เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
2
สลัดผักม่วงชื่อก็บอกแล้วว่าใช้ผักที่มีสีม่วงมาทำสลัดอย่างแครอทม่วงและผักโขมม่วง กินคู่กับน้ำสลัดรสชาติเปรี้ยวๆที่มีส่วนผสมอย่างน้ำส้มสายชูบัลซามิกและน้ำส้มสายชูไวน์แดง ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยเล็กน้อย
INGREDIENTS
แครอทม่วง
2 หัว
ผักโขมม่วงเด็ดใบ
50 กรัม
แรดิชิโอ
50 กรัม
ร็อกเกต
25 กรัม
พาร์มีซานชีสสไลซ์สำหรับจัดเสิร์ฟ
น้ำส้มสายชูบัลซามิก
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
น้ำตาลทรายไม่ฟอก
½ ช้อนชา
พริกไทยดำป่น
1/8 ช้อนชา
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
¼ ถ้วย
METHOD
1. ทำน้ำสลัดโดยใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิก น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง เกลือ น้ำตาลทรายไม่ฟอก และพริกไทยดำ ลงในอ่างผสม ค่อยๆเทน้ำมันมะกอกลงไป ใช้ช้อนหรือตะกร้อมือคนให้เข้ากันหรือจนน้ำตาลละลาย
2. เตรียมแครอทม่วงโดยใช้มีดขูดเปลือกออก สไลซ์แครอทตามยาวโดยใช้ที่ปอกเปลือก นำไปแช่น้ำเย็นจนแผ่นแครอทงอตัว สงขึ้น สะเด็ดน้ำ พักไว้
3. จัดเสิร์ฟโดยเคล้าผักสลัดทั้งหมดกับน้ำสลัด จัดใส่จาน โรยพาร์มีซานชีสสไลซ์
Recommended Articles

เติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยสลัดกรีก การผสมผสานที่ลงตัวของ ผักกาดคอส มะเขือเทศสดฉ่ำ แตงกวากรอบ หอมแดง และพริกหวาน คลุกเคล้ากับน้ำสลัดเลมอนน้ำผึ้งเข้มข้น และที่ขาดไม่ได้คือ เฟต้าชีส (Feta Cheese) ก้อนโต เนื้อเนียนนุ่ม รสเค็มมันกำลังดี เป็นเมนูเบาๆ ที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติ เหมาะสำหรับมื้อกลางวันเพื่อสุขภาพ หรือเป็นเครื่องเคียงจานหลักก็อร่อยลงตัว

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

เติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยสลัดกรีก การผสมผสานที่ลงตัวของ ผักกาดคอส มะเขือเทศสดฉ่ำ แตงกวากรอบ หอมแดง และพริกหวาน คลุกเคล้ากับน้ำสลัดเลมอนน้ำผึ้งเข้มข้น และที่ขาดไม่ได้คือ เฟต้าชีส (Feta Cheese) ก้อนโต เนื้อเนียนนุ่ม รสเค็มมันกำลังดี เป็นเมนูเบาๆ ที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติ เหมาะสำหรับมื้อกลางวันเพื่อสุขภาพ หรือเป็นเครื่องเคียงจานหลักก็อร่อยลงตัว

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

เติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยสลัดกรีก การผสมผสานที่ลงตัวของ ผักกาดคอส มะเขือเทศสดฉ่ำ แตงกวากรอบ หอมแดง และพริกหวาน คลุกเคล้ากับน้ำสลัดเลมอนน้ำผึ้งเข้มข้น และที่ขาดไม่ได้คือ เฟต้าชีส (Feta Cheese) ก้อนโต เนื้อเนียนนุ่ม รสเค็มมันกำลังดี เป็นเมนูเบาๆ ที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติ เหมาะสำหรับมื้อกลางวันเพื่อสุขภาพ หรือเป็นเครื่องเคียงจานหลักก็อร่อยลงตัว

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
Recommended Videos