เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4 คน
Level
3
แกงเลียงฟักทอง อาหารสุขภาพ เป็นแกงโบราณ ที่มีรสเค็มและเผ็ดร้อนจากพริกไทย มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จากใบแมงลัก เป็นแกงที่เน้นการใส่ผักมากกว่าเนื้อสัตว์ จึงเหมาะมากสำหรับวัยผู้สูงอายุ เพราะแกงเลียงสามารถเลือกใส่ผักที่ย่อยง่ายได้ตามใจชอบ
INGREDIENTS
ฟักทองอ่อน (250 กรัม)
1 ลูก
น้ำ
3 ถ้วย
น้ำพริกแกงที่โขลก
1/2 ถ้วย
บวบเหลี่ยม (170 กรัม) ปอกเปลือกหั่นแฉลบ
1 ลูก
เห็ดฟางดอกบานผ่าครึ่ง
100 กรัม
ดอกฟักทอง
1 ถ้วย
ยอดฟักทองเด็ด
1 ถ้วย
เกลือสมุทร
1/2 ช้อนชา
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ
แมงลักเด็ดใบ
1/4 ถ้วย
พริกไทยขาวเม็ด
1 ช้อนชา
พริกขี้หนูสีแดง
2 เม็ด
หอมแดงหั่น
9 หัว
ข่าอ่อนหั่น
1 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งป่น
1/4 ถ้วย
กะปิ
1 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ทำน้ำพริกแกงเลียงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ล้างฟักทองอ่อน ตัดขั้วผ่าครึ่งหั่นแฉลบชิ้นหนา ใส่ลงแช่ในอ่างน้ำเกลือเจือจางเพื่อล้างเอายางออก เตรียมไว้
3. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงเลียงที่โขลก คนให้ทั่ว ต้มสักครู่ ใส่ฟักทอง ต้มจนฟักทองสุก ใส่บวบ เห็ดฟาง ต้มพอสุก ใส่ดอกและยอดฟักทอง ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลา ชิมรสให้เค็มกลมกล่อม หวานจากผัก ใส่ใบแมงลัก ปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วยหรือหม้อดินตั้งบนเตาถ่าน เสิร์ฟร้อนๆ
Recommended Articles

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
Recommended Videos