ค่อยๆย่างจนผิวด้านนอกกรอบ เวลากัดเข้าไปแล้วจะมีไขมันที่ยังฉ่ำๆ พุ่งออกมา เหตุผลที่คนเกาหลีนิยมกินไส้ย่างเพราะเป็นอาหารที่มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อยเข้มข้น เมื่อย่างจนสุกพอดีไส้ก็ยังมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ กินกับน้ำจิ้มและผักสด
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
ไส้ใหญ่วัว (대창 – Daechang) เป็นไส้ที่มีขนาดใหญ่กว่าไส้หมู ด้านในมีไขมันอยู่จำนวนมาก เป็นไส้ที่คนเกาหลีนิยมรับประทาน วิธีย่าง คือ ค่อยๆย่างจนผิวด้านนอกกรอบ เวลากัดเข้าไปแล้วจะมีไขมันที่ยังฉ่ำๆ พุ่งออกมา เหตุผลที่คนเกาหลีนิยมกินไส้ย่างเพราะเป็นอาหารที่มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อยเข้มข้น เมื่อย่างจนสุกพอดีไส้ก็ยังมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ กินกับน้ำจิ้มและผักสด
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย
มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย
ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล
ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน
ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
Recommended Videos