เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
3
สลัดจานนี้หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรจากเนื้อไก่ที่ผ่านการหมักเครื่องสมุนไพรอย่างน้ำมันมะกอก กระเทียม โรสแมรี ไธม์ โฮลเกรนมัสตาร์ด เกลือ และพริกไทย หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำมาย่าง หั่นเป็นชิ้นๆเสิร์ฟกับสลัดบรอกโคลี
INGREDIENTS
อกไก่เลาะหนัง (200 กรัม)
2 ชิ้น
น้ำมันมะกอก
3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมฝานบาง
2 กลีบ
โรสแมรีแห้ง
2 ช้อนชา
ไธม์แห้ง
2 ช้อนชา
โฮลเกรนมัสตาร์ด
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทรและพริกไทยดำป่น อย่างละ
½ ช้อนชา
อัลมอนด์สไลซ์สำหรับโรย
บรอกโคลีหั่นเป็นดอก
2 ถ้วย
น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง
2 ช้อนโต๊ะ
โฮลเกรนมัสตาร์ด
1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น
¼ ถ้วย
เกลือสมุทร
1/8 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
¼ ช้อนชา
METHOD
1. หมักอกไก่กับน้ำมันมะกอก กระเทียม โรสแมรี ไธม์ โฮลเกรนมัสตาร์ด เกลือ และพริกไทย เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 1 ชั่วโมง
2. เตรียมสลัดบรอคโคลี โดยตั้งหม้อน้ำบนไฟแรง ใส่เกลือเล็กน้อย เมื่อน้ำเดือดจัด นำบรอคโคลีลงลวกจนสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นจัด พอบรอกโคลีหายร้อน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
3. ทำน้ำสลัดโดยใส่น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง โฮลเกรนมัสตาร์ด น้ำมันมะกอกในอ่างผสม ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาล คนเร็วๆให้เข้ากัน นำไปราดบรอกโคลีลวก คลุกให้ทั่ว
4. ตั้งกระทะบนไฟกลางจนร้อน นำอกไก่ลงย่างจนสุกเหลือง ตักขึ้น พักไว้
5. จัดสลัดบรอกโคลีที่หัวจาน วางอกไก่ย่างหั่นชิ้น โรยอัลมอนด์สไลซ์ เสิร์ฟ
Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผักร็อกเก็ตหรืออะรูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดปนขม ส่วนมากจะกินแบบดิบกันเป็นส่วนใหญ่ สลัดจานนี้เลือกใช้ผักอะรูกูลามาเสิร์ฟคู่กับปลาหมึกย่างที่หมักด้วยนำเลมอน น้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัดกันได้ดีกับตัวผัก

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน
Recommended Videos