เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
3 ปอนด์
Level
4
เค้กมะยงชิดเปรี้ยวอมหวาน เนื้อเค้กเบาๆเย็นๆ หอมหวานสดชื่นตามสไตล์เค้กผลไม้ชิฟฟอน รสอ่อนๆของโยเกิร์ตในวิปปิ้งครีมช่วยให้หน้าเค้กไม่เลี่ยนจนเกินไปทำให้เค้กมะยงชิดสูตรนี้หากใครได้ลิ้มลองแล้วคงหยุดไม่ได้
INGREDIENTS
แป้งเค้ก
120 กรัม
ผงฟู
1 ช้อนชา
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
ไข่แดงไข่ไก่
4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา
1 ช้อนชา
นมสดชนิดจืด
50 กรัม
น้ำมันพืช
80 กรัม
น้ำตาลทราย
65+80 กรัม
ไข่ขาว
5 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์
1/4 ช้อนชา
มะยงชิด
500 กรัม
น้ำเชื่อมสำหรับทาเนื้อเค้ก ใบแก้วสำหรับตกแต่ง
วิปปิ้งครีม
400 กรัม
โยเกิร์ต (145 กรัม)
1 กระปุก
อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์เค้กกลมขนาด 3 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูถาด สปาตูลา
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขด้านล่างและด้านข้างพิมพ์ เตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือป่นรวมกัน พักไว้ ใส่ไข่แดง กลิ่นวานิลลา นมสด น้ำมันพืช และน้ำตาล 65 กรัมลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือตีให้เนียนเข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
2. ตีไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเป็นฟองหยาบๆ ค่อยๆเทน้ำตาลทรายที่เหลือลงไปช้าๆจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียดและตั้งยอดอ่อน แบ่งไข่ขาวออกมา 1/3 ส่วนใส่ลงในส่วนผสมข้อ 1 ใช้ตะกร้อคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไป ใช้พายยางตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน เทเนื้อเค้กใส่พิมพ์เค้กที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ นำเข้าอบประมาณ 20-25 นาทีจนเค้กสุก นำเค้กออกจากเตา คว่ำไว้บนตะแกรง พักไว้จนเย็นสนิท
3. ระหว่างพักเค้กให้เย็น เตรียมมะยงชิดโดยล้างผลมะยงชิดให้สะอาด ซับให้แห้ง ใช้มีดขนาดเล็กหรือมีดแกะสลัก ปอกเนื้อมะยงให้แนบกับเมล็ดที่สุด แล้วสไลซ์ออกเป็นชิ้นบางๆ เรียงใส่จานพักไว้
4. ทำครีมโยเกิร์ตโดยตีวิปปิ้งครีมและโยเกิร์ตในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนตั้งยอดอ่อน สไลซ์ตัดเนื้อเค้กส่วนที่โค้งออก แล้วสไลซ์เนื้อเค้กออกเป็น 2 ชั้นเท่าๆกัน ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมแต้มเนื้อเค้กทั้ง 2 ชิ้นให้ทั่ว วางเค้กชิ้นแรกบนแป้นหมุน (เอาด้านที่แต้มน้ำเชื่อมขึ้นด้านบน) ตักครีมโยเกิร์ตใส่ ปาดด้วยสปาตูลาให้เรียบ เรียงเนื้อมะยงชิดให้ทั่ว ปาดครีมทับเนื้อมะยงชิดอีกที วางเค้กอีกชิ้นประกบโดยเอาด้านที่ทาน้ำเชื่อมเป็นด้านไส้เค้ก ปาดครีมด้านบนและด้านข้างเค้กจนเรียบ วางมะยงชิดด้านบนให้ทั่ว ตกแต่งด้วยใบแก้ว นำเข้าแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมงพอให้ครีมเซ็ตตัวกับเนื้อเค้กก่อน จึงตัดเสิร์ฟเป็นชิ้น
Tags:
ขนมหวาน, ของหวาน, ชิฟฟอนเค้ก, นมสด, น้ำตาล, น้ำมัน, ผงฟู, มะยงชิด, วิปปิ้งครีม, อบ, เค้ก, เค้กครีมสด, เค้กผลไม้, เบเกอร์รี, แป้งเค้ก, โยเกิร์ต, ไข่ไก่
Recommended Articles

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

เส้นหมี่เบตงมีขนาดเล็กสีเหลืองคล้ายเส้นแคปเปลลินี (cappellini) มีความเหนียวนุ่มและดูดน้ำซอสได้ดีเยี่ยม เลยใช้เป็นเส้นสปาเกตตีได้ เพิ่มความพิเศษด้วยเบคอนชิ้นหนา ย่างเกรียมนิดๆ กินกับเส้นและครีมซอสมันๆ นัวๆ ท็อปปิ้งด้วยไข่ออนเซนเข้าไปอีก บอกเลยว่าลืมเส้นสปาเกตตีแบบเดิมไปเลย

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

ชูส์ครีมขนมที่ประกอบไปด้วยนม เนย ไข่ น้ำตาล ที่ได้ขึ้นชื่อว่าทำยากนัก ทำทีไรก็ไม่สำเร็จ แป้งไม่สุกบ้าง แป้งยุบลงบ้าง สารพัดปัญหาต่างๆ มักเกิดขึ้นกับขนมที่ขึ้นชื่อว่า ‘ชูส์’ หลักใจความสำคัญของการลบปัญหาต่างๆออกจากขนมที่ชื่อว่า ‘ชูส์’ คือการผสมแป้งกับไข่ให้มีลักษณะความข้นที่พอดีไม่เหลวและไม่หนักจนเกิดไป และอย่างที่สองคืออุณหภูมิในการอบที่ต้องพอดีจึงจะได้แป้งชูส์ที่สีเหลืองสวยน่ากิน และสิ่งสุดท้ายคือการไล่ความชื่อออกจากก้อนชูส์ เพื่อให้โครงสร้างของแป้งชูส์นั้นแข็งแรงขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

เส้นหมี่เบตงมีขนาดเล็กสีเหลืองคล้ายเส้นแคปเปลลินี (cappellini) มีความเหนียวนุ่มและดูดน้ำซอสได้ดีเยี่ยม เลยใช้เป็นเส้นสปาเกตตีได้ เพิ่มความพิเศษด้วยเบคอนชิ้นหนา ย่างเกรียมนิดๆ กินกับเส้นและครีมซอสมันๆ นัวๆ ท็อปปิ้งด้วยไข่ออนเซนเข้าไปอีก บอกเลยว่าลืมเส้นสปาเกตตีแบบเดิมไปเลย

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

ชูส์ครีมขนมที่ประกอบไปด้วยนม เนย ไข่ น้ำตาล ที่ได้ขึ้นชื่อว่าทำยากนัก ทำทีไรก็ไม่สำเร็จ แป้งไม่สุกบ้าง แป้งยุบลงบ้าง สารพัดปัญหาต่างๆ มักเกิดขึ้นกับขนมที่ขึ้นชื่อว่า ‘ชูส์’ หลักใจความสำคัญของการลบปัญหาต่างๆออกจากขนมที่ชื่อว่า ‘ชูส์’ คือการผสมแป้งกับไข่ให้มีลักษณะความข้นที่พอดีไม่เหลวและไม่หนักจนเกิดไป และอย่างที่สองคืออุณหภูมิในการอบที่ต้องพอดีจึงจะได้แป้งชูส์ที่สีเหลืองสวยน่ากิน และสิ่งสุดท้ายคือการไล่ความชื่อออกจากก้อนชูส์ เพื่อให้โครงสร้างของแป้งชูส์นั้นแข็งแรงขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

เส้นหมี่เบตงมีขนาดเล็กสีเหลืองคล้ายเส้นแคปเปลลินี (cappellini) มีความเหนียวนุ่มและดูดน้ำซอสได้ดีเยี่ยม เลยใช้เป็นเส้นสปาเกตตีได้ เพิ่มความพิเศษด้วยเบคอนชิ้นหนา ย่างเกรียมนิดๆ กินกับเส้นและครีมซอสมันๆ นัวๆ ท็อปปิ้งด้วยไข่ออนเซนเข้าไปอีก บอกเลยว่าลืมเส้นสปาเกตตีแบบเดิมไปเลย

มะตะบะหวาน หรือ Martabak manis เป็นแพนเค้กของอินโดนีเซีย ลักษณะจะคล้ายถังเเตกบ้านเราเเละเป็นขนมเเนวสตรีทฟู้ดของอินโดนีเซีย ตัวแป้งมีลักษณะเป็นฟองอากาศทั่วทั้งเเผ่น เเป้งหนา ความน่ากินคือไส้ที่หลากหลาย โดยไส้ที่นิยมคือไส้ออริจินอลที่ทาด้วยการีน โรยชีสขูด ช็อกโกแลตเกล็ดน้ำตาล นมข้นหวานเเละเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับหยาบ ถูกใจคนชอบกินของหวานเเน่นอน

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

ชูส์ครีมขนมที่ประกอบไปด้วยนม เนย ไข่ น้ำตาล ที่ได้ขึ้นชื่อว่าทำยากนัก ทำทีไรก็ไม่สำเร็จ แป้งไม่สุกบ้าง แป้งยุบลงบ้าง สารพัดปัญหาต่างๆ มักเกิดขึ้นกับขนมที่ขึ้นชื่อว่า ‘ชูส์’ หลักใจความสำคัญของการลบปัญหาต่างๆออกจากขนมที่ชื่อว่า ‘ชูส์’ คือการผสมแป้งกับไข่ให้มีลักษณะความข้นที่พอดีไม่เหลวและไม่หนักจนเกิดไป และอย่างที่สองคืออุณหภูมิในการอบที่ต้องพอดีจึงจะได้แป้งชูส์ที่สีเหลืองสวยน่ากิน และสิ่งสุดท้ายคือการไล่ความชื่อออกจากก้อนชูส์ เพื่อให้โครงสร้างของแป้งชูส์นั้นแข็งแรงขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ
Recommended Videos