เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

พุดดิ้งอินทผลัม

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

9 ชิ้น

Level

2

เทศกาลวาเลนไทน์มีกลิ่นอายความหอมหวานคละคลุ้ง ชวนให้นึกถึง ของหวานสุดโปรดที่หอมนุ่มนวลใครไม่ออกเดทในวันนี้ มาลองทำเดทพุดดิ้งหรือพุดดิ้งอินทผลัมกันดีกว่า ลูกเดท (date) หรือลูกอินทผลัม เป็นผลไม้จากต้นปาล์มซึ่งมีมากในเขตร้อนเช่น ทะเลทรายตะวันออกกลาง ด้วยอากาศร้อนแบบแห้ง เมื่อผลสุกเต็มที่จึงนิยม ทำเป็นอินทผลัมแห้ง จนกลายเป็นผลไม้แห้งราคาแพง พุดดิ้งอินทผลัม สูตรนี้ควรรับประทานเนื้อเค้กแบบอุ่นๆ ราดกับซอสแล้วจะยิ่งอร่อยหยอดหน้าด้วยครีมหรือไอศกรีมวานิลลาเย็นๆ รับประทาน แล้วหอมหวานถูกใจนัก

INGREDIENTS

แป้งสาลีอเนกประสงค์

90 กรัม

เบกกิ้งโซดา

1/2 ช้อนชา

เกลือป่น

1/4 ช้อนชา

อินทผลัมแห้งหั่นลูกเต๋า

200 กรัม

อัลมอนด์สับหยาบอบ

70 กรัม

เนยสดชนิดจืด

60 กรัม

น้ำตาลทรายแดง

100 กรัม

ไข่ไก่

1 ฟอง

ไข่แดงไข่ไก่

3 ฟอง

กลิ่นวานิลลา

1 ช้อนชา

ไข่ขาวไข่ไก่

3 ฟอง

น้ำตาลทราย

30 กรัม

วิปปิ้งครีมชนิดตีแล้วสำหรับจัดเสิร์ฟ

อุปกรณ์ พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 8x8 นิ้ว กระดาษไข

METHOD

     

  1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปูพิมพ์ด้วยกระดาษไข เตรียมไว้
  2.  

  3. ร่อนแป้งสาลี เบกกิ้งโซดา และเกลือ ลงในอ่างผสม ใส่อินทผลัม และอัลมอนด์สับ คลุกให้เข้ากัน ตีเนยในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนนุ่มลง ใส่น้ำตาลทรายแดง ตีจนส่วนผสมเป็นสีน้ำตาลอ่อนลง ใส่ไข่ไก่ ไข่แดง และกลิ่นวานิลลา ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4.  

  5. ใส่ส่วนผสมแป้งและอินทผลัมลงในส่วนผสมไข่ไก่ ใช้พายยางตะล่อมให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
  6.  

  7. ตีไข่ขาวในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายลงในไข่ขาวทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวฟู ตั้งยอดอ่อน
  8.  

  9. ใส่ไข่ขาวที่ตีทีละครึ่งลงผสมในส่วนผสมแป้งข้อ 3 ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบประมาณ 25 นาที
  10.  

  11. ทำซอสคาราเมลโดยใส่น้ำตาลทรายลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนน้ำตาลเป็นคาราเมลใส่เนย คนให้เข้ากัน ใส่วิปปิ้งครีมและน้ำตาลทรายแดง คนให้น้ำตาลละลาย ปรุงรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย
  12.  

  13. จัดเสิร์ฟโดยตัดเค้กออกเป็น 9 ชิ้น จัดใส่จาน ราดซอสคาราเมลร้อนๆบนชิ้นเค้ก ตักวิปปิ้งครีมวางด้านบน เสิร์ฟทันที
  14.  

 

 

 

หมายเหตุ

 

     

  • หากนำเค้กเก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนรับประทานนำมาราดซอสคาราเมล แล้วอุ่นในไมโครเวฟ ด้วยไฟแรงสุดประมาณ 30 วินาที จะทำให้เนื้อเค้กฉ่ำและนุ่มขึ้น
  •  

  • อินทผลัมแห้งมีขายทั้งแบบมีเม็ดและคว้านเม็ดแล้ว ถ้าเหลือใช้ให้เก็บใส่กล่องแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา เก็บได้นานเป็นปี หากเก็บไว้นานจะเริ่มแห้งมากเกินไป ก่อนนำมาทำขนมให้แช่เหล้าหรือน้ำเล็กน้อย
  •  

Gallery

Share this content

Tags:

กลิ่นวนิลา, ซอสคาราเมล, น้ำตาล, พุดดิ้งอินทผลัม, อินทผลัม, เนย, ไข่ไก่

Recommended Articles

Recipeคาราเมลคัสตาร์ด
คาราเมลคัสตาร์ด

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

 

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recommended Videos