เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

สังขยาฟักทอง

Recipe by ทีมบรรณาธิการ

Serves

4 ชิ้น

Level

3

INGREDIENTS

ฟักทองลูกเล็ก (200 กรัม)

1 ลูก

ไข่ไก่ (ฟองละ 60-65 กรัม)

4 ฟอง

น้ำตาลปี๊บ

¼ ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ

หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม คั้นไม่ใส่น้ำ)

½ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ

ใบเตยมัดเป็นปม (หรือใช้ใบตองแห้ง)

3 ใบ

อุปกรณ์เฉพาะ ลังถึง, ถ้วยขนาดพอดีกับฟักทอง

METHOD

1. ล้างเปลือกฟักทองให้สะอาด ใช้มีดปลายแหลมเจาะตรงขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา ตักไส้ออกให้หมด ล้างผลฟักทองอีกครั้งให้สะอาด ทั้งด้านนอกและด้านใน แล้วคว่ำลงพักให้แห้ง

 

2. ต่อยไข่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล หัวกะทิ และใบเตย ขยำให้น้ำตาลละลายหมด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอน ใส่ถ้วย พักไว้

 

3. ใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ 3/4 ของลังถึง ปิดฝา ยกขึ้นตั้งบนไฟแรง รอจนน้ำเดือด จึงวางฟักทองลงในถ้วย ใส่สังขยาลงในผลฟักทองให้เหลือปากประมาณ 1 นิ้วพร้อมวางฝาฟักทองไว้ข้างๆ เมื่อน้ำเดือดให้นำไปนึ่งโดยลดเป็นไฟกลาง นึ่งนานประมาณ 30-45 นาที หรือจนสุกยกลงพักให้เย็นสนิท เมื่อจะเสิร์ฟจึงหั่นฟักทองเป็นเสี้ยวจัดใส่จาน

 

ลักษณะที่ดี

 

     

  • สังขยามีกลิ่นหอม รสหวานมัน เนื้อฟักทองเหนียวและมัน
  •  

 

ข้อน่ารู้

 

     

  • เลือกฟักทองที่มีเนื้อเหนียวและขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อให้นึ่งสุกเร็วและเนื้อไม่เละ
  •  

  • เวลานึ่งไม่ควรใช้ไฟแรงมากเกินเพราะจะทำให้ฟักทองแตก
  •  

 

สูตรอาหารโดย อบเฉย อิ่มสบาย

Share this content

Tags:

กะทิ, ขนมนึ่ง, ขนมหวาน, ขนมไทย, น้ำตาล, ฟักทอง

Recommended Articles

Recipeขนมโคสามสหาย
ขนมโคสามสหาย

ขนมโค ลูกกลมๆ น่ารักที่คลุกด้วยมะพร้าวขูดเส้น หน้าตาเหมือนขนมต้มของภาคกลางแต่สอดไส้น้ำตาลก้อนอยู่ด้านใน เป็นขนมมงคลที่มักถูกใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานประเพณีทางศาสนา หรือแม้กระทั่งใช้ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความนุ่มหนึบของแป้ง ความหอมมันของมะพร้าวและความหวานหอมชุ่มฉ่ำของไส้น้ำตาลแว่นที่เมื่อกัดเข้าไปแล้วไส้จะมีความเยิ้มของน้ำตาลที่ละลายนิดๆ แต่ยังคงได้ความกรุบกรอบอยู่ เป็นสัมผัสที่ลงตัวเข้ากัน

 

Recipeข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้
ข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

 

Recipeข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้
ข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

 

Recipeข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้
ข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงน้ำดอกไม้

ขนมหวานหน้าร้อนต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสุกนุ่มมูนกับกะทิสดหอมๆ หวานเค็มมันกำลังดี กินกับมะม่วงสุกที่หาได้ในฤดูร้อน เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ อกร่อง เขียวเสวย ฯลฯ เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูสายพันธุ์เชียงราย เมล็ดข้าวเรียวยาว เคล็ดลับคือ การเตรียมข้าวเหนียวให้ถูกต้องก่อน ข้อแรกคือเราต้องรู้ว่าข้าวเหนียวที่ใช้เก่าหรือใหม่เพื่อที่จะแช่ข้าวเหนียวให้พอดี ข้อสองคือการล้างเอายางข้าวออกเพื่อให้มูนแล้วเมล็ดข้าววาวใส ส่วนกะทิที่มูนถ้าจะให้ดี ควรใช้กะทิสดจะหอมมันกว่ากะทิกล่องเป็นไหนๆ วิธีเลือกกะทิสดให้สั่งมะพร้าวขูดขาว (ขูดไม่ติดกะลามะพร้าว) และให้แม่ค้าคั้นแบบไม่ใส่น้ำ จะได้หัวกะทิข้นๆ เมื่อได้มาแล้ว หากยังไม่ทำทันทีให้นำหัวกะทิที่ซื้อมาตั้งไฟอ่อนพอให้กะทิร้อนประมาณ 80องศาเซลเซียสเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน มิเช่นนั้นกะทิจะบูดเสียก่อน

 

Recommended Videos