เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

เค้กฮัมมิ่งเบิร์ด

Recipe by ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ

Serves

2 ปอนด์ (8 ชิ้น)

Level

4

ตั้งชื่อตามนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศจาไมกา เกาะทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา มีอีกชื่อหนึ่งเรียกขำๆว่า Doctor bird cake (Doctor bird เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของนกชนิดนี้) เนื้อเค้กจะคล้ายกับแครอทเค้กคือเนื้อเค้กฉ่ำๆ แล้วมีฟรอสติ้งเป็นครีมชีส แต่ความต่างคือฮัมมิ่งเบิร์ดเค้กจะใส่กล้วยและสับปะรดแทน หอมกลิ่นอบเชย ใส่ถั่วอย่างพีแคนหรือวอลนัท เค้กฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในปี 1968 จากการโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศจาไมกาผ่านสูตรอาหารอื่นๆ รวมถึงสูตรเค้กฮัมมิ่งเบิร์ดนี้ด้วย

INGREDIENTS

แป้งสาลีอเนกประสงค์

300 กรัม

เบกกิ้งโซดา

1 ช้อนชา

อบเชยป่น

1 ช้อนชา

เกลือป่น

1/2 ช้อนชา

ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม)

3 ฟอง

น้ำตาลทราย

260 กรัม

กลิ่นวานิลลา

1 ช้อนชา

น้ำมันพืชหรือน้ำมันรำข้าว

300 กรัม

กล้วยหอมบดละเอียด

270 กรัม (ประมาณ 2 1/2 ผล)

สับปะรดหั่นเต๋า

100 กรัม

พีแคนอบ หั่นหยาบ

100 กรัม

สับปะรดอบแห้ง พีแคนอบสับหยาบ และโรสแมรีสำหรับตกแต่ง

อุปกรณ์ พิมพ์กลมขนาด 8นิ้ว จำนวน 3 พิมพ์ กระดาษไข มีดฟันเลื่อย ฐานแต่งเค้ก สปาตูลา

METHOD

     

  1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขด้านล่างพิมพ์ทั้งสามอัน เตรียมไว้
  2.  

  3. ร่อนแป้งสาลี เบกกกิ้งโซดา อบเชย และเกลือป่น เข้าด้วยกันสองรอบ พักไว้ ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาลงในอ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้าจนไข่ไก่ฟู เทน้ำมันพืชลงไปช้าๆขณะที่ตีไปด้วยจนหมด ใส่กล้วยหอมบด ตีต่อให้เข้ากัน แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ใส่ลงในส่วนผสมทีละ 1/3 ส่วน ตีด้วยความเร็วต่ำสุดให้เข้ากัน ปิดเครื่อง ใส่สับปะรดและพีแคน ใช้พายยางผสมให้เข้ากันด้วยด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนฟู เทใส่พิมพ์เค้ก พิมพ์ละ 500 กรัมให้เท่ากัน เคาะพิมพ์เบาๆกับพื้นโต๊ะเพื่อไล่ฟองอากาศ นำเข้าอบนาน 25 นาทีจนเค้กสุกดี นำออกจากเตา คว่ำเค้กบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พักไว้ให้เนื้อเค้กเย็นสนิท
  4.  

  5. ระหว่างนั้นทำครีมชีสฟรอสติ้งโดยใส่ครีมชีสและเนยลงในอ่างผสม​ ตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้าจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (ควรนำครีมชีสและเนยออกทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องจนนุ่มก่อน จะตีง่ายขึ้น) แล้วจึงใส่น้ำตาลไอซิ่ง ตีให้เข้ากัน ใส่วิปปิ้งครีมและกลิ่นวานิลลา พอให้เนียนข้นเข้ากัน
  6.  

  7. ประกอบเค้กโดยใช้มีดฟันเลื่อยสไลซ์ด้านบนส่วนโค้งออก ทำแบบนี้ทั้ง 3 ชิ้น วางเค้กชิ้นแรกลงบนฐานแต่งเค้ก ปาดครีมชีสฟรอสติ้งให้เรียบทั่ว วางเค้กชั้นที่ 2 ปาดครีมชีสฟรอสติ้งเช่นเดิม แล้ววางเค้กชั้นสุดท้าย ปาดหน้าเค้กด้านบนและด้านข้างให้เรียบทั้งก้อน แช่ตู้เย็นให้เค้กเซ็ตตัวประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำออกมาตกแต่งด้วยสับปะรดแห้ง พีแคนสับ และโรสแมรี
  8.  

 

Tips:

 

     

  • ทำสับปะรดอบแห้งโดยปอกเปลือกสับปะรด คว้านหรือปอกเอาตาสับปะรดออก สไลซ์สับปะรดเป็นชิ้นบาง 2 มม.วางเรียงชิ้นสับปะรดบนถาดอบที่ปูด้วยแผ่นอบซิลิโคน โดยวางให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ประกบด้วยแผ่นอบซิลิโคนอีกแผ่น หาถาดอบอีกใบที่มีขนาดเท่ากันทับแผ่นซิลิโคนแผ่นบนไว้ เผื่อให้เวลาอบสับปะรดไม่งอหรือดีดตัวขึ้น นำเข้าอบเตาอบแบบพัดลมอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 40 นาทีจนสับปะรดเริ่มแห้ง สังเกตได้เมื่อเปิดแผ่นซิลิโคนออกมาสับปะรดเริ่มขุ่นและสีซีดลง หลังจากนั้นลดไฟเตาอบเป็น 80 องศาเซลเซียส อบต่อเเบบเปิดหน้าสับปะรดเอาไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจนสับปะรดแห้งสนิทดี ถ้าอยากได้ชิ้นสับปะรดแห้งเเบบโค้งงอ ในการอบครั้งที่สองให้ค่อยๆลอกสับปะรดออกจากแผ่นซิลิโคนแล้วนำไปวางในพิมพ์คัพเค้กหรือพิมพ์มัฟฟินให้เป็นทรง แล้วอบต่อจนแห้งเป็นทรงถ้วยน้อยๆ
  •  

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

Gallery

Share this content

Tags:

ขนมหวานฝรั่ง, ขนมอบ, ของหวานฝรั่ง, ครีมชีส, น้ำตาลไอซิ่ง, น้ำมัน, พีแคน, วิปปิ้งครีม, สับปะรด, เค้ก, เบเกอร์รี, แป้งสาลีอเนกประสงค์, ไข่ไก่

Recommended Articles

Recipeเค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด
เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด

คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recommended Videos